องค์พระเยซูเจ้าได้ตรัสไว้ว่า พระองค์จะเสด็จมาอีก ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกลับมาในยุคสุดท้าย พระองค์จะทรงปรากฏต่อผู้คนโดยวิถีทางใดหรือ? หนทางแห่งการเสด็จมาถึงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ทำไมพระเจ้าต้องทรงบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อทรงพระราชกิจแห่งการพิพากษาของพระองค์ในยุคสุดท้ายล่ะ ในยุคธรรมบัญญัติ พระเจ้าทรงใช้โมเสสเพื่อทำพระราชกิจของพระองค์ เช่นนี้ ทำไมพระเจ้าใช้มนุษย์ทำพระราชกิจแห่งการพิพากษาของพระองค์ในยุคสุดท้ายไม่ได้ล่ะ หนทางแห่งการเสด็จมาถึงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ฉันได้เชื่อในองค์พระเยซูเจ้ามาหลายปี และแม้ว่า ฉันตระหนักรู้ว่า องค์พระเยซูเจ้าคือพระเจ้าผู้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจความจริงอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับการทรงจุติเป็นมนุษย์ หากว่าตอนที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกลับมา พระองค์ทรงปรากฏดังที่องค์พระเยซูเจ้าได้ทรงปรากฏจริงๆ โดยทรงพระราชกิจในฐานะบุตรมนุษย์ เช่นนั้นแล้วก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะระลึกได้ว่าเป็นพระองค์ หรือถวายการต้อนรับการเสด็จมาของพระองค์ ฉันรู้สึกว่าการทรงจุติเป็นมนุษย์เป็นข้อล้ำลึกประการหนึ่ง และมีผู้คนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่เข้าใจความจริงของการทรงจุติเป็นมนุษย์ กรุณาสามัคคีธรรมกับฉันว่า การทรงจุติเป็นมนุษย์นั้นคือสิ่งใดกันแน่ ความจริงแห่งการจุติเป็นมนุษย์
มีเขียนไว้ว่า “เพราะฉะนั้นไม่มีการลงโทษคนที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ […]” (โรม 8:1) เพราะเราเชื่อในพระเยซูคริสต์ มีการรับประกันแล้วว่าเราจะไม่ถูกลงโทษและสามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้! ความรอดและความรอดครบถ้วน
พระราชกิจแห่งการพิพากษาในยุคสุดท้ายของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ก็คือ การพิพากษาแห่งมหาบัลลังก์สีขาวซึ่งได้รับการเผยวจนะไว้ในหนังสือวิวรณ์ใช่หรือไม่? พระราชกิจการพิพากษาในยุคสุดท้ายของพระเจ้า
สำหรับบรรดาผู้ที่เชื่อในองค์พระเยซูเจ้านานหลายปีและเสียสละเพื่อพระองค์มาตลอดชีวิต หากพวกเขาไม่ยอมรับพระราชกิจของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ในยุคสุดท้าย พวกเขาจะไม่สามารถถูกรับขึ้นไปสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้จริงๆ เหรอ
ถ้าเราไม่ยอมรับพระรคำถาม:ถ้าเราไม่ยอมรับพระราชกิจแห่งการพิพากษาของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ งั้นเราจะสามารถทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาแห่งสวรรค์ได้จริงๆ เหรอ เราสามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้จริงๆ เหรอ
ปัจจุบันเราเชื่อในองค์พระเยซูเจ้า เราเสียสละเพื่อเผยแผ่พระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ละทิ้งสิ่งอื่นทั้งหมด เราก็กำลังทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาแห่งสวรรค์ นี่แปลว่าเราถูกทำให้บริสุทธิ์แล้ว เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาถึง พระองค์จะทรงรับเราขึ้นไปสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์แน่นอน
เราละทิ้งสิ่งอื่นทั้งหมด เผยแผ่ข่าวประเสริฐขององค์พระผู้เป็นเจ้า และดูแลคริสตจักร การตรากตรำแบบนี้เป็นหนทางเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาแห่งสวรรค์ การที่เราปฏิบัติแบบนี้มีอะไรผิดไหม
