บทที่ 96

เราจะตีสอนทุกคนที่เกิดจากเราผู้ซึ่งถึงกระนั้นก็ยังไม่รู้จักเรา เพื่อที่จะทำการสำแดงความโกรธทั้งปวงของเรา ฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของเรา และสติปัญญาอันเต็มเปี่ยมของเรา  ในตัวเรา ทั้งหมดนั้นชอบธรรม และไม่มีความไม่ชอบธรรมโดยสิ้นเชิง ไม่มีเล่ห์ลวง และไม่มีความคดโกง ผู้ใดก็ตามที่คดโกงและเล่ห์ลวงต้องเป็นบุตรนรก ซึ่งเกิดในแดนคนตาย  ในตัวเรา ทุกสิ่งทุกอย่างเปิดออก สิ่งใดก็ตามที่เรากล่าวว่าจะได้รับการทำให้สำเร็จลุล่วงได้ ก็จะได้รับการทำให้สำเร็จลุล่วงจริงๆ สิ่งใดก็ตามที่เรากล่าวว่าจะถูกจัดตั้งขึ้น ก็จะถูกจัดตั้งขึ้น และไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงหรือเลียนแบบสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเราคือพระเจ้าพระองค์เององค์หนึ่งเดียวและเพียงผู้เดียว  ในสิ่งที่กำลังจะมาถึง ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มของบรรดาบุตรหัวปีที่ได้รับการลิขิตไว้ล่วงหน้าและที่ได้รับเลือกสรรของเรา จะได้รับการเปิดเผยทีละคน และทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของบรรดาบุตรหัวปีจะถูกเราขับออกไปโดยผ่านทางการนี้  นี่คือวิธีที่เราทำงานของเราและทำให้งานของเราสำเร็จลุล่วง  ตอนนี้ เราตีแผ่ผู้คนบางคนเพียงเพื่อที่ว่าบรรดาบุตรหัวปีของเราจะสามารถมองเห็นกิจการอันน่าอัศจรรย์ของเราได้ แต่ในภายหลังเราจะไม่ทำงานด้วยวิธีนี้  ในทางกลับกัน เราจะดำเนินการจากสถานการณ์ทั่วไปแทนที่จะปล่อยให้พวกเขาแสดงธรรมชาติที่แท้จริงของพวกเขาออกมาทีละคน (เพราะปีศาจโดยทั่วไปแล้วเป็นอย่างเดียวกันทั้งหมด นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะเลือกเพียงจำนวนน้อยๆ เพื่อนำมาเป็นตัวอย่าง)  บรรดาบุตรหัวปีทั้งหมดของเราต่างก็ชัดเจนในหัวใจของพวกเขา และไม่มีความจำเป็นสำหรับเราที่จะต้องอธิบายเพิ่มเติมเลย (เพราะเมื่อถึงเวลาที่กำหนด พวกเขาจะได้รับการเปิดเผยทีละคนอย่างแน่นอน)

นั่นคืออุปนิสัยของเราที่ต้องรักษาสัญญาของเรา และในตัวเราไม่มีสิ่งใดเลยที่ถูกซ่อนเร้นหรือถูกปกปิดไว้  เราจะบอกพวกเจ้าทั้งหมดถึงแต่ละสิ่งในบรรดาสิ่งทั้งหลายที่พวกเจ้าควรที่จะต้องเข้าใจ และเราจะไม่บอกพวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าไม่ควรรู้เป็นอันขาด เพื่อไม่ให้พวกเจ้ากลายเป็นไร้ซึ่งความสามารถที่จะตั้งมั่นได้  จงอย่าเกาะติดกับสิ่งเล็กๆ และสูญเสียสิ่งสำคัญด้วยผลแห่งการนั้น—นั่นไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ  จงเชื่อว่าเราคือพระเจ้าผู้เปี่ยมมหิทธิฤทธิ์ และจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะได้รับการทำให้สำเร็จลุล่วงและทั้งหมดจะกลายเป็นง่ายและน่ายินดี  นี่คือวิธีที่เราทำสิ่งทั้งหลาย  