การเข้าใจและการเข้าหาข้อเท็จจริงแห่งการบริหารจัดการชะตากรรมของมนุษย์ของพระเจ้า

วันที่ 02 เดือน 10 ปี 2020

ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่า พระเจ้าทรงกุมอธิปไตยเหนือชะตากรรมมนุษย์

หลังจากที่ได้ฟังทุกสิ่งที่เราเพิ่งได้พูดไป แนวคิดของพวกเจ้าเกี่ยวกับชะตากรรมได้เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่? เจ้าเข้าใจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอธิปไตยของพระเจ้าเหนือชะตากรรมของมนุษย์ว่าอย่างไร? พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ ภายใต้สิทธิอำนาจของพระเจ้า ทุกบุคคลยอมรับอธิปไตยของพระองค์และการจัดการเตรียมการของพระองค์ในเชิงรุกหรือไม่ก็ในเชิงรับ และไม่ว่าคนเราดิ้นรนอย่างไรในครรลองชีวิตของคนเรา ไม่ว่าคนเราเดินไปบนเส้นทางคดเคี้ยวสักกี่สาย ในท้ายที่สุดแล้ว คนเราจะกลับคืนสู่วงโคจรแห่งชะตากรรมที่พระผู้สร้างได้ทรงขีดเส้นไว้ให้พวกเขา นี่คือความมิอาจถูกพิชิตได้แห่งสิทธิอำนาจของพระผู้สร้างและลักษณะที่สิทธิอำนาจของพระองค์ควบคุมและกำกับดูแลจักรวาล การควบคุมและกำกับดูแลในรูปแบบของความมิอาจถูกพิชิตได้นี้นี่เองที่ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบกฎต่างๆ ที่ลิขิตชีวิตของทุกสรรพสิ่ง อำนวยให้มนุษย์มาเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยปราศจากการแทรกแซง ทำให้โลกหมุนตามปกติและเคลื่อนไปข้างหน้าวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า พวกเจ้าได้เป็นพยานให้กับข้อเท็จจริงทั้งหมดนี้และเจ้าเข้าใจพวกมัน ไม่ว่าจะอย่างผิวเผินหรือลึกซึ้ง และความลึกซึ้งของความเข้าใจของเจ้าก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความรู้ของเจ้าเกี่ยวกับความจริง และขึ้นอยู่กับความรู้ของเจ้าเกี่ยวกับพระเจ้า เจ้ารู้จักความเป็นจริงของความจริงดีเพียงใด เจ้าผ่านประสบการณ์กับพระวจนะของพระเจ้าไปมากเพียงใดแล้ว เจ้ารู้จักแก่นแท้และพระอุปนิสัยของพระเจ้าดีเพียงใด—เหล่านี้ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของความเข้าใจของเจ้าเกี่ยวกับอธิปไตยและการจัดการเตรียมการของพระเจ้า การดำรงอยู่ของอธิปไตยและการจัดการเตรียมการของพระเจ้าขึ้นอยู่กับการที่มนุษย์นบนอบหรือไม่นบนอบต่อพวกมันหรือไม่? ข้อเท็จจริงที่ว่าพระเจ้าทรงครองสิทธิอำนาจนี้ถูกกำหนดโดยการที่มนุษยชาตินบนอบหรือไม่นบนอบต่อสิทธิอำนาจนี้หรือไม่? สิทธิอำนาจของพระเจ้าดำรงอยู่ไม่ว่ารูปการณ์แวดล้อมจะเป็นอย่างไร