บทที่ 81

ยุคเก่านี่ช่างชั่วร้ายและวิปริตผิดศีลธรรมยิ่งนัก!  เราจะกลืนเจ้าให้หมด!  ภูเขาศิโยนเอ๋ย!  จงลุกขึ้นเพื่อโห่ร้องอวยชัยแก่เรา!  สำหรับความครบบริบูรณ์ของแผนการบริหารจัดการของเรา สำหรับความสำเร็จลุล่วงที่ประสบความสำเร็จของงานอันยิ่งใหญ่ของเรานั้น ผู้ใดกล้าที่จะไม่ลุกขึ้นและแซ่ซ้อง!  ผู้ใดกล้าที่จะไม่ลุกขึ้นและกระโดดโลดเต้นด้วยความชื่นบานยินดีอย่างไม่สิ้นสุดบ้าง?  พวกเขาจะพบกับความตายของพวกเขาในมือของเรา!  เราดำเนินงานความชอบธรรมกับทุกคนให้สำเร็จโดยปราศจากความปรานีหรือความเมตตาแม้แต่น้อย และเราทำเช่นนั้นอย่างเป็นกลางที่สุด  กลุ่มชนทั้งปวง!  จงลุกขึ้นเพื่อให้การสรรเสริญ และมอบสง่าราศีแก่เรา!  สง่าราศีที่ไม่สิ้นสุดทั้งหมดนั้น ดำรงอยู่เพราะเราจากนิรันดร์กาลสู่นิรันดร์กาล และได้รับการสถาปนาขึ้นโดยเรา  ผู้ใดจะกล้าเอาสง่าราศีให้กับตนเองบ้าง?  ผู้ใดจะกล้าปฏิบัติต่อสง่าราศีของเราว่าเป็นสิ่งของทางวัตถุบ้าง?  พวกเขาจะถูกฆ่าโดยมือของเรา!  โอ้ พวกมนุษย์ที่โหดร้าย!  เราได้สร้างพวกเจ้าและจัดเตรียมให้กับพวกเจ้า และเราได้นำทางพวกเจ้ามาจนถึงวันนี้ กระนั้นพวกเจ้าก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเราแม้แต่น้อย และเจ้าไม่รักเราเลย  เราจะสามารถแสดงความปรานีแก่พวกเจ้าอีกได้อย่างไร?  เราจะสามารถช่วยพวกเจ้าให้รอดได้อย่างไร?  เราสามารถทำได้เพียงปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความโกรธเคืองของเราเท่านั้น!  เราจะตอบแทนพวกเจ้าด้วยการทำลายล้าง และด้วยการตีสอนชั่วนิรันดร์  นี่คือความชอบธรรม ซึ่งสามารถเป็นได้เพียงวิธีนี้เท่านั้น

ราชอาณาจักรของเราเป็นปึกแผ่นและมั่นคง จะไม่มีวันพังทลายลง  ราชอาณาจักรของเราจะดำรงอยู่ชั่วกัลปาวสาน!  บรรดาบุตรของเรา บรรดาบุตรหัวปีของเรา และบรรดาผู้คนของเราจะชื่นชมพรทั้งหลายกับเราตลอดกาลและตลอดไป!  พวกที่ไม่เข้าใจเรื่องทางจิตวิญญาณและผู้ที่ไม่ได้รับวิวรณ์จากพระวิญญาณบริสุทธิ์จะถูกตัดออกจากราชอาณาจักรของเราไม่ช้าก็เร็ว  พวกเขาจะไม่จากไปด้วยความสมัครใจของพวกเขาเอง แต่จะถูกบังคับให้ออกไปโดยกฎแห่งคทาเหล็กของเราและโดยบารมีของเรา ที่มากไปกว่านั้นคือ พวกเขาจะถูกเตะออกไปโดยเท้าของเรา  พวกที่ได้ถูกพวกวิญญาณชั่วเข้าสิงมาเป็นเวลาหนึ่ง (หมายความว่าตั้งแต่เกิด) จะถูกเปิดโปงทั้งหมดในตอนนี้  เราจะขับไล่เจ้าออกไป!  เจ้ายังคงจำสิ่งที่เราได้กล่าวไปหรือไม่?  เรา—พระเจ้าผู้บริสุทธิ์และปราศจากมลทิน—ไม่อาศัยอยู่ในวิหารที่เน่าและโสโครก  พวกที่ถูกเหล่าวิญญาณชั่วเข้าสิงรู้ถึงการนี้ด้วยตัวพวกเขาเอง และเราไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ชัดเจน  เราไม่ได้ลิขิตเจ้าไว้ล่วงหน้า!  เจ้าคือซาตานตัวเก่า กระนั้นเจ้าก็ยังต้องการแทรกซึมราชอาณาจักรของเรา!  ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!  เรากำลังบอกเจ้า!  ในวันนี้เราจะทำให้การนี้ชัดเจนแก่เจ้าอย่างมาก กล่าวคือ บรรดาผู้ที่เราได้เลือกสรรตั้งแต่ช่วงเวลาของการสร้างมวลมนุษย์นั้น เราได้ให้พวกเขาซึมซาบไปด้วยคุณสมบัติของเราและอุปนิสัยของเรา ดังนั้น ในวันนี้พวกเขาจึงจงรักภักดีต่อเราผู้เดียว พวกเขาสามารถแบกรับภาระให้กับคริสตจักรได้ และพวกเขาเต็มใจสละตัวเองเพื่อเรา และมอบถวายการเป็นอยู่ทั้งหมดทั้งมวลของพวกเขาแก่เรา  ด้วยเหตุนี้ พวกที่เราไม่ได้เลือกสรรจึงได้ถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามจนถึงระดับหนึ่ง และพวกเขาไม่มีคุณสมบัติใดของเราและไม่มีอุปนิสัยใดของเรา  พวกเจ้าคิดว่าวจนะของเราขัดแย้งกัน แต่วจนะของเราที่ว่า “เจ้าได้ถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าและได้ถูกเลือกสรรโดยเรา กระนั้นพวกเจ้าก็แบกรับผลสืบเนื่องสำหรับการกระทำของเจ้า” นั้นล้วนอ้างอิงถึงซาตาน  บัดนี้เราจะอธิบายประเด็นหนึ่ง นั่นคือ ในวันนี้ บรรดาผู้ที่สามารถลุกขึ้นและเข้ารับสิทธิอำนาจเหนือคริสตจักร เป็นผู้เลี้ยงให้กับคริสตจักร คำนึงถึงภาระของเรา และทำหน้าที่พิเศษให้ลุล่วง—ไม่มีสักคนเดียวจากผู้คนเหล่านั้นที่ทำงานปรนนิบัติพระคริสต์ พวกเขาทั้งหมดคือบรรดาผู้ที่เราได้ลิขิตไว้ล่วงหน้าและได้เลือกสรรไว้  เราบอกเรื่องนี้แก่พวกเจ้าเพื่อที่พวกเจ้าจะได้ไม่กังวลมากเกินไปและไม่ทำให้ความก้าวหน้าในชีวิตของเจ้าล่าช้า  จะมีกี่คนที่สามารถได้รับสถานภาพของบุตรหัวปีได้?  เป็นไปได้หรือไม่ว่าการนี้ง่ายพอๆ กับการได้รับประกาศนียบัตร?  เป็นไปไม่ได้!  หากไม่ใช่เพราะการที่เราทำให้พวกเจ้ามีความเพียบพร้อม พวกเจ้าก็คงจะได้ถูกซาตานทำให้เสื่อมรามไปตั้งนานแล้ว  นี่คือเหตุผลที่เราจึงได้เน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเราจะดูแลและคุ้มครองปกป้องบรรดาผู้ที่จงรักภักดีต่อเราและคุ้มกันพวกเขาจากอันตรายและความทุกข์ อยู่เสมอ พวกที่เราไม่ได้ลิขิตไว้ล่วงหน้าคือพวกที่ได้ถูกเหล่าวิญญาณชั่วเข้าสิง พวกเขาคือพวกที่ด้านชา ปัญญาทึบและแคระแกร็นด้านจิตวิญญาณ และเป็นพวกที่ไม่สามารถเป็นผู้เลี้ยงให้กับคริสตจักรได้ (หมายถึง พวกที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นแต่เป็นพวกที่ไม่ชัดเจนในเรื่องของนิมิตทั้งหลาย)  เจ้าควรถูกลบออกไปจากสายตาของเราโดยเร็ว และยิ่งเร็วก็ยิ่งดี มิฉะนั้นเราก็น่าจะกลายเป็นชิงชังและกริ้วจากการได้เห็นเจ้า  หากเจ้าหนีไปได้โดยเร็ว เจ้าก็จะได้รับการตีสอนน้อยลง—แต่ยิ่งเจ้าใช้เวลานานขึ้นเท่าใด การตีสอนก็จะยิ่งเกรี้ยวกราดมากขึ้นเท่านั้น  เจ้าเข้าใจหรือไม่?  จงหยุดการกระทำอันน่าอับอายเช่นนั้นเสีย!  เจ้ากระทำผิดศีลธรรมและไม่ยับยั้งชั่งใจ ไม่รู้จักคิดและไม่ระมัดระวัง และไม่มีแนวคิดเลยว่าเจ้าคือขยะประเภทใด!  เจ้าช่างตาบอด!

บรรดาผู้กุมอำนาจในราชอาณาจักรของเราล้วนได้รับการเลือกสรรอย่างพิถีพิถันโดยเรา และได้ก้าวผ่านการทดสอบซ้ำๆ ไม่มีผู้ใดสามารถทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ได้  เราได้มอบความแข็งแกร่งให้แก่พวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้ไม่มีวันล้มลงหรือหลงผิด  พวกเขาได้รับความเห็นชอบของเรา  นับจากวันนี้ไป พวกหน้าซื่อใจคดจะแสดงธาตุแท้ของพวกเขาออกมา  พวกเขาสามารถทำสิ่งต่างๆ ที่น่าอับอายได้ทุกรูปแบบ แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาก็จะไม่อาจหลีกหนีมือของเรา ซึ่งจะตีสอนและเผาผลาญซาตาน  วิหารของเราจะบริสุทธิ์และสะอาดสะอ้าน  ทั้งหมดนี้คือคำพยานต่อเรา เป็นการสำแดงถึงเรา และเป็นสง่าราศีต่อนามของเรา  วิหารของเราคือที่พำนักชั่วนิรันดร์ของเราและเป็นเป้าหมายแห่งความรักชั่วนิรันดร์ของเรา  บ่อยครั้งที่เราสัมผัสมันด้วยมือแห่งความรัก นำการชูใจมาให้มันด้วยภาษาแห่งความรัก เอาใจใส่มันด้วยสายตาแห่งความรัก และสวมกอดมันด้วยอ้อมอกแห่งความรักเพื่อที่มันจะไม่ตกลงสู่กับดักของพวกคนชั่วหรือถูกซาตานล่อลวง  ในวันนี้ บรรดาผู้ที่ทำงานปรนนิบัติเราแต่ไม่ได้รับการช่วยให้รอดจะถูกเราใช้เป็นครั้งสุดท้าย  เหตุใดเราจึงรีบเร่งที่จะโยนสิ่งเหล่านี้ออกไปจากราชอาณาจักรของเรา?  เหตุใดเราจึงต้องขับพวกเขาไปจากสายตาของเรา?  เราเกลียดชังพวกเขาเข้ากระดูกดำ!  เหตุใดเราจึงไม่ช่วยพวกเขาให้รอด?  เหตุใดเราจึงรังเกียจพวกเขายิ่งนัก?  เหตุใดเราจึงต้องบดขยี้พวกเขาจนตาย?  เหตุใดเราต้องทำลายพวกเขา?  (จะไม่มีพวกเขาแม้สักนิดเดียวสามารถคงอยู่ในสายตาของเราได้ รวมไปถึงเถ้าถ่านของพวกเขาด้วย)  เหตุใดเล่า?  แม้แต่พญานาคใหญ่สีแดง งูโบราณ และซาตานตัวเก่าก็แสวงหาเสบียงอาหารที่ไม่สมควรจะได้ในราชอาณาจักรของเรา!  จงอย่าเพ้อฝันอีกต่อไป!  พวกเขาทั้งหมดจะไม่มีความหมายอะไรเลยและจะถูกทำให้กลายเป็นเถ้าธุลี!

เราจะทำลายยุคนี้ จะแปรสภาพมันให้เป็นราชอาณาจักรของเรา และใช้ชีวิตและชื่นชมจวบจนชั่วนิจนิรันดร์กับผู้คนที่เรารัก  สิ่งต่างๆ ที่ไม่สะอาดไม่ควรยอมรับว่าพวกมันสามารถคงอยู่ในราชอาณาจักรของเราได้  เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถหาประโยชน์ในสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนได้หรือ?  จงลืมความเพ้อฝันเช่นนั้นเสียเถิด!  เจ้าไม่รู้หรอกว่าตาของเรามองเห็นทั้งหมด!  เจ้าไม่รู้หรอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกจัดการเตรียมการโดยมือของเรา!  จงอย่าคิดว่าเจ้าเป็นที่นับถือสูงส่งมากนัก!  พวกเจ้าแต่ละคนต้องอยู่ในที่ในทางที่เหมาะสมของเจ้า  จงอย่าแสร้งทำเป็นถ่อมตน (เรากำลังอ้างอิงถึงบรรดาผู้ที่ได้รับพร) หรือสั่นเทิ้มหรือกลัว (เรากำลังอ้างอิงถึงบรรดาผู้ที่ทนทุกข์กับความโชคร้าย)  ณ ตอนนี้ ผู้คนทั้งหมดควรรู้อยู่แก่ใจตัวเอง  ต่อให้เราไม่ได้เอ่ยชื่อเจ้า เจ้าก็ควรที่จะยังคงรู้สึกมั่นใจ เพราะเราได้ชี้นำวจนะของเราไปที่บุคคลทุกคน  ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ที่ได้รับการเลือกสรรของเราหรือไม่ วจนะของเราถูกชี้นำไปที่สภาวะปัจจุบันของพวกเจ้าทุกคน  กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากพวกเจ้าอยู่ท่ามกลางผู้ที่ได้รับการเลือกสรรของเรา เช่นนั้นเราก็จะกล่าวถึงสภาวะของบรรดาผู้ที่เราได้เลือกสรรบนพื้นฐานของวิธีที่พวกเจ้าได้นำเสนอตัวพวกเจ้าเอง ส่วนพวกที่เราไม่ได้เลือกสรร เราก็กล่าวตามสภาวะของพวกเขาด้วยเช่นกัน  ด้วยเหตุนี้ วจนะของเราจึงได้ถูกกล่าวไปถึงจุดหนึ่ง เจ้าแต่ละคนควรมีสำนึกรับรู้ที่ดีถึงการนั้น  จงอย่าหลอกตัวเอง!  จงอย่ากลัว!  เพราะจำนวนผู้คนถูกจำกัดเพียงไม่กี่คน การหลอกลวงจะไม่ได้ผล!  ผู้ใดก็ตามที่เรากล่าวว่าได้รับการเลือกสรรก็จะได้รับการเลือกสรร และไม่ว่าเจ้าอาจจะเสแสร้งเก่งเพียงใดก็ตาม หากปราศจากคุณสมบัติของเราแล้ว เจ้าก็จะล้มเหลว  เพราะเรารักษาคำพูดของเรา เราไม่ทำให้แผนการของเราเองหยุดชะงักอย่างไม่ตั้งใจ เราทำสิ่งใดก็ตามที่เราต้องการทำ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำนั้นถูกต้อง  เราคือผู้สูงสุด และเราคือผู้ทรงเอกลักษณ์  เจ้าเข้าใจชัดเจนในการนี้หรือไม่?  เจ้าเข้าใจหรือไม่?

ตอนนี้ หลังจากที่ได้อ่านวจนะของเราแล้ว พวกที่กระทำชั่วและที่คดโกงและหลอกลวง กำลังทำงานอย่างหนักด้วยเพื่อแสวงหาความก้าวหน้าและเพื่อทำความพยายามส่วนตัวของพวกเขาเอง  พวกเขาต้องการจ่ายราคาเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อแอบเล็ดลอดเข้าไปสู่ราชอาณาจักรของเรา  พวกเขาควรวางความคิดเช่นนั้นไปเสีย!  (ผู้คนเหล่านี้ไม่มีความหวังเพราะเราไม่ได้ให้โอกาสพวกเขากลับใจ)  เราพิทักษ์ประตูสู่ราชอาณาจักรของเรา  เจ้าเชื่อว่าผู้คนสามารถเข้าสู่ราชอาณาจักรของเราดังที่พวกเขาปรารถนาได้หรือ?  เจ้าเชื่อว่าราชอาณาจักรของเราจะเพียงยอมรับเศษเดนประเภทใดก็ได้กระนั้นหรือ?  ว่าราชอาณาจักรของเราจะรับขยะที่ไร้คุณค่าประเภทใดก็ได้กระนั้นหรือ?  เจ้าเข้าใจผิดแล้ว!  ในวันนี้ คนเหล่านั้นที่อยู่ในราชอาณาจักรคือบรรดาผู้ที่กุมอำนาจอย่างกษัตริย์ร่วมกับเรา เราได้ปลูกฝังพวกเขาอย่างพิถีพิถัน  นี่ไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างที่สามารถสัมฤทธิ์ผลได้แค่เพียงมีความต้องการมัน เจ้าต้องได้รับความเห็นชอบของเรา  ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างที่จะเสวนากับผู้ใดก็ได้ มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เราจัดการเตรียมการด้วยตัวเราเอง  สิ่งใดก็ตามที่เรากล่าวจะเป็นไปตามนั้น  ความล้ำลึกของเราถูกเผยแก่บรรดาผู้ที่เรารัก  พวกที่กระทำชั่ว—นั่นคือ พวกที่เราไม่ได้เลือกสรร—ก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รับมัน  ต่อให้พวกเขาได้ยินความล้ำลึกเหล่านี้แล้ว พวกเขาก็คงจะไม่เข้าใจ เพราะซาตานได้ปิดบังตาของพวกเขาไว้และยึดครองหัวใจของพวกเขา ทำให้การเป็นอยู่ทั้งหมดทั้งมวลของพวกเขาล่มจม  เหตุใดจึงมีการกล่าวว่าการกระทำของเราน่าอัศจรรย์ใจและมีปัญญา และว่าเราใช้ประโยชน์กับทุกสิ่งทุกอย่างในการปรนนิบัติของเรา?  เราจะส่งมอบพวกที่ไม่ถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าและไม่ได้รับการเลือกสรรโดยเราให้กับซาตานเพื่อลงโทษพวกเขาและทำให้พวกเขาเสื่อมทราม และเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการลงโทษพวกเขา เรามีปัญญามากถึงเพียงนี้เลย!  ผู้ใดเคยคิดถึงการนี้บ้าง?  งานอันยิ่งใหญ่ของเราได้สำเร็จลุล่วงโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ เลย ไม่ใช่หรือ?

ก่อนหน้า: บทที่ 80

ถัดไป: บทที่ 82

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง I ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger