278 พวกเราแต่ละคนต้องเลือกเส้นทางของพวกเราเอง
1 พระคริสต์แห่งยุคสุดท้ายทรงแสดงความจริงและทรงเปิดเผยความชอบธรรมของพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นความจริง และสำหรับทุกคนแล้วพระองค์ทรงชอบธรรม หากพวกเราเชื่อในพระเจ้าโดยไม่ไล่ตามเสาะหาความจริง ในท้ายที่สุดแล้วพวกเราจะถูกจำกัดทิ้ง พระเจ้าทรงตัดสินพระทัยจุดจบสุดท้ายของบุคคลหนึ่งบนพื้นฐานของการที่ว่า คนเราได้รับความจริงแล้วหรือไม่ ไม่ว่าพวกเราจะปรากฏเหมือนว่าประพฤติตนที่ภายนอกดีเพียงใดก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราครองความเป็นจริงของความจริง หากปราศจากความประพฤติที่ดีและหากปราศจากความจริง พระเจ้าจะทรงหันไปจากพวกเรา พระอุปนิสัยของพระองค์บริสุทธิ์และชอบธรรม พระองค์ไม่ทรงยอมทนการล่วงเกิน พวกที่ทำความชั่วมากและต้านทานพระองค์จะถูกลงโทษ พวกเราแต่ละคนต้องเลือกเส้นทางของพวกเราเอง ไม่มีผู้ใดสามารถทำการนี้เพื่อพวกเราได้ มีเพียงบรรดาผู้ที่ซื่อสัตย์และนบนอบต่อความจริงเท่านั้นที่เป็นผู้คนที่มีสภาวะความเป็นมนุษย์ พวกเราสามารถได้มาซึ่งการสรรเสริญของพระเจ้า โดยการปฏิบัติตามความจริงและการดำรงชีวิตตามความเป็นจริงเท่านั้น
2 การไล่ตามเสาะหาความจริง การรักพระเจ้า และการนบนอบต่อพระองค์นั้นวิกฤติที่สุดในความเชื่อของคนเรา ผู้ที่มีปัญญาก็คือบรรดาผู้ที่ยอมรับการพิพากษาและการตีสอนของพระองค์และได้รับการชำระให้บริสุทธิ์เท่านั้น ไม่มีคุณค่าหรือความหมายใดในการไล่ตามเสาะหาตำแหน่ง ชื่อเสียง โชคลาภ หรือสิ่งไร้ค่า มีเพียงบรรดาผู้ที่ลุล่วงหน้าที่ของพวกเขาและนำความจริงไปสู่การปฏิบัติเท่านั้นที่เป็นผู้ติดตามพระเจ้า หากคนเราเพียงแค่สามารถพรั่งพรูทฤษฎี โดยไม่มีความสามารถที่จะปฏิบัติตามความจริง เช่นนั้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำย่อมว่างเปล่า โดยการรักพระเจ้าอย่างแท้จริงและการเป็นคำพยานที่ดี คนเราดำรงชีวิตตามชีวิตมนุษย์ที่จริงแท้ การพิพากษาและการตีสอน และการถูกตัดแต่งและถูกจัดการ—ทั้งหมดคือการแสดงความรักของพระเจ้า การยืนหยัดเป็นพยานเมื่อบททดสอบและกระบวนการถลุงมาถึง เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าที่สุด ความทุกข์และบททดสอบแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุดว่า บุคคลหนึ่งครองความเป็นจริงของความจริงหรือไม่ พวกเราสามารถเป็นพยานให้พระเจ้าได้เมื่อพวกเรามารู้จักพระองค์และได้รับความจริงเท่านั้น การไล่ตามเสาะหาความจริงและการสัมฤทธิ์การแปลงสภาพของอุปนิสัยคือหนทางเดียวสู่ความสำเร็จ