ในทุกสถานการณ์ พระเจ้าทรงสั่งการและจัดการเตรียมการทุกชะตากรรมมนุษย์และทุกสรรพสิ่งตามพระดำริของพระองค์และความปรารถนาของพระองค์ ความเปลี่ยนแปลงของมนุษย์จะไม่ส่งผลให้การนี้เปลี่ยนแปลงไป มันเป็นอิสระจากเจตจำนงของมนุษย์ ไม่สามารถถูกแก้ไขดัดแปลงโดยความเปลี่ยนแปลงใดๆ ของกาลเวลา พื้นที่ และภูมิประเทศ เนื่องเพราะสิทธิอำนาจของพระเจ้านั้นคือแก่นแท้ของพระองค์นั่นเอง ไม่ว่ามนุษย์จะสามารถรู้จักและยอมรับอธิปไตยของพระเจ้าได้หรือไม่ และไม่ว่ามนุษย์จะสามารถนบนอบต่ออธิปไตยนี้ได้หรือไม่—ข้อพิจารณาทั้งสองนี้ไม่ได้ดัดแปลงแก้ไขข้อเท็จจริงที่ว่าอธิปไตยของพระเจ้าอยู่เหนือชะตากรรมมนุษย์แม้แต่น้อย กล่าวได้ว่า ไม่ว่ามนุษย์มีท่าทีเช่นไรต่ออธิปไตยของพระเจ้า ท่าทีนั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่าพระเจ้าทรงกุมอธิปไตยเหนือชะตากรรมมนุษย์และเหนือทุกสรรพสิ่งได้อยู่ดี ต่อให้เจ้าไม่นบนอบต่ออธิปไตยของพระเจ้า พระองค์ก็ยังทรงบัญชาชะตากรรมของเจ้าอยู่ดี ต่อให้เจ้าไม่สามารถรู้จักอธิปไตยของพระองค์ สิทธิอำนาจของพระองค์ก็ยังคงมีอยู่จริง สิทธิอำนาจของพระเจ้าและข้อเท็จจริงที่อธิปไตยของพระเจ้าอยู่เหนือชะตากรรมมนุษย์นั้นเป็นอิสระจากเจตจำนงของมนุษย์ และไม่เปลี่ยนแปลงไปตามการเลือกชอบหรือทางเลือกของมนุษย์ สิทธิอำนาจของพระเจ้านั้นอยู่ในทุกแห่งหน ทุกโมงยาม ทุกขณะเวลา ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกจะจากไป แต่สิทธิอำนาจของพระองค์จะไม่มีวันจากไป เพราะพระองค์คือพระเจ้าพระองค์เอง พระองค์ทรงครองสิทธิอำนาจอันเป็นเอกลักษณ์ และสิทธิอำนาจของพระองค์ไม่ถูกจำกัดหรือขีดคั่นโดยผู้คน เหตุการณ์ หรือสิ่งต่างๆ โดยห้วงอวกาศ หรือภูมิประเทศ ตลอดเวลาทั้งหมด พระเจ้าทรงกวัดไกวสิทธิอำนาจของพระองค์ แสดงพระอิทธิฤทธิ์ของพระองค์ สืบสานพระราชกิจบริหารจัดการของพระองค์ดังพระองค์ได้ทรงทำเสมอ ตลอดเวลาทั้งหมด พระองค์ทรงปกครองทุกสรรพสิ่ง ทรงจัดเตรียมเพื่อทุกสรรพสิ่ง ทรงจัดวางเรียบเรียงทุกสรรพสิ่ง—ดังเช่นที่พระองค์ได้ทรงทำเสมอ ไม่มีใครเลยที่เปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้ มันคือข้อเท็จจริง มันคือความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนับแต่ครั้งโบราณกาล!