ผู้ใดก็ตามที่เชื่อ เราอนุญาตให้เขาเห็น และผู้ใดก็ตามที่ไม่เชื่อ เราไม่อนุญาตให้เขารู้ และเราไม่มีวันปล่อยให้เขาเข้าใจได้เลย  ในตัวเราไม่มีความรู้สึกหรือความปรานี และไม่สำคัญว่าผู้ใดจะละเมิดการตีสอนของเราก็ตาม เราจะฆ่าพวกเขาอย่างไม่ยั้งมือแน่นอน และเราจะปฏิบัติต่อพวกเขาทั้งหมดในทางเดียวกัน  เราเป็นอย่างเดียวกันต่อทุกคน—เราไม่มีความรู้สึกส่วนตัวและไม่กระทำตามอารมณ์แต่อย่างใด  เหตุใดผู้คนจึงไม่สามารถมองเห็นความชอบธรรมและบารมีของเราโดยผ่านทางการนี้?  นี่คือสติปัญญาของเราและอุปนิสัยของเรา ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงได้และไม่มีผู้ใดสามารถรู้จักได้อย่างครบบริบูรณ์  มือของเราบัญชาทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เสมอ ตลอดเวลา และเราจัดการเตรียมการทุกสิ่งทุกอย่างไว้เสมอเพื่อให้ทำงานปรนนิบัติเราในทุกเมื่อที่เราต้องการ  ผู้คนมากมายกำลังทำการปรนนิบัติในนามของเราเพื่อที่จะทำให้แผนการบริหารจัดการของเราลุล่วง ทว่าในท้ายที่สุดพวกเขาจะเห็นพรแต่ไม่สามารถชื่นชมพรเหล่านั้นได้—ช่างน่าเวทนาเสียจริง!  แต่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนใจของเราได้  นี่คือประกาศกฤษฎีกาบริหารของเรา (เมื่อใดก็ตามที่ประกาศกฤษฎีกาบริหารได้ถูกกล่าวถึง นี่อ้างถึงบางสิ่งที่ไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น เมื่อเรากล่าวในอนาคต หากเราได้ตั้งใจในบางสิ่งบางอย่าง เช่นนั้นแล้วไซร้ นั่นคือประกาศกฤษฎีกาบริหารของเราอย่างแน่นอนที่สุด  จงจำเอาไว้!  จงอย่าละเมิดการนี้ เพื่อไม่ให้เจ้าทนทุกข์กับความสูญเสีย) และนั่นยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริหารจัดการของเราอีกด้วย  นี่คืองานของเราเอง มิใช่บางสิ่งที่มนุษย์คนใดก็สามารถทำได้  เราต้องทำการนี้—เราต้องจัดการเตรียมการการนี้ ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นฤทธานุภาพไม่สิ้นสุดของเราและเพื่อสำแดงความโกรธของเรา

ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงไม่รู้และไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสภาวะความเป็นมนุษย์ของเรา  เราได้กล่าวเรื่องนี้ไปหลายครั้งหลายคราแล้ว แต่พวกเจ้ายังคงพร่ามัวและไม่เข้าใจมากนัก  แต่นี่คืองานของเรา และบัดนี้ ในเวลานี้ ผู้ใดก็ตามที่รู้ ก็จะรู้ และผู้ใดก็ตามที่ไม่รู้ เราก็ไม่บังคับ  นี่สามารถเป็นได้เพียงเช่นนี้เท่านั้น  เราได้พูดการนี้ไปแล้วด้วยความชัดเจน และเราจะไม่กล่าวถึงการนี้อีกในภายหลัง (เพราะเราได้กล่าวไปมากเกินไปแล้ว และเราได้พูดอย่างชัดเจนมากแล้ว  ผู้ที่รู้จักเราย่อมมีพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่อย่างแน่นอน และเป็นหนึ่งในบรรดาบุตรหัวปีของเราอย่างไม่ต้องสงสัย  