เมื่อฉันอยู่ร่วมกับครอบครัวและเพื่อนๆ เมื่อเจอสิ่งที่ไม่สมปรารถนามักจะอารมณ์ร้อน ฉันรู้สึกเจ็บปวดมาก ฉันต้องการแสวงหา เราจะเข้าหากับผู้คนได้อย่างปกติและใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติได้อย่างไร?

วันที่ 07 เดือน 07 ปี 2021

พระวจนะของพระเจ้าที่เกี่ยวข้อง

ไม่ว่าคนหนึ่งจะโกรธขึ้นมาต่อหน้าผู้อื่นหรือลับหลังพวกเขา ทุกคนมีเจตนาและจุดประสงค์ที่แตกต่างกันในความโกรธของพวกเขา บางทีพวกเขากำลังสร้างบารมีของพวกเขาอยู่ หรือบางทีพวกเขากำลังป้องกันผลประโยชน์ของพวกเขาเอง รักษาภาพลักษณ์ของพวกเขา หรือรักษาหน้า บางคนใช้ความยับยั้งชั่งใจในความโกรธของตน ในขณะที่คนอื่นๆ หุนหันพลันแล่นมากกว่าและปล่อยให้ความเดือดดาลปะทุเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาปรารถนาโดยไม่มีความยับยั้งชั่งใจเลยแม้แต่น้อย กล่าวอย่างสั้นๆ คือ ความโกรธของมนุษย์มาจากอุปนิสัยที่เสื่อมทรามของเขา ไม่สำคัญว่าความโกรธนั้นจะมีจุดประสงค์ใดก็ตาม ความโกรธนั้นก็เป็นของเนื้อหนังและของธรรมชาติ ไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกับความยุติธรรมหรือความอยุติธรรมเพราะไม่มีสิ่งใดในธรรมชาติและเนื้อแท้ของมนุษย์ที่สอดคล้องกับความจริง ดังนั้น อารมณ์ของมนุษยชาติที่เสื่อมทรามและพระพิโรธของพระเจ้าไม่อาจได้รับการกล่าวถึงในขณะเดียวกันได้ พฤติกรรมของมนุษย์ที่ถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามเริ่มต้นด้วยความอยากที่จะพิทักษ์ความเสื่อมทรามโดยไม่มีข้อยกเว้น และมันมีพื้นฐานมาจากความเสื่อมทรามอย่างแท้จริง นี่คือเหตุผลว่าทำไมความโกรธของมนุษย์จึงไม่สามารถได้รับการกล่าวถึงในขณะเดียวกันกับพระพิโรธของพระเจ้าได้ ไม่สำคัญว่าความโกรธของมนุษย์อาจดูถูกต้องเหมาะสมในทางทฤษฎีเพียงใดก็ตาม

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 2

ทันทีที่มนุษย์มีสถานะ เขามักจะพบว่าการควบคุมอารมณ์ของเขาเป็นเรื่องยาก และดังนั้นเขาจะชื่นชมการคว้าโอกาสที่จะแสดงความไม่พอใจและระบายอารมณ์ของเขา เขามักจะปะทุความเดือดดาลโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนเพื่อเผยความสามารถของเขา และให้คนอื่นรู้ว่าสถานะและอัตลักษณ์ของเขาแตกต่างจากสถานะและอัตลักษณ์ของผู้คนธรรมดา แน่นอนว่าผู้คนที่เสื่อมทรามที่ปราศจากสถานะใดๆ ก็มักจะสูญเสียการควบคุมด้วยเช่นกัน บ่อยครั้งที่ความโกรธของพวกเขาเกิดจากความเสียหายต่อผลประโยชน์ส่วนตัวของพวกเขา มวลมนุษย์ที่เสื่อมทรามจะระบายอารมณ์ของพวกเขาและเผยธรรมชาติที่โอหังของพวกเขาบ่อยครั้งเพื่อปกป้องสถานะและความมีเกียรติของพวกเขาเอง มนุษย์จะปะทุความโกรธและระบายอารมณ์ของตนเพื่อป้องกันและสนับสนุนการมีอยู่ของบาป และการกระทำเหล่านี้คือวิธีที่มนุษย์ใช้แสดงความไม่พอใจของเขา พวกเขาเต็มไปด้วยความไม่บริสุทธิ์ เต็มไปด้วยกลอุบายและเล่ห์กล เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามและความชั่วของมนุษย์ และเหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาเต็มไปด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงและความอยากที่บ้าคลั่งของมนุษย์ เมื่อความยุติธรรมปะทะกับความชั่วร้าย ความโกรธของมนุษย์จะไม่ปะทุขึ้นเพื่อป้องกันการมีอยู่ของความยุติธรรมหรือสนับสนุนความยุติธรรม ในทางตรงกันข้าม เมื่อกำลังบังคับแห่งความยุติธรรมถูกคุกคาม ถูกข่มเหง และถูกโจมตี ท่าทีที่มนุษย์มีคือท่าทีที่เมินเฉย หลบเลี่ยง หรือถอยหนี อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับกำลังบังคับแห่งความชั่ว ท่าทีที่มนุษย์มีคือท่าทีของการโอนอ่อนผ่อนตาม ว่าง่ายและยอมรับใช้ ดังนั้น การระบายอารมณ์ของมนุษย์จึงเป็นการหนีสำหรับกำลังบังคับแห่งความชั่ว ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการประพฤติชั่วที่ไร้การควบคุมและหยุดไม่ได้ของมนุษย์ที่มีเนื้อหนัง

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 2

หากผู้คนต้องการที่จะเชื่อและรักพระเจ้า เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะต้องแลกมาด้วยบางอย่าง แทนที่จะพยายามปฏิบัติตนด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งอย่างผิวเผิน พวกเขาควรแสวงหาความรู้ความเข้าใจเชิงลึกที่แท้จริงในส่วนลึกของหัวใจของพวกเขา หากเจ้ามีความกระตือรือร้นในเรื่องการร้องเพลงและการเต้นรำ แต่ไม่สามารถนำความจริงมาปฏิบัติได้ จะพูดว่าเจ้ารักพระเจ้าได้อย่างไร? การรักพระเจ้าพึงต้องมีการแสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้าในทุกสรรพสิ่ง และจำเป็นที่เจ้าจะต้องสืบลึกลงไปภายในเมื่อบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับเจ้า พยายามที่จะจับความเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้า และพยายามที่จะมองให้เห็นว่าน้ำพระทัยพระเจ้าคืออะไรในเรื่องนั้น พระองค์ทรงขอให้เจ้าสัมฤทธิผลสิ่งใด และเจ้าควรใส่ใจในน้ำพระทัยของพระองค์อย่างไร ตัวอย่างเช่น บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งพึงประสงค์ให้เจ้าต้องสู้อดทนต่อความยากลำบาก ซึ่งในเวลานั้นเจ้าควรเข้าใจว่าน้ำพระทัยพระเจ้าคืออะไร และเจ้าควรใส่ใจในน้ำพระทัยของพระองค์อย่างไร เจ้าจะต้องไม่ทำให้ตนเองพึงพอใจ กล่าวคือ จงวางตัวเจ้าเองลงเสียก่อน ไม่มีสิ่งใดน่าสังเวชมากไปกว่าเนื้อหนัง เจ้าต้องพยายามที่จะทำให้พระเจ้าทรงพึงพอพระทัย และเจ้าต้องทำหน้าที่ของเจ้าให้สำเร็จลุล่วง ด้วยความคิดทั้งหลายเช่นนี้ พระเจ้าจะทรงนำความรู้แจ้งอันพิเศษมาให้เจ้าในเรื่องนี้ และหัวใจของเจ้าจะพบการชูใจด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก เมื่อบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับเจ้า เจ้าต้องวางตัวเจ้าเองลงเสียก่อนและถือว่าเนื้อหนังนั้นต่ำต้อยที่สุดในบรรดาสรรพสิ่ง ยิ่งเจ้าตอบสนองความต้องการของเนื้อหนังมากขึ้นเท่าใด มันก็จะยิ่งเป็นอิสระมากขึ้นเท่านั้น หากเจ้าตอบสนองความต้องการของมันครั้งนี้ ครั้งต่อไปมันจะร้องขอมากขึ้นอีก เมื่อเรื่องนี้ดำเนินต่อไป ผู้คนก็จะมารักเนื้อหนังมากขึ้นไปอีก เนื้อหนังมีความอยากอันฟุ้งเฟ้อตลอดเวลา มันขอให้เจ้าตอบสนองความต้องการของมันตลอดเวลาและให้เจ้าทำให้มันพอใจอยู่ภายใน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งทั้งหลายที่เจ้ากิน สิ่งที่เจ้าสวมใส่ หรือในการเสียอารมณ์สงบของเจ้า หรือการตามใจความอ่อนแอและความเกียจคร้านของเจ้าเอง…ยิ่งเจ้าตอบสนองความต้องการของเนื้อหนังมากขึ้นเท่าใด ความอยากได้อยากมีของมันก็จะยิ่งกลายเป็นมากขึ้นเท่านั้น และเนื้อหนังก็จะยิ่งกลายเป็นหยาบช้ามากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งถึงจุดที่เนื้อหนังของผู้คนเก็บงำมโนคติอันหลงผิดที่ลึกลงไปอีก และไม่เชื่อฟังพระเจ้า และยกย่องตัวมันเอง และกลายเป็นมีความเคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับพระราชกิจของพระเจ้า ยิ่งเจ้าตอบสนองความต้องการของเนื้อหนังมากขึ้นเท่าใด ความอ่อนแอของเนื้อหนังก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เจ้าจะรู้สึกตลอดเวลาว่าไม่มีใครเห็นอกเห็นใจในความอ่อนแอของเจ้า เจ้าจะเชื่อตลอดเวลาว่าพระเจ้าได้ทรงทำมากเกินไปแล้ว และเจ้าจะพูดว่า “พระเจ้าทรงเกรี้ยวกราดเช่นนั้นได้อย่างไร? เหตุใดพระองค์จึงไม่ทรงให้ผู้คนได้พักบ้าง?” เมื่อผู้คนตอบสนองความต้องการของเนื้อหนังและเชิดชูมันมากเกินไป เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็ทำลายตัวพวกเขาเอง หากเจ้ารักพระเจ้าอย่างแท้จริงและไม่ตอบสนองความต้องการของเนื้อหนัง เช่นนั้นแล้วเจ้าจะเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าทรงกระทำนั้นถูกต้องยิ่งนักและดีงามยิ่งนัก และเห็นว่าคำสาปแช่งของพระองค์ในการกบฏของเจ้าและการพิพากษาความไม่ชอบธรรมของเจ้านั้นเป็นธรรมแล้ว จะมีช่วงเวลาที่พระเจ้าทรงสั่งสอนและทรงบ่มวินัยเจ้าและทรงให้มีสภาพแวดล้อมหนึ่งขึ้นมาเพื่อกล่อมเกลาเจ้า โดยบังคับให้เจ้ามาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์—และเจ้าจะรู้สึกตลอดเวลาว่าสิ่งที่พระเจ้ากำลังทรงกระทำอยู่นั้นน่าอัศจรรย์ ด้วยเหตุนี้เจ้าจะรู้สึกราวกับว่าไม่มีความเจ็บปวดมากนัก และรู้สึกว่าพระเจ้าทรงดีงามยิ่งนัก หากเจ้าตามใจความอ่อนแอทั้งหลายของเนื้อหนังและพูดว่าพระเจ้าทรงทำมากเกินไป เช่นนั้นแล้วเจ้าจะรู้สึกเจ็บปวดตลอดเวลา และจะซึมเศร้าตลอดเวลา และเจ้าจะไม่เข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับพระราชกิจทั้งหมดของพระเจ้า และจะดูเหมือนว่าพระเจ้าไม่ทรงเห็นใจในความอ่อนแอของมนุษย์เลยแม้แต่น้อยและไม่ทรงตระหนักถึงความยากลำบากทั้งหลายของมนุษย์ และดังนั้นเจ้าจะรู้สึกน่าเวทนาและโดดเดี่ยวตลอดเวลา ราวกับว่าเจ้าได้ทนทุกข์กับความอยุติธรรมอันยิ่งใหญ่มาตลอด และ ณ เวลานี้เจ้าจะเริ่มพร่ำบ่น ยิ่งเจ้าตามใจความอ่อนแอทั้งหลายของเนื้อหนังในหนทางนี้มากขึ้นเท่าใด เจ้าก็จะยิ่งรู้สึกว่าพระเจ้าทรงทำมากเกินไปแล้วยิ่งขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งมันเลวร้ายเสียจนเจ้าปฏิเสธพระราชกิจของพระเจ้า และเริ่มที่จะต่อต้านพระเจ้า และกลายเป็นเต็มไปด้วยการไม่เชื่อฟัง…การที่เจ้าจะสามารถได้รับชีวิตเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าหรือไม่และบทอวสานขั้นสุดท้ายของเจ้าจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าดำเนินการกบฏของเจ้าต่อเนื้อหนังอย่างไร พระเจ้าได้ทรงช่วยเจ้าให้รอดและทรงเลือกเจ้าและทรงลิขิตเจ้าไว้ล่วงหน้าแล้ว กระนั้นหากวันนี้เจ้าไม่เต็มใจที่จะทำให้พระองค์ทรงพึงพอพระทัย เจ้าไม่เต็มใจที่จะนำความจริงไปปฏิบัติ เจ้าไม่เต็มใจที่จะกบฏต่อเนื้อหนังของเจ้าเองด้วยหัวใจที่รักพระเจ้าอย่างแท้จริงแล้ว ท้ายที่สุดแล้วเจ้าจะทำลายตัวเจ้าเอง และด้วยเหตุนี้จะต้องสู้ทนความเจ็บปวดสุดขีด หากเจ้าตามใจเนื้อหนังตลอดเวลา ซาตานจะค่อยๆ กลืนเจ้าจนหมด และทิ้งเจ้าไว้โดยปราศจากชีวิต หรือสัมผัสแห่งพระวิญญาณ จนกระทั่งวันนั้นมาถึงเมื่อเจ้ามืดมิดภายในอย่างสิ้นเชิง เมื่อเจ้าใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมิด เจ้าจะได้ถูกซาตานจองจำ เจ้าจะไม่มีพระเจ้าในหัวใจของเจ้าอีกต่อไป และ ณ เวลานั้นเจ้าจะปฏิเสธการทรงดำรงอยู่ของพระเจ้าและทิ้งพระองค์ไป ด้วยเหตุนี้ หากผู้คนปรารถนาที่จะรักพระเจ้า พวกเขาจะต้องจ่ายราคาเป็นความเจ็บปวดและสู้ทนความยากลำบาก ไม่มีความจำเป็นสำหรับความศรัทธาอย่างแรงกล้าและความยากลำบากภายนอก การอ่านมากขึ้น และการวิ่งวุ่นดำเนินงานมากขึ้น แทนที่จะเป็นเช่นนั้น พวกเขาควรละวางสิ่งทั้งหลายภายในตัวพวกเขาลงไว้ก่อน ได้แก่ ความคิดอันฟุ้งเฟ้อทั้งหลาย ผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งหลาย และข้อพิจารณาทั้งหลาย มโนคติอันหลงผิดทั้งหลาย และเจตนาทั้งหลายของพวกเขาเอง น้ำพระทัยพระเจ้าเป็นเช่นนั้นเอง

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, การรักพระเจ้าเท่านั้นคือการเชื่อในพระเจ้าอย่างแท้จริง

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

ติดต่อเราผ่าน Messenger