หัวเลี้ยวหัวต่อที่สี่: การสมรส

วันที่ 02 เดือน 10 ปี 2020

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ คนเรายิ่งห่างไกลจากบิดามารดาของตนและสิ่งแวดล้อมที่คนเราเกิดมาและได้รับการเลี้ยงดู และกลับเริ่มแสวงหาทิศทางในชีวิตและไล่ตามเสาะหาเป้าหมายชีวิตของตัวเองในลีลาที่ต่างจากบิดามารดาของคนเราแทน ในระหว่างเวลานี้ คนเราไม่จำเป็นต้องมีบิดามารดาอีกต่อไป แต่กลับมีคู่หูสักคนที่คนเราสามารถใช้ชีวิตด้วยได้ นั่นก็คือ คู่สมรส บุคคลหนึ่งซึ่งชะตากรรมของคนเราเกี่ยวพันเข้าด้วยกันอย่างใกล้ชิด ดังนั้นเหตุการณ์ใหญ่ของชีวิตเหตุการณ์แรกหลังความเป็นอิสระก็คือการสมรส หัวเลี้ยวหัวต่อที่สี่ที่คนเราต้องผ่านล่วงไป

1. ทางเลือกของปัจเจกบุคคลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสมรส

การสมรสเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของบุคคลไม่ว่าบุคคลใด เป็นเวลาที่คนเราเริ่มเข้ารับความรับผิดชอบหลากหลายประเภทอย่างแท้จริง และค่อยๆ ทำภารกิจสารพัดประเภทให้เสร็จสิ้นลง ผู้คนเก็บงำภาพมายาเกี่ยวกับการสมรสเอาไว้มากมายก่อนที่พวกเขาจะมีประสบการณ์กับมันด้วยตนเอง และภาพมายาทั้งหมดเหล่านี้ก็สวยงามทีเดียว พวกผู้หญิงจินตนาการว่าอีกครึ่งหนึ่งของพวกเธอจะเป็นเจ้าชายรูปงาม และพวกผู้ชายจินตนาการว่าพวกเขาจะสมรสกับสโนว์ไวท์ ความเพ้อฝันเหล่านี้พิสูจน์ว่าทุกบุคคลมีข้อพึงประสงค์ที่แน่นอนสำหรับการสมรสอยู่ อันเป็นชุดข้อเรียกร้องและมาตรฐานต่างๆ ของตัวพวกเขาเอง แม้ในยุคที่ชั่วนี้ ผู้คนก็ถูกถล่มด้วยข่าวสารที่บิดเบือนเกี่ยวกับการสมรสอยู่ตลอดเวลา ซึ่งยิ่งสร้างข้อพึงประสงค์เพิ่มเติมและทำให้ผู้คนเกิดปมในใจและท่าทีแปลกๆ ทุกชนิดขึ้น บุคคลใดก็ตามที่ผ่านประสบการณ์กับการสมรสแล้วย่อมรู้ว่า ไม่ว่าคนเราเข้าใจมันเช่นไร ไม่ว่าคนเรามีท่าทีต่อมันอย่างไร การสมรสนั้นหาใช่เป็นเรื่องทางเลือกของปัจเจกบุคคลไม่