พวกคุณพูดว่าพระคริสต์ทรงเป็นความจริง หนทาง และชีวิต นี่เป็นคำพยานของพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่พระคัมภีร์ก็ได้บันทึกถ้อยคำของผู้เชี่ยวชาญฝ่ายจิตวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ และสาวกบางคนขององค์พระเยซูเจ้าไว้ด้วย การแสดงออกของพวกเขานับเป็นพระวจนะของพระเจ้าด้วยไหมล่ะ ถ้าสิ่งที่พวกเขาพูดก็นับเป็นพระวจนะของพระเจ้าจริงๆ งั้นพวกเขาไม่ใช่ความจริง หนทาง และชีวิตด้วยเหรอ เท่าที่ผมบอกได้ ไม่มีความแตกต่างระหว่างถ้อยคำของพวกเขาและพระวจนะขององค์พระเยซูเจ้าเลย ทั้งหมดนับเป็นพระวจนะของพระเจ้า ทำไมถ้อยคำเหล่านั้นไม่นับเป็นความ หนทาง และชีวิตล่ะ
ทำไมพระเจ้าต้องทรงบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อทรงพระราชกิจแห่งการพิพากษาของพระองค์ในยุคสุดท้ายล่ะ ในยุคธรรมบัญญัติ พระเจ้าทรงใช้โมเสสเพื่อทำพระราชกิจของพระองค์ เช่นนี้ ทำไมพระเจ้าใช้มนุษย์ทำพระราชกิจแห่งการพิพากษาของพระองค์ในยุคสุดท้ายไม่ได้ล่ะ
ฉันได้เชื่อในองค์พระเยซูเจ้ามาหลายปี และแม้ว่า ฉันตระหนักรู้ว่า องค์พระเยซูเจ้าคือพระเจ้าผู้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจความจริงอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับการทรงจุติเป็นมนุษย์ หากว่าตอนที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกลับมา พระองค์ทรงปรากฏดังที่องค์พระเยซูเจ้าได้ทรงปรากฏจริงๆ โดยทรงพระราชกิจในฐานะบุตรมนุษย์ เช่นนั้นแล้วก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะระลึกได้ว่าเป็นพระองค์ หรือถวายการต้อนรับการเสด็จมาของพระองค์ ฉันรู้สึกว่าการทรงจุติเป็นมนุษย์เป็นข้อล้ำลึกประการหนึ่ง และมีผู้คนเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่เข้าใจความจริงของการทรงจุติเป็นมนุษย์ กรุณาสามัคคีธรรมกับฉันว่า การทรงจุติเป็นมนุษย์นั้นคือสิ่งใดกันแน่
ผู้คนนั้นบาปหนา แต่การบูชาไถ่บาปขององค์พระเยซูเจ้านั่นมีผลตลอดไป ตราบใดที่เราสารภาพบาปของเราแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงอภัยให้เรา เราไม่มีบาปในพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นเราจึงสามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้!
พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า “ใครจะฟ้องคนที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้? พระเจ้าทรงทำให้พวกเขาเป็นคนชอบธรรมแล้ว ใครจะเป็นผู้ลงโทษอีก?” (โรม 8:33-34) นี่พิสูจน์ว่าการถูกตรึงกางเขนขององค์พระเยซูเจ้าอภัยบาปทั้งหมดให้เรา องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เห็นเราเป็นคนบาปอีกต่อไป ตอนนี้ใครสามารถกล่าวหาเราได้อีกล่ะ
พระคัมภีร์บอกว่า “ความรอด” และ “การเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์” “เพราะว่าการเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด” (โรม 10:10) เราได้รับการช่วยให้รอดผ่านทางความเชื่อในพระเยซูของเราแล้ว เมื่อเราได้รับการช่วยให้รอดแล้ว เราก็รอดตลอดกาล เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาถึง เราจะสามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้อย่างแน่นอน
มีเขียนไว้ว่า “เพราะฉะนั้นไม่มีการลงโทษคนที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ […]” (โรม 8:1) เพราะเราเชื่อในพระเยซูคริสต์ มีการรับประกันแล้วว่าเราจะไม่ถูกลงโทษและสามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ได้!
พวกเราเชื่อว่า พระราชกิจและพระวจนะของพระเจ้าทั้งหมดได้ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ และเชื่อว่า ไม่มีพระราชกิจและพระวจนะใดที่ดำรงอยู่นอกเหนือไปจากพระราชกิจและพระวจนะเหล่านั้นในพระคัมภีร์ ทรรศนะนี้สามารถผิดไปได้หรือ?
ในพระคัมภีร์ เปาโลกล่าวว่า “พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า” (2 ทิโมธี 3.16) เพราะฉะนั้นคำพูดทั้งหมดในพระคัมภีร์ก็คือพระวจนะของพระเจ้า แล้วเหตุใดท่านจึงกล่าวว่า ไม่ใช่ทุกคำพูดในพระคัมภีร์ที่เป็นพระวจนะของพระเจ้า?