ผู้ที่ไม่รู้จักเราก็ย่อมไม่ใช่อย่างแน่นอน ซึ่งพิสูจน์ว่าเราได้ถอดถอนวิญญาณของเราออกจากเขาแล้ว)  แต่ในท้ายที่สุด เราจะทำให้ทุกคนรู้จักเรา—รู้จักเราโดยครบบริบูรณ์ ทั้งในสภาวะความเป็นมนุษย์ของเราและในเทวสภาพของเรา  เหล่านี้คือขั้นตอนทั้งหลายของงานของเรา และเราต้องทำงานด้วยวิธีนี้  นี่ยังเป็นประกาศกฤษฎีกาบริหารของเราอีกด้วย  ทุกๆ คนต้องเรียกเราว่าพระเจ้าเที่ยงแท้เพียงพระองค์เดียว และสรรเสริญและแซ่ซ้องเราด้วยความปีติโดยไม่เลิกรา

แผนการบริหารจัดการของเราได้เสร็จสิ้นอย่างครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว และทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการทำให้สำเร็จลุล่วงมาเป็นเวลานานแล้ว  ในสายตาของมนุษย์ งานของเราจำนวนมากนั้นดูเหมือนกับว่ายังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่เราได้จัดการเตรียมการการนั้นไว้อย่างถูกต้องเหมาะสมเรียบร้อยแล้ว และทั้งหมดที่รอคอยก็คือความครบบริบูรณ์ของการนั้นโดยสอดคล้องกับขั้นตอนของเราทีละภารกิจ (นี่เป็นเพราะก่อนการสร้างโลก เราได้ลิขิตไว้ล่วงหน้าแล้วว่าผู้ใดที่มีความสามารถที่จะตั้งมั่นอยู่ภายใต้การทดสอบได้ ผู้ใดที่ไม่สามารถได้รับการเลือกสรรและการลิขิตไว้ล่วงหน้าโดยเรา และผู้ใดที่ไม่สามารถมีส่วนร่วมในความทุกข์ของเราได้  บรรดาผู้ที่สามารถมีส่วนร่วมในความทุกข์ของเรา—กล่าวคือ บรรดาผู้ที่ได้รับการเลือกสรรและการลิขิตไว้ล่วงหน้าโดยเรา เราจะรักษาพวกเขาไว้และทำให้พวกเขาสามารถอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างอย่างแน่นอน)  เราชัดเจนในหัวใจของเราว่าผู้ใดมีบทบาทใดแต่ละอย่าง  เราตระหนักรู้เป็นอย่างดีว่าผู้ใดทำการปรนนิบัติเรา ผู้ใดคือบุตรหัวปี และผู้ใดอยู่ท่ามกลางบรรดาบุตรของเราและประชากรของเรา  เรารู้การนี้ดีราวกับว่าเป็นหลังมือของเรา  ผู้ใดก็ตามที่เราได้กล่าวไปแล้วในอดีตว่าเป็นบุตรหัวปี บัดนี้ก็ยังคงเป็นบุตรหัวปี และผู้ใดก็ตามที่เราได้กล่าวไปแล้วในอดีตว่าไม่ใช่บุตรหัวปี บัดนี้ก็ยังคงไม่ใช่บุตรหัวปี  สิ่งใดก็ตามที่เราทำ เราไม่เสียใจ และไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นง่ายๆ  เราหมายความตามสิ่งที่เรากล่าว (ในตัวเราไม่มีสิ่งใดเลยที่เหลาะแหละ) และนั่นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!  พวกที่ทำการปรนนิบัติเราก็ทำการปรนนิบัติเราเสมอ กล่าวคือ พวกเขาเป็นวัวของเรา พวกเขาเป็นม้าของเรา (แต่ผู้คนเหล่านี้ไม่มีวันเข้าใจสิ่งทั้งหลายในฝ่ายจิตวิญญาณ เมื่อเราใช้พวกเขา พวกเขาก็มีประโยชน์ แต่เมื่อเราไม่ได้ใช้พวกเขา เราก็จะฆ่าพวกเขา  เมื่อเรากล่าวถึงวัวและม้า เราหมายถึงพวกที่ไม่ได้รับความรู้แจ้งในจิตวิญญาณของพวกเขา พวกที่ไม่รู้จักเรา และพวกที่ไม่เชื่อฟังเรา และต่อให้พวกเขาจะเชื่อฟังและนบนอบและเรียบง่ายและซื่อสัตย์ แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นวัวและม้าอยู่เช่นนั้นจริงๆ)  บัดนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ช่างป่าเถื่อนและเป็นอิสระต่อหน้าเรา พูดคุยและขบขันกันกริวกราว ประพฤติตัวอย่างไม่เคารพ—พวกเขาเพียงเห็นสภาวะความเป็นมนุษย์ของเรา และไม่เห็นเทวสภาพของเรา  ในสภาวะความเป็นมนุษย์ของเรา พฤติกรรมเหล่านี้สามารถปล่อยผ่านไปได้ และเราสามารถให้ตัวเราอภัยแก่พวกเขาได้ แต่ในเทวสภาพของเรา นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก  ในอนาคต เราจะตัดสินว่าเจ้าได้กระทำบาปแห่งการหมิ่นประมาทไปแล้ว  กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สภาวะความเป็นมนุษย์ของเราสามารถถูกทำให้ขุ่นเคืองได้ แต่เทวสภาพของเราไม่สามารถถูกทำเช่นนั้นได้ และผู้ใดก็ตามที่ไม่ลงรอยกับเราแม้เพียงน้อยนิด เราจะพิพากษาทันทีโดยไม่มีการประวิงเวลา  จงอย่าคิดว่าเพราะเจ้าได้เชื่อมโยงมาเนิ่นนานกับสภาวะบุคคลนี้ที่เราเป็นและได้กลายเป็นคุ้นเคยกับเรา เจ้าจึงสามารถกล่าวและกระทำการอย่างป่าเถื่อนได้  เราไม่ได้สนใจเลยจริงๆ!  ไม่สำคัญว่าจะเป็นผู้ใด เราจะปฏิบัติกับพวกเขาด้วยความชอบธรรม  นี่คือความชอบธรรมของเรา

ความล้ำลึกทั้งหลายของเราได้รับการเปิดเผยต่อผู้คนทุกวัน และความล้ำลึกเหล่านั้นก็กลายเป็นชัดเจนมากขึ้นทุกวันตามช่วงระยะทั้งหลายของวิวรณ์ ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นจังหวะแห่งงานของเรา  นี่คือสติปัญญาของเรา (เรามิได้กล่าวการนี้อย่างตรงไปตรงมา  เราให้ความรู้แจ้งแก่บรรดาบุตรหัวปีของเรา และให้ความมืดบอดแก่เชื้อสายของพญานาคใหญ่สีแดง)  นอกเหนือไปจากนั้น วันนี้เราจะเปิดเผยความล้ำลึกของเราแก่พวกเจ้าโดยผ่านทางพระบุตรของเรา  สรรพสิ่งที่ผู้คนไม่อาจจินตนาการได้นั้น เราจะเปิดเผยแก่พวกเจ้าในวันนี้ เพื่อทำให้พวกเจ้ารู้อย่างทะลุปรุโปร่งและมีความเข้าใจชัดเจน  ยิ่งไปกว่านั้น ความล้ำลึกนี้ดำรงอยู่ในทุกๆ คนที่อยู่นอกเหนือจากบรรดาบุตรหัวปีของเรา แต่ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใจการนั้นได้  แม้ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ที่นั่นภายในแต่ละบุคคล แต่ไม่มีผู้ใดเลยที่สามารถระลึกรู้ถึงการนั้นได้  เรากำลังกล่าวสิ่งใดอยู่เช่นนั้นหรือ?  ในงานของเราและในถ้อยคำของเราระหว่างช่วงเวลานี้ เรากล่าวถึงพญานาคใหญ่สีแดง ซาตาน วิญญาณชั่ว และหัวหน้าทูตสวรรค์อยู่บ่อยครั้ง  พวกเขาคือสิ่งใด?  สัมพันธภาพของพวกเขาคือสิ่งใด?  สิ่งใดที่ถูกสำแดงอยู่ในสิ่งเหล่านี้?  