คนเราเผชิญกับผู้คนมากมายในชีวิตของคนเรา แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าใครจะมาเป็นคู่สมรสของตน แม้ว่าทุกคนจะมีแนวความคิดของตัวเองและจุดยืนส่วนบุคคลในหัวข้อของการสมรส แต่ไม่มีผู้ใดสามารถรู้ล่วงหน้าว่า แท้จริงแล้วใครจะกลายมาเป็นอีกครึ่งหนึ่งของพวกเขาในที่สุด และแนวความคิดต่างๆ ของคนเราเองในเรื่องนี้นั้นมีความสำคัญน้อยนิด หลังจากที่ได้พบกับใครบางคนที่เจ้าชอบ เจ้าสามารถไล่ตามไขว่คว้าบุคคลนั้น แต่ไม่ว่าพวกเขาจะสนใจเจ้าหรือไม่ ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถกลายมาเป็นคู่ของเจ้าได้หรือไม่—นั่นหาใช่เรื่องที่เจ้าจะตัดสินใจไม่ เป้าหมายแห่งความเสน่หาของเจ้านั้นไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลที่เจ้าจะสามารถแบ่งปันชีวิตของเจ้าด้วยได้ และในขณะเดียวกัน ใครบางคนที่เจ้าไม่เคยได้คาดหมายก็อาจเข้ามาในชีวิตของเจ้าอย่างเงียบเชียบ และกลายมาเป็นคู่ครองของเจ้า องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในชะตากรรมของเจ้า อีกครึ่งหนึ่งของเจ้า คนที่ชะตากรรมของเจ้าถูกผูกเข้าไว้อย่างแก้ไม่ออก และดังนั้น แม้มีการสมรสนับหลายล้านในโลกนี้ ทุกๆ การสมรสก็แตกต่างกัน นั่นคือ การสมรสมากมายนักที่ไม่สมดังปรารถนา มากมายนักที่มีความสุข มากมายนักที่เชื่อมโยงระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก มากมายนักที่เชื่อมโยงทิศเหนือกับทิศใต้ มากมายนักที่เป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ มากมายนักที่มาจากสังคมระดับเดียวกัน มากมายนักที่มีความสุขและปรองดอง มากมายยิ่งนักที่เจ็บปวดและโศกเศร้า มากมายนักที่ยั่วให้คนอื่นรู้สึกอิจฉา มากมายนักที่ถูกเข้าใจผิดและไม่เป็นที่ยอมรับ มากมายยิ่งนักที่เต็มไปด้วยความชื่นบาน มากมายนักที่นองไปด้วยน้ำตาและนำมาซึ่งความรู้สึกหมดศรัทธาอาลัย…ในหมื่นแสนชนิดของการสมรสเหล่านี้ มนุษย์เปิดเผยความรักภักดีและการผูกพันมั่นหมายชั่วชีวิตต่อการสมรส พวกเขาเปิดเผยความรัก ความผูกพัน และความมิอาจพรากจากกันได้ หรือความกล้ำกลืนฝืนทนและความไม่เข้าใจกัน บางคนทรยศชีวิตสมรส หรือถึงขั้นรู้สึกชิงชังมัน ไม่ว่าการสมรสเองนำมาซึ่งความสุขหรือความปวดร้าว ภารกิจของทุกคนในการสมรสนั้นได้ถูกพระผู้สร้างลิขิตไว้ล่วงหน้าแล้วและจะไม่เปลี่ยนแปลง ภารกิจนี้เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ทุกคนต้องทำให้เสร็จสิ้น ชะตากรรมของบุคคลแต่ละคนซึ่งซ่อนอยู่หลังทุกชีวิตสมรสนั้นไม่เปลี่ยนแปลงด้วยถูกกำหนดไว้ล่วงหน้านานแล้วโดยพระผู้สร้าง

2. การสมรสเกิดจากชะตากรรมของคู่สมรสทั้งสอง

การสมรสเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในชีวิตของบุคคล เป็นผลงานของชะตากรรมของบุคคลและการเชื่อมโยงที่สำคัญยิ่งยวดในชะตากรรมของคนเรา และไม่ได้ตั้งอยู่บนอำนาจการตัดสินใจด้วยตัวเองและการเลือกชอบของตัวบุคคลนั้น และไม่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกใดๆ แต่ถูกกำหนดโดยชะตากรรมของทั้งสองฝ่าย โดยการจัดการเตรียมการและการลิขิตล่วงหน้าของพระผู้สร้างสำหรับชะตากรรมของสมาชิกของคู่ครองทั้งสอง โดยผิวเผินแล้ว จุดประสงค์ของการสมรสก็คือการสืบสานเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ แต่ในความจริง การสมรสไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากพิธีกรรมที่คนเราก้าวผ่านในกระบวนการทำภารกิจของคนเราให้เสร็จสิ้น ในการสมรส ผู้คนไม่เพียงแค่แสดงบทบาทของการเลี้ยงดูคนรุ่นต่อไป พวกเขายังนำบทบาทอันหลากหลายทั้งหมดมาใช้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประคับประคองชีวิตสมรสและภารกิจต่างๆ ที่บทบาทเหล่านั้นกำหนดให้คนเราจำเป็นต้องทำจนเสร็จสิ้น เนื่องจากการเกิดของคนเรามีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ผู้คน เหตุการณ์ และสิ่งต่างๆ ที่ล้อมรอบมันต้องก้าวผ่าน การสมรสของคนเราจึงย่อมจะส่งผลกระทบต่อผู้คน เหตุการณ์ และสิ่งต่างๆ เหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย และยิ่งไปกว่านั้น ย่อมจะแปลงสภาพสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดในหนทางหลากหลาย

เมื่อคนเรากลายมามีอิสระ คนเราก็เริ่มการเดินทางในชีวิตของคนเราเอง ซึ่งนำทางคนเราให้ตรงไปหาผู้คน เหตุการณ์ และสิ่งต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับการสมรสของคนเราทีละก้าวๆ ในเวลาเดียวกัน อีกบุคคลหนึ่งที่กำลังจะมาอยู่ในการสมรสนั้นก็กำลังเข้าหาบรรดาผู้คน เหตุการณ์ และสิ่งเดียวกันทีละก้าวๆ ภายใต้อธิปไตยของพระผู้สร้าง ผู้คนสองคนที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน พร้อมด้วยชะตากรรมที่สัมพันธ์กัน ค่อยๆ เข้าสู่การสมรสเดียวกัน และกลายมาเป็นครอบครัวหนึ่งอย่างปาฏิหาริย์ “ตั๊กแตนโลคัสตาสองตัวเกาะเกี่ยวเชือกเส้นเดียวกัน” ดังนั้นเมื่อคนเราเข้าสู่ชีวิตสมรส การเดินทางในชีวิตของคนเราจะมีอิทธิพลและกระทบต่ออีกครึ่งหนึ่งของคนเรา และในทำนองเดียวกัน การเดินทางในชีวิตของคู่ของคนเราจะมีอิทธิพลและกระทบต่อชะตากรรมในชีวิตของตัวคนเราเอง กล่าวอีกอย่างว่า ชะตากรรมของมนุษย์เชื่อมโยงกันและกัน และไม่มีผู้ใดสามารถทำภารกิจในชีวิตของคนเราให้เสร็จสิ้นหรือแสดงบทบาทของคนเราอย่างเป็นอิสระจากผู้อื่นโดยสมบูรณ์ กำเนิดของคนเราส่งผลต่อห่วงโซ่แห่งสัมพันธภาพขนาดมหึมา การเจริญเติบโตก็เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่แห่งสัมพันธภาพอันซับซ้อนด้วยเช่นกัน และในทำนองคล้ายคลึงกัน การสมรสก็ดำรงอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และถูกดำรงไว้ภายในโครงข่ายอันซับซ้อนและไพศาลของการติดต่อสัมพันธ์ของมนุษย์ โดยเกี่ยวข้องกับสมาชิกทุกคนของโครงข่ายนั้น และส่งอิทธิพลต่อชะตากรรมของทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของมัน การสมรสหนึ่งไม่ได้เป็นผลที่เกิดขึ้นจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย รูปการณ์แวดล้อมที่พวกเขาเติบโตขึ้นมา รูปลักษณ์ของพวกเขา อายุของพวกเขา คุณสมบัติของพวกเขา พรสวรรค์ของพวกเขา หรือปัจจัยอื่นใด แต่กลับกัน มันเกิดขึ้นจากภารกิจร่วมและชะตากรรมอันเกี่ยวพัน นี่คือจุดกำเนิดของการสมรส ผลงานของชะตากรรมมนุษย์ที่พระผู้สร้างทรงจัดวางเรียบเรียงและทรงจัดการเตรียมการ

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 3

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

หัวเลี้ยวหัวต่อที่หก: ความตาย

หลังจากความวุ่นวายมากมายเหลือเกิน ความคับข้องขุ่นมัวและความผิดหวังหลายครั้งครา หลังจากความชื่นบานและความเศร้าโศก และการขึ้นๆ ลงๆ...

การเข้าใจและการเข้าหาข้อเท็จจริงแห่งการบริหารจัดการชะตากรรมของมนุษย์ของพระเจ้า

ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่า พระเจ้าทรงกุมอธิปไตยเหนือชะตากรรมมนุษย์ หลังจากที่ได้ฟังทุกสิ่งที่เราเพิ่งได้พูดไป...

ติดต่อเราผ่าน Messenger