เมื่อใบไม้ที่ร่วงหล่นกลับคืนสู่รากของพวกมัน เจ้าจะเสียใจกับความชั่วทั้งหมดที่เจ้าทำลงไป

พวกเจ้าทั้งหมดได้เห็นงานที่เราทำไปในท่ามกลางพวกเจ้าด้วยตาของพวกเจ้าเอง พวกเจ้าเองได้ฟังวจนะที่เรากล่าว และพวกเจ้าทั้งหมดได้รู้ท่าทีที่เรามีต่อพวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าจึงควรรู้ว่าเหตุใดเราจึงได้กำลังทำงานนี้ในตัวพวกเจ้า  เรากล่าวแก่พวกเจ้าตามตรงว่าพวกเจ้าเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับงานพิชิตชัยของเราในยุคสุดท้าย เป็นเครื่องใช้ไม้สอยสำหรับการขยายงานของเราในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย  เรากล่าวโดยผ่านทางความไม่ชอบธรรม ความโสมม การต้านทาน และความเป็นกบฏของพวกเจ้าเพื่อที่จะขยายงานของเราและเผยแพร่นามของเราท่ามกลางประชาชาติทั้งหลายได้ดียิ่งขึ้น นั่นคือ เพื่อเผยแพร่นามของเราท่ามกลางชนชาติใดๆ นอกประเทศอิสราเอล  การนี้เป็นไปเพื่อให้นามของเรา กิจการของเรา และเสียงของเราแพร่กระจายไปทั่วประชาชาติทั้งหลาย และด้วยเหตุนี้ชนชาติทั้งปวงที่ไม่ใช่อิสราเอลก็จะถูกเราพิชิตและนมัสการเรา กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเรานอกแผ่นดินอิสราเอลและอียิปต์  การขยายงานของเราแท้ที่จริง แล้วคือการขยายงานพิชิตชัยของเราและขยายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเรา เป็นการขยายฐานที่มั่นของเราบนแผ่นดินโลก  พวกเจ้าควรเข้าใจอย่างชัดเจนว่าพวกเจ้าเป็นเพียงสิ่งสร้างที่มีชีวิตท่ามกลางประชาชาติที่เราพิชิตเท่านั้น  เดิมทีเจ้าไม่ได้มีทั้งสถานะและคุณค่าใดๆ ให้ใช้งาน และไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด  เป็นเพียงเพราะเราหยิบเอาหนอนแมลงขึ้นมาจากกองมูลสัตว์เพื่อเป็นวัตถุตัวอย่างของการพิชิตดินแดนทั้งมวลของเรา เป็น “วัสดุอ้างอิง” เพียงอย่างเดียวสำหรับการพิชิตดินแดนทั้งมวลของเราเท่านั้น พวกเจ้าจึงโชคดีพอที่จะมาติดต่อสื่อสารกับเรา และได้ชุมนุมร่วมกับเราในเวลานี้  เป็นเพราะสถานะอันต่ำต้อยของพวกเจ้า เราจึงได้คัดสรรพวกเจ้าให้เป็นวัตถุตัวอย่างและแบบอย่างแห่งงานพิชิตชัยของเรา  เป็นเพราะเหตุผลนี้เท่านั้นที่เราทำงานและกล่าวท่ามกลางพวกเจ้า และดำเนินชีวิตและพักแรมกับพวกเจ้า  เจ้าควรรู้ว่าเป็นเพียงเพราะการบริหารจัดการของเราและเพราะความชิงชังอย่างยิ่งที่เรามีต่อหนอนแมลงในกองมูลสัตว์เท่านั้นที่เรากำลังกล่าวท่ามกลางพวกเจ้า—นี่ถึงจุดที่เราโกรธจัดแล้ว  การทำงานของเราท่ามกลางพวกเจ้าไม่เหมือนกับการทรงพระราชกิจของพระยาห์เวห์ในอิสราเอลแต่ประการใด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่เหมือนกับพระราชกิจที่พระเยซูทำในยูเดีย  เราพูดและทำงานด้วยความยอมผ่อนปรนอย่างยิ่ง และเราพิชิตคนที่เสื่อมเสียเหล่านี้ด้วยความโกรธและการพิพากษา  นี่ไม่เหมือนกับการที่พระยาห์เวห์ทรงนำทางประชากรของพระองค์ในอิสราเอล  พระราชกิจของพระองค์ในอิสราเอลคือการประทานอาหารและน้ำแห่งชีวิต และในขณะที่ทรงจัดเตรียมเพื่อพวกเขา พระองค์ทรงเปี่ยมไปด้วยความสงสารและความรักในประชากรของพระองค์  งานของวันนี้ดำเนินอยู่ในชาติที่ถูกสาปของผู้คนที่ไม่ได้รับการเลือกสรร  ไม่มีอาหารอันอุดมสมบูรณ์ ไม่มีน้ำแห่งชีวิตที่บำรุงเลี้ยงและดับกระหาย และยิ่งไม่มีสินค้าทางวัตถุอย่างเหลือเฟือ มีแต่การพิพากษา คำสาปแช่ง และการตีสอนอันเหลือเฟือเท่านั้น  หนอนแมลงที่มีชีวิตอยู่ในกองมูลสัตว์นี้ไม่คู่ควรอย่างสิ้นเชิงที่จะได้รับฝูงปศุสัตว์และแกะเต็มเทือกเขา ความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ และลูกหลานที่สวยงามที่สุดในแผ่นดินอย่างที่เราเคยมอบให้แก่อิสราเอล  อิสราเอลในปัจจุบันจัดมอบฝูงปศุสัตว์และแกะและเครื่องทองเครื่องเงินไว้บนแท่นบูชาให้เราใช้บำรุงเลี้ยงชาวอิสราเอล ในจำนวนที่มากกว่าหนึ่งในสิบดังที่พระยาห์เวห์ทรงพึงประสงค์ภายใต้ธรรมบัญญัติ และดังนั้นเราจึงให้พวกเขามากขึ้นไปอีก—มากกว่าหนึ่งร้อยเท่าที่อิสราเอลจะได้รับตามธรรมบัญญัติ  สิ่งที่เราใช้บำรุงเลี้ยงอิสราเอลนั้นเหนือกว่าทั้งหมดที่อับราฮัมได้รับ และทั้งหมดที่อิสอัคได้รับ  เราจะทำให้ครอบครัวของอิสราเอลมีลูกมากและทวีจำนวน และเราจะทำให้ประชากรแห่งอิสราเอลของเราแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินโลก  บรรดาผู้ที่เราให้พรและดูแลเอาใจใส่ยังคงเป็นประชากรที่ได้รับการเลือกสรรแห่งอิสราเอล—นั่นคือ ผู้คนที่ทุ่มเทอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่เราและได้รับทุกสิ่งทุกอย่างจากเรา  เป็นเพราะพวกเขาระลึกถึงเรานั่นเอง พวกเขาจึงพลีอุทิศลูกวัวและลูกแกะแรกเกิดของพวกเขาบนแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ของเราและมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามีไว้เบื้องหน้าเรา จนถึงขนาดที่พวกเขามอบบุตรหัวปีแรกเกิดเพื่อเตรียมรับการกลับมาของเรา  แล้วพวกเจ้าเล่า?  พวกเจ้ากระตุ้นความโกรธของเรา เรียกร้องจากเรา และขโมยของพลีอุทิศที่มาจากบรรดาผู้ที่มอบสิ่งของแก่เรา และพวกเจ้ากลับไม่รู้ว่ากำลังล่วงเกินเรา ด้วยเหตุนี้ ทั้งหมดที่พวกเจ้าได้รับจึงเป็นการร่ำไห้และการลงโทษในความมืดมน  พวกเจ้ายั่วยุความโกรธของเรามาหลายครั้งแล้ว และเราได้กระหน่ำเทไฟที่ลุกไหม้ของเราลงมาจนถึงจุดที่ผู้คนจำนวนมากพบพานปลายทางอันน่าอนาถ และบ้านอันแสนสุขได้กลายเป็นหลุมฝังศพอันอ้างว้าง  ทั้งหมดที่เรามีให้แก่หนอนแมลงเหล่านี้คือความโกรธอันไม่มีที่สิ้นสุด และเราไม่คิดที่จะให้พรพวกมัน  เราละเว้นและหยิบพวกเจ้าขึ้นมา และสู้ทนการดูหมิ่นอันใหญ่หลวงและทำงานท่ามกลางพวกเจ้า ก็เพียงเพื่องานของเราเท่านั้น  หากไม่ใช่เพื่อน้ำพระทัยแห่งพระบิดาของเราแล้ว เราจะสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับหนอนแมลงที่เกลือกกลิ้งอยู่ในกองมูลสัตว์ได้อย่างไร?  เรารู้สึกเกลียดการกระทำและคำพูดทั้งหมดของพวกเจ้าเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรามี “ความสนใจ” ในความโสมมและความเป็นกบฏของพวกเจ้าอยู่บ้าง นี่จึงกลายเป็นงานรวบรวมวจนะของเราครั้งใหญ่  มิฉะนั้นแล้วเราคงจะไม่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้ามาเป็นเวลานานขนาดนี้อย่างแน่นอน  ดังนั้นพวกเจ้าควรรู้ว่าท่าทีที่เรามีต่อพวกเจ้าเป็นเพียงท่าทีของความเห็นใจและเวทนาเท่านั้น เราไม่มีความรักให้แก่พวกเจ้าสักนิด  สิ่งที่เรามีให้แก่พวกเจ้าเป็นเพียงการทนยอมรับ เพราะเราทำการนี้เพียงเพื่องานของเราเท่านั้น  และพวกเจ้าได้เห็นกิจการของเราเพียงเพราะเราเลือกเอาความโสมมและความเป็นกบฏมาเป็น “วัตถุดิบ” มิฉะนั้นแล้ว เราย่อมจะไม่เปิดเผยกิจการของเราแก่หนอนแมลงเหล่านี้เป็นแน่  เราทำงานในตัวพวกเจ้าก็ด้วยความลังเลเท่านั้น ไม่เหมือนที่เราทำงานของเราด้วยความพร้อมและเต็มใจในอิสราเอลเลย  เรากำลังฝืนทนความโกรธของเรา พลางบังคับตัวเราเองให้กล่าวท่ามกลางพวกเจ้า  หากไม่ใช่เพื่องานที่ยิ่งใหญ่ขึ้นของเราแล้ว เราจะสามารถทนยอมรับภาพที่ต่อเนื่องยาวนานของหนอนแมลงพวกนี้ได้อย่างไร?  หากไม่ใช่เพื่อนามของเรา เราคงจะขึ้นสู่ที่สูงสุดและเผาผลาญหนอนแมลงเหล่านี้จนสิ้นไปพร้อมกับกองมูลสัตว์ของพวกมันนานแล้ว!  หากไม่ใช่เพื่อสง่าราศีของเรา เราจะยอมให้ปีศาจชั่วเหล่านี้ต้านทานเราอย่างโจ่งแจ้ง ส่ายหัวของพวกมันไปมาต่อหน้าต่อตาเราได้อย่างไร?  หากไม่ใช่เพื่อที่จะให้งานของเราดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีอุปสรรคแม้แต่น้อยแล้ว เราจะยอมให้ผู้คนที่เหมือนหนอนแมลงเหล่านี้ทารุณเราตามใจชอบได้อย่างไร?  หากผู้คนหนึ่งร้อยคนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอิสราเอลลุกฮือขึ้นมาต้านทานเราเยี่ยงนี้ ต่อให้พวกเขาพลีอุทิศให้เรา เราก็จะยังคงทำลายล้างและโยนพวกเขาลงไปในรอยแยกของผืนดินเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ผู้คนในเมืองอื่นๆ มีวันก่อกบฏขึ้นมาอีก  เราคือไฟที่เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างและเราไม่ทนยอมรับการล่วงเกิน  เนื่องจากมนุษย์ทั้งปวงล้วนถูกเราสร้างขึ้น ไม่ว่าเราจะพูดและทำสิ่งใด พวกเขาจึงต้องเชื่อฟัง และพวกเขาไม่อาจก่อกบฏ  ผู้คนไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายงานของเรา และพวกเขายิ่งไม่มีคุณสมบัติที่จะวิเคราะห์ว่าสิ่งใดถูกต้องหรือผิดในงานของเราและในวจนะของเรา  เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้าของสิ่งสร้าง และสิ่งสร้างที่มีชีวิตทั้งหลายควรสัมฤทธิ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพึงประสงค์ด้วยหัวใจที่เคารพเรา พวกเขาไม่ควรพยายามที่จะใช้เหตุผลกับเรา  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาไม่ควรต้านทาน  เราปกครองประชากรของเราด้วยสิทธิอำนาจของเรา และทั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งสร้างของเราควรนบนอบต่อสิทธิอำนาจของเรา  แม้ว่าวันนี้พวกเจ้าจะใจกล้าและอวดดีต่อหน้าเรา แม้ว่าพวกเจ้าจะไม่เชื่อฟังวจนะซึ่งเราใช้สอนพวกเจ้าและไม่รู้จักยำเกรง แต่เราก็เพียงเผชิญความเป็นกบฏของพวกเจ้าด้วยความยอมผ่อนปรนเท่านั้น เราจะไม่เสียอารมณ์ของเราและทำให้งานของเราได้รับผลกระทบเพราะหนอนแมลงตัวเล็กๆ ที่ไร้ความสำคัญพากันกวนฝุ่นผงในกองมูลสัตว์ขึ้นมา  เราทนยอมรับการดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องของทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเกลียดและสิ่งทั้งหมดที่เราชิงชังเพื่อน้ำพระทัยแห่งพระบิดาของเรา และเราจะทำเช่นนี้ไปจนกว่าถ้อยคำของเราจะบริบูรณ์ จนกว่าจะถึงชั่วขณะสุดท้ายจริงๆ ของเรา  จงอย่ากังวล!  เราย่อมจมสู่ระดับเดียวกับหนอนแมลงไร้ชื่อไม่ได้ และเราจะไม่เปรียบเทียบระดับทักษะของเรากับเจ้า  เราเกลียดเจ้า แต่เราสามารถสู้ทนได้  เจ้าไม่เชื่อฟังเรา แต่เจ้าก็ไม่สามารถหนีพ้นวันที่เราจะตีสอนเจ้า ซึ่งพระบิดาของเราได้ทรงสัญญากับเราไว้  หนอนแมลงที่ถูกสร้างขึ้นจะสามารถเทียบเทียมองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสิ่งสร้างได้หรือ?  ในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ที่ร่วงหล่นย่อมกลับคืนสู่รากของพวกมัน เจ้าก็จะกลับคืนสู่บ้านของ “บิดา” ของเจ้า และเราจะกลับคืนไปอยู่เคียงข้างพระบิดาของเรา  เราจะถึงพร้อมด้วยความรักอันอ่อนโยนของพระองค์ ส่วนเจ้าก็จะมีการเหยียบย่ำของบิดาของเจ้าตามติด  เราจะมีพระสิริแห่งพระบิดาของเรา และเจ้าจะมีความน่าละอายแห่งบิดาของเจ้า  เราจะให้การตีสอนที่เราสะกดกลั้นไว้นานแล้วร่วมทางไปกับเจ้า และเจ้าจะเผชิญการตีสอนของเราด้วยเนื้อหนังอันเน่าเหม็นที่ถูกทำให้เสื่อมทรามมานานหลายหมื่นปีของเจ้า  เราย่อมจะสรุปปิดตัวงานวจนะที่ถึงพร้อมด้วยความยอมผ่อนปรนของเราในตัวเจ้าแล้ว และเจ้าจะเริ่มบททนทุกข์กับความวิบัติจากวจนะของเราจนลุล่วง  เราจะชื่นบานเป็นอย่างยิ่งและทำงานในอิสราเอล เจ้าจะร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของเจ้า ดำรงอยู่และตายลงในโคลน  เราจะได้รับรูปสัณฐานดั้งเดิมของเรากลับคืนมาและจะไม่อยู่ในความโสมมกับเจ้าอีกต่อไป ในขณะที่เจ้าจะได้รับความอัปลักษณ์ดั้งเดิมของเจ้ากลับคืนมาและจะยังคงมุดอยู่ในกองมูลสัตว์ต่อไป  เมื่องานและวจนะของเราเสร็จสิ้นแล้ว นั่นจะเป็นวันแห่งความชื่นบานยินดีสำหรับเรา  เมื่อการต้านทานและความเป็นกบฏของเจ้าจบสิ้น นั่นจะเป็นวันแห่งการร่ำไห้สำหรับเจ้า  เราจะไม่เห็นอกเห็นใจเจ้า และเจ้าจะไม่มีวันได้เห็นเราอีก  เราจะไม่ร่วมสนทนากับเจ้าอีกต่อไป และเจ้าจะไม่มีวันเผชิญหน้าเราอีก เราจะเกลียดชังความเป็นกบฏของเจ้า และเจ้าจะคิดถึงความน่ารักน่าชื่นชมของเรา  เราจะตีเจ้า และเจ้าจะคะนึงหาเรา  เราจะไปจากเจ้าอย่างเปรมปรีดิ์ และเจ้าจะตระหนักรู้ถึงหนี้ที่เจ้าติดค้างเรา  เราจะไม่มีวันพบเห็นเจ้าอีก แต่เจ้ากลับหวังที่จะได้พบเราอยู่ตลอดเวลา  เราจะเกลียดชังเจ้าเพราะเจ้าต้านทานเราในปัจจุบัน และเจ้าจะคิดถึงเราเพราะเราตีสอนเจ้าในปัจจุบัน  เราจะไม่เต็มใจที่จะดำเนินชีวิตเคียงข้างเจ้า แต่เจ้าจะโหยหาชีวิตเช่นนี้อย่างขมขื่นและร่ำไห้ไปชั่วกัลปาวสาน เพราะเจ้าจะเสียใจกับทั้งหมดที่เจ้าได้ทำกับเรา  เจ้าจะสำนึกผิดในความเป็นกบฏและการต้านทานของเจ้า เจ้าจะถึงกับนอนคว่ำหน้ากับพื้นด้วยความเสียใจ และทรุดตัวลงต่อหน้าเราและสาบานว่าจะไม่มีวันไม่เชื่อฟังเราอีก  อย่างไรก็ตาม ในหัวใจของเจ้า เจ้าจะรักเราเท่านั้น กระนั้นเจ้าก็จะไม่มีวันสามารถได้ยินเสียงของเรา  เราจะทำให้เจ้าละอายใจในตัวเจ้าเอง

ตอนนี้เรากำลังมองดูเนื้อหนังอันหลงระเริงของเจ้าที่คอยป้อยอเรา และเรามีเพียงคำเตือนเล็กๆ น้อยๆ ให้กับเจ้าเท่านั้น แต่เราจะไม่ “รับใช้” เจ้าด้วยการตีสอน เจ้าควรจะรู้ว่าเจ้ามีบทบาทใดในงานของเรา และเมื่อนั้นเราจึงจะพึงพอใจ  ในเรื่องทั้งหลายนอกเหนือจากการนี้ หากเจ้าต้านทานเราหรือใช้เงินของเรา หรือกินของพลีอุทิศของเราพระยาห์เวห์ หรือหากหนอนแมลงเช่นพวกเจ้ากัดกันเอง หรือหากสรรพสิ่งสร้างที่ดูเหมือนสุนัขเช่นพวกเจ้าขัดแย้งหรือประทุษร้ายกันเอง—เราย่อมไม่กังวลสนใจในการนั้น  พวกเจ้าจำเป็นต้องรู้เพียงว่าเจ้าคือสิ่งจำพวกใดเท่านั้น และเราก็จะพึงพอใจ  นอกเหนือจากทั้งหมดนี้แล้ว หากพวกเจ้าปรารถนาที่จะหยิบอาวุธสู้กันหรือสู้รบกันด้วยวาจา นั่นก็ไม่เป็นไร เราไม่มีความประสงค์ที่จะก้าวก่ายในสิ่งทั้งหลายเช่นนั้น และย่อมไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องของมนุษย์แม้แต่น้อย  ไม่ใช่ว่าเราไม่ใส่ใจเกี่ยวกับความขัดแย้งทั้งหลายในหมู่พวกเจ้า แต่เป็นเพราะเราไม่ใช่หนึ่งในหมู่พวกเจ้า และดังนั้นจึงไม่มีส่วนร่วมในเรื่องทั้งหลายระหว่างพวกเจ้า  ตัวเราเองไม่ใช่สิ่งสร้างที่มีชีวิตและไม่ได้เป็นของโลกนี้ ดังนั้นเราจึงเกลียดชีวิตอันวุ่นวายของผู้คนและสัมพันธภาพอันยุ่งเหยิงและไม่ถูกต้องเหมาะสมระหว่างพวกเขา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเกลียดฝูงชนที่อึกทึกครึกโครม อย่างไรก็ตาม เรามีความรู้อันลุ่มลึกเกี่ยวกับความไม่บริสุทธิ์ทั้งหลายในหัวใจของสิ่งสร้างที่มีชีวิตแต่ละสิ่ง และก่อนที่เราจะสร้างพวกเจ้านั้น เรารู้อยู่แล้วถึงความไม่ชอบธรรมที่อยู่ลึกลงไปในหัวใจของมนุษย์ และเรารู้ถึงการหลอกลวงและความคดโกงทั้งหมดในหัวใจของมนุษย์  ดังนั้น ต่อให้ไม่มีร่องรอยว่ามนุษย์ทำสิ่งที่ไม่ชอบธรรม เราก็ยังคงรู้ว่าความไม่ชอบธรรมที่เก็บงำไว้ภายในหัวใจของพวกเจ้านั้นเหนือกว่าความอุดมของสรรพสิ่งที่เราสร้างขึ้น  พวกเจ้าทุกคนขึ้นสู่จุดสูงสุดของมวลชนแล้ว พวกเจ้าขึ้นเป็นบรรพบุรุษของผองชนแล้ว  พวกเจ้าเอาแต่ใจยิ่งนัก และพวกเจ้าก็อาละวาดท่ามกลางหนอนแมลงทั้งปวง แสวงหาสถานที่ที่สะดวกสบายและพยายามกลืนกินหนอนแมลงที่เล็กกว่าเจ้า พวกเจ้าปองร้ายและร้ายกาจอยู่ในหัวใจของพวกเจ้า แซงหน้าแม้กระทั่งพวกผีที่จมอยู่ที่ก้นทะเล  พวกเจ้าอาศัยอยู่ที่ก้นบึ้งของมูลสัตว์ คอยก่อกวนหนอนแมลงตั้งแต่ด้านบนสุดจนถึงด้านล่างสุดจนพวกมันไม่มีสันติสุข พวกเจ้าต่อสู้กันเองชั่วระยะหนึ่ง ครั้นแล้วจึงสงบลง  พวกเจ้าไม่รู้จักตำแหน่งแห่งที่ของพวกเจ้า กระนั้นพวกเจ้าก็ยังคงสู้รบกันอยู่ในมูลสัตว์  พวกเจ้าจะได้สิ่งใดขึ้นมาจากการต่อสู้ดิ้นรนเช่นนี้?  หากพวกเจ้ามีความเคารพเราในหัวใจของพวกเจ้าอย่างแท้จริง เจ้าจะสู้กันลับหลังเราได้อย่างไร?  ไม่ว่าสถานะของเจ้าจะสูงส่งเพียงใด เจ้าก็ยังคงเป็นหนอนตัวเล็กที่ส่งกลิ่นเหม็นอยู่ในมูลสัตว์มิใช่หรือ?  เจ้าจะสามารถงอกปีกและกลายเป็นนกพิราบในท้องฟ้าได้หรือ?  หนอนตัวเล็กๆ ที่ส่งกลิ่นเหม็นเช่นพวกเจ้าลักขโมยเครื่องบูชาไปจากแท่นบูชาของเราพระยาห์เวห์ ในการทำเช่นนั้น เจ้าจะสามารถกู้ชื่อเสียงที่ย่อยยับและสูญสิ้นของเจ้าและกลายเป็นประชากรที่ได้รับการเลือกสรรแห่งอิสราเอลได้หรือ?  พวกเจ้าคือวายร้ายที่ไร้ยางอาย!  ผู้คนมอบของพลีอุทิศเหล่านั้นบนแท่นบูชาให้แก่เรา เพื่อแสดงความรู้สึกอาทรของบรรดาผู้ที่เคารพเรา  ของเหล่านั้นมีไว้ให้เราควบคุมและให้เราใช้ ดังนั้นเจ้าจะสามารถปล้นเอานกเขาตัวน้อยๆ ที่ผู้คนมอบให้แก่เราไปจากเราได้อย่างไร?  เจ้าไม่กลัวว่าจะกลายเป็นยูดาสหรอกหรือ?  เจ้าไม่เกรงกลัวว่าแผ่นดินของเจ้าอาจกลายเป็นทุ่งนองเลือดหรอกหรือ?  เจ้าช่างไร้ยางอาย!  เจ้าคิดว่าบรรดานกเขาที่ผู้คนให้มานั้นมีไว้เลี้ยงท้องของหนอนแมลงเช่นเจ้ากระนั้นหรือ?  สิ่งที่เราให้เจ้าไปคือสิ่งที่เราพอใจและเต็มใจที่จะให้เจ้า สิ่งที่เราไม่ได้ให้เจ้าย่อมเป็นของให้เราใช้  เจ้าไม่อาจขโมยเครื่องบูชาของเราไปง่ายๆ  องค์หนึ่งเดียวผู้ทรงพระราชกิจก็คือเราพระยาห์เวห์—องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสิ่งสร้าง—และผู้คนมอบของพลีอุทิศก็เพราะเรา  เจ้าคิดว่านี่เป็นการชดเชยให้กับการวิ่งวุ่นดำเนินงานที่เจ้าทำกระนั้นหรือ?  เจ้าไร้ยางอายจริงๆ!  เจ้าวิ่งวุ่นดำเนินงานเพื่อใคร?  ไม่ใช่เพื่อตัวเจ้าเองหรอกหรือ?  เหตุใดเจ้าจึงขโมยของพลีอุทิศของเรา?  เหตุใดเจ้าจึงขโมยเงินไปจากถุงเงินของเรา?  เจ้าไม่ใช่บุตรของยูดาส อิสคาริโอท หรอกหรือ?  ของที่พลีอุทิศให้แก่เราพระยาห์เวห์ เป็นของให้ปุโรหิตได้กินได้ใช้  เจ้าเป็นปุโรหิตหรือ?  เจ้ากล้ากินของพลีอุทิศของเราอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง และถึงขนาดเอาของพลีอุทิศเหล่านั้นไปวางเรียงไว้บนโต๊ะ เจ้าไม่มีค่าคู่ควร!  เจ้ามันวายร้ายที่ไร้ค่า!  ไฟของเรา ไฟแห่งพระยาห์เวห์ จะเผาผลาญเจ้า!

ก่อนหน้า: เจ้ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับความเชื่อ?

ถัดไป: ไม่มีใครที่มีเนื้อหนังสามารถหลีกหนีวันแห่งพระพิโรธได้

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย การเปิดโปงพวกศัตรูของพระคริสต์ หน้าที่รับผิดชอบของผู้นำและคนทำงาน ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง I ว่าด้วยการไล่ตามเสาะหาความจริง การพิพากษาเริ่มต้นที่พระนิเวศของพระเจ้า แก่นพระวจนะจากพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน ความเป็นจริงความจริงที่ผู้เชื่อในพระเจ้าต้องเข้าสู่ ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ แนวทางสำหรับการเผยแผ่ข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักร แกะของพระเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 1) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 2) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 3) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 4) คำพยานจากประสบการณ์หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ (เล่มที่ 5) วิธีที่ข้าพเจ้าได้หันกลับไปสู่พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

การตั้งค่า

  • ข้อความ
  • ธีม

สีเข้ม

ธีม

แบบอักษร

ขนาดตัวอักษร

ระยะห่างบรรทัด

ระยะห่างบรรทัด

ความกว้างของหน้า

เนื้อหา

ค้นหา

  • ค้นหาข้อความนี้
  • ค้นหาในหนังสือนี้

ติดต่อเราผ่าน Messenger