ท่าทีและการปฏิบัติอันเหมาะสมสำหรับผู้ซึ่งปรารถนาจะนบนอบต่อสิทธิอำนาจของพระเจ้า

ตอนนี้มนุษย์รู้และคำนึงถึงสิทธิอำนาจของพระเจ้าและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอธิปไตยของพระเจ้าเหนือชะตากรรมของมนุษย์ด้วยท่าทีอะไร? นี่คือปัญหาที่แท้จริงปัญหาหนึ่งซึ่งอยู่ตรงหน้าทุกบุคคล ในเวลาที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาในชีวิตจริง เจ้าควรรู้จักและเข้าใจสิทธิอำนาจของพระเจ้าและอธิปไตยของพระองค์อย่างไร? เมื่อเจ้าถูกประจันหน้าด้วยปัญหาเหล่านี้ และไม่รู้ว่าจะทำความเข้าใจ รับมือ และรับประสบการณ์กับมันอย่างไร ท่าทีอะไรที่เจ้าควรนำมาใช้เพื่อแสดงให้เห็นจริงถึงเจตนาของเจ้าที่จะนบนอบ ความอยากที่จะนบนอบ และความเป็นจริงของการนบนอบของเจ้าต่ออธิปไตยและการจัดการเตรียมการของพระเจ้า? ก่อนอื่น เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะรอคอย จากนั้นเจ้าต้องเรียนรู้ที่จะแสวงหา แล้วเจ้าก็ต้องเรียนรู้ที่จะนบนอบ “การรอคอย” หมายถึงการรอคอยเวลาของพระเจ้า การรอผู้คน เหตุการณ์ และสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงจัดการเตรียมการเพื่อเจ้า การรอคอยน้ำพระทัยของพระองค์ที่จะค่อยๆ เปิดเผยตัวเองต่อเจ้า “การแสวงหา” หมายถึง การสังเกตและการทำความเข้าใจพระเจตนาอันเปี่ยมด้วยพระดำริของพระเจ้าที่มีต่อเจ้าโดยผ่านทางผู้คน เหตุการณ์ และสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงวางโครงร่างเอาไว้ การทำความเข้าใจความจริงโดยผ่านทางสิ่งเหล่านั้น การเข้าใจสิ่งที่พวกมนุษย์ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงและหนทางต่างๆ ที่พวกเขาต้องยึดถือไว้ การทำความเข้าใจในผลลัพธ์ที่พระเจ้าทรงตั้งใจที่จะสัมฤทธิ์ในมนุษย์และความสำเร็จลุล่วงอะไรที่พระองค์ทรงตั้งใจบรรลุในพวกเขา “การนบนอบ” แน่นอนว่าย่อมอ้างอิงถึงการยอมรับผู้คน เหตุการณ์ และสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงจัดวางเรียบเรียงเอาไว้ การยอมรับในอธิปไตยของพระองค์ และโดยผ่านการยอมรับนี้ มารู้ว่าพระผู้สร้างทรงลิขิตขีดเขียนชะตากรรมมนุษย์อย่างไร พระองค์ทรงจัดหาให้กับมนุษย์ด้วยพระชนม์ชีพของพระองค์อย่างไร พระองค์ทรงพระราชกิจกับความจริงในมนุษย์อย่างไร ทุกสรรพสิ่งภายใต้การจัดการเตรียมการและอธิปไตยของพระเจ้าเป็นไปโดยสอดคล้องกับกฎธรรมชาติต่างๆ และหากเจ้าตั้งปณิธานว่าจะยอมให้พระเจ้าทรงจัดการเตรียมการและลิขิตขีดเขียนทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเจ้า เจ้าควรเรียนรู้ที่จะรอคอย เจ้าควรเรียนรู้ที่จะแสวงหา และเจ้าควรเรียนรู้ที่จะนบนอบ นี่คือท่าทีที่ทุกบุคคลผู้ซึ่งต้องการที่จะนบนอบต่อสิทธิอำนาจของพระเจ้าต้องนำมาใช้ คุณสมบัติพื้นฐานที่ทุกบุคคลผู้ซึ่งต้องการที่จะยอมรับอธิปไตยและการจัดการเตรียมการของพระเจ้าต้องมี เพื่อที่จะมีท่าทีเช่นนั้น เพื่อที่จะมีคุณสมบัติเช่นนั้น เจ้าต้องทำงานหนักขึ้น นี่คือหนทางเดียวที่เจ้าสามารถเข้าสู่ความเป็นจริงที่แท้จริงได้

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 3

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

การยอมรับพระเจ้าเป็นองค์เจ้านายผู้ทรงเอกลักษณ์ของเจ้าคือก้าวแรกในการบรรลุความรอด

ความจริงต่างๆ ที่เกี่ยวกับสิทธิอำนาจของพระเจ้าคือความจริงที่ทุกบุคคลต้องคำนึงถึงอย่างจริงจัง...

หัวเลี้ยวหัวต่อที่หก: ความตาย

หลังจากความวุ่นวายมากมายเหลือเกิน ความคับข้องขุ่นมัวและความผิดหวังหลายครั้งครา หลังจากความชื่นบานและความเศร้าโศก และการขึ้นๆ ลงๆ...

หัวเลี้ยวหัวต่อแรก: การเกิด

สถานที่เกิดของบุคคล ครอบครัวที่พวกเขาเกิดมา เพศ รูปลักษณ์ และเวลาเกิดของคนเรา—เหล่านี้คือรายละเอียดของหัวเลี้ยวหัวต่อแรกของชีวิตบุคคล...

Leave a Reply

ติดต่อเราผ่าน Messenger