การสำแดงของพญานาคใหญ่สีแดงนั้นคือการต้านทานเรา การขาดพร่องความเข้าใจและการจับใจความในความหมายของวจนะของเรา การข่มเหงเราอยู่บ่อยครั้ง และการพยายามใช้กลอุบายเพื่อขัดจังหวะการบริหารจัดการของเรา  ซาตานมีการสำแดงดังต่อไปนี้ ได้แก่ การต่อสู้กับเราเพื่อพลังอำนาจ ความต้องการครอบครองประชากรที่เราเลือกสรร และการปลดปล่อยวาจาที่เป็นลบเพื่อหลอกลวงประชากรของเรา  การสำแดงของมาร (พวกที่ไม่ยอมรับนามของเรา ผู้ที่ไม่เชื่อ ล้วนเป็นมารทั้งสิ้น) เป็นดังต่อไปนี้ ได้แก่ การโลภในความยินดีในเนื้อหนัง การปล่อยตัวปล่อยใจไปกับตัณหาชั่ว การมีชีวิตอยู่ในความเป็นทาสของซาตาน บางส่วนต้านทานเราและบางส่วนสนับสนุนเรา (แต่ไม่พิสูจน์ว่าพวกเขาคือบรรดาบุตรอันเป็นที่รักของเรา)  การสำแดงของหัวหน้าทูตสวรรค์เป็นดังต่อไปนี้ ได้แก่ การพูดทะลึ่งอวดดี การเป็นคนอธรรม การนำกระแสเสียงของเราไปใช้สั่งสอนผู้คนอยู่บ่อยครั้ง การมุ่งเพียงเอาอย่างเราในสิ่งภายนอก การกินสิ่งที่เรากินและใช้สิ่งที่เราใช้ กล่าวโดยย่อคือ การต้องการที่จะอยู่เท่าเทียมกันกับเรา การมีความทะเยอทะยานแต่ขาดพร่องขีดความสามารถของเราและไม่มีชีวิตของเราอยู่ และการเป็นสิ่งไร้ประโยชน์สิ่งหนึ่ง  ซาตาน มาร และหัวหน้าทูตสวรรค์ล้วนเป็นสิ่งแสดงให้เห็นโดยทั่วไปของพญานาคใหญ่สีแดง ดังนั้นพวกที่ไม่ได้ลิขิตไว้ล่วงหน้าและไม่ได้รับการเลือกสรรโดยเรา ล้วนเป็นเชื้อสายของพญานาคใหญ่สีแดงทั้งสิ้น กล่าวคือ เป็นอย่างนี้นี่เองอย่างแน่นอน!  เหล่านี้ล้วนเป็นศัตรูของเราทั้งสิ้น  (อย่างไรก็ตาม การทำให้หยุดชะงักของซาตานนั้นไม่รวมอยู่ด้วย  หากธรรมชาติของเจ้าคือคุณสมบัติของเรา ก็ไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงการนั้นได้  เพราะบัดนี้เจ้ายังคงมีชีวิตอยู่ในเนื้อหนัง เจ้าจะเผชิญหน้ากับการทดลองของซาตานอยู่เป็นครั้งคราว—สิ่งนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้—แต่เจ้าต้องระมัดระวังอยู่เสมอ)  ด้วยเหตุนี้ เราจะทอดทิ้งเชื้อสายทั้งปวงของพญานาคใหญ่สีแดงที่อยู่นอกเหนือจากบรรดาบุตรหัวปีของเรา  ธรรมชาติของพวกมันไม่มีวันที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้—นั่นเป็นคุณสมบัติของซาตาน  สิ่งที่พวกมันสำแดงคือมารนั่นเอง และสิ่งที่พวกมันใช้ชีวิตตามคือหัวหน้าทูตสวรรค์นั่นเอง  การนี้จริงแท้แน่นอน  พญานาคใหญ่สีแดงที่เรากล่าวถึงนั้นมิใช่พญานาคสีแดงขนาดใหญ่ แต่คือวิญญาณชั่วที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเราต่างหาก ซึ่งเป็นคำพ้องของ “พญานาคใหญ่สีแดง”  ดังนั้น วิญญาณทั้งปวงที่นอกเหนือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์คือวิญญาณชั่ว และยังสามารถกล่าวได้ว่าเป็นเชื้อสายของพญานาคใหญ่สีแดงอีกด้วย  ทั้งหมดนี้ควรกระจ่างแจ่มแจ้งต่อทุกคน

ก่อนหน้า: บทที่ 95

ถัดไป: บทที่ 97

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger