หลักพื้นฐานสำหรับการจุติเป็นมนุษย์ของพระเจ้าในประเทศจีนในยุคสุดท้ายในคำเผยพระวจนะของพระคัมภีร์และในพระวจนะของพระเจ้า

วันที่ 17 เดือน 03 ปี 2021

ข้อพระคัมภีร์สำหรับอ้างอิง

“พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ตั้งแต่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นถึงที่ดวงอาทิตย์ตก นามของเราก็ใหญ่ยิ่งท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย” (มาลาคี 1:11)

“เพราะว่าฟ้าแลบจากทิศตะวันออกส่องไปจนถึงทิศตะวันตกอย่างไร การเสด็จมาของบุตรมนุษย์ก็จะเป็นอย่างนั้น ซากศพอยู่ที่ไหนฝูงนกแร้งก็จะรุมล้อมกันอยู่ที่นั่น” (มัทธิว 24:27-28)

พระวจนะของพระเจ้าที่เกี่ยวข้อง

มาวันนี้ พระเจ้าทรงกลับมาสู่โลกเพื่อปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์ จุดแรกที่พระองค์ทรงเริ่มงานก็คือ แหล่งชุมนุมใหญ่ของบรรดาผู้ปกครองจอมเผด็จการ นั่นคือ ประเทศจีน ป้อมปราการอันเด็ดเดี่ยวแข็งขันในความเชื่อที่ว่าพระเจ้าไม่มีจริง พระเจ้าทรงได้ผู้คนมากลุ่มหนึ่งด้วยพระปรีชาญาณและฤทธานุภาพของพระองค์ ในระหว่างช่วงเวลานี้ พระองค์ทรงถูกตามล่าโดยพรรครัฐบาลของจีนในทุกวิถีทาง และตกอยู่ภายใต้ความทุกข์ทรมานแสนสาหัส โดยไม่มีสถานที่ให้พระศิระของพระองค์ทรงเอนพัก ไม่สามารถหาที่พำนักกำบังกาย ทั้งที่เป็นเช่นนั้น พระเจ้ายังคงทรงพระราชกิจที่พระองค์ทรงเจตนาที่จะทำต่อไป พระองค์ดำรัสพระสุรเสียงของพระองค์และเผยแผ่ข่าวประเสริฐ ไม่มีสักคนที่สามารถหยั่งลึกในพระมหิทธิฤทธิ์ของพระเจ้าได้อย่างลึกซึ้ง ในประเทศจีน ประเทศหนึ่งซึ่งถือพระเจ้าเป็นศัตรู พระเจ้ากลับไม่เคยหยุดทรงพระราชกิจของพระองค์ แทนที่จะเป็นเช่นนั้น กลับมีประชาชนจำนวนมากขึ้นที่ยอมรับพระราชกิจและพระวจนะของพระองค์ อันเนื่องมาจากการที่พระเจ้าทรงทำทุกอย่างที่พระองค์จะสามารถทำได้เพื่อช่วยสมาชิกของมวลมนุษย์ทุกคนให้รอด

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, ภาคผนวก 2: พระเจ้าทรงเป็นประธานเหนือชะตากรรมของมวลมนุษย์ทั้งปวง

พระเจ้าได้เผยพระวจนะไว้ในหลายๆ แห่งว่า พระองค์จะกำลังทรงได้รับเอากลุ่มบรรดาผู้มีชัยชนะในแผ่นดินซีนิม ในเมื่อมันเป็นในทิศตะวันออกของโลกนี่เองที่บรรดาผู้มีชัยชนะจะได้รับการรับไว้ ดังนั้น สถานที่ซึ่งพระเจ้าจะทรงเหยียบย่างในการจุติเป็นมนุษย์ครั้งที่สองของพระองค์ก็ต้องเป็นดินแดนแห่งซีนิมโดยไม่มีข้อสงสัย ซึ่งเป็นจุดที่แน่ชัดว่าเป็นที่ซึ่งมังกรใหญ่สีแดงนอนขดตัวอยู่ ที่นั่น พระเจ้าจะทรงได้รับพงศ์พันธุ์ของพญานาคใหญ่สีแดง เพื่อที่มันจะได้ถูกทำให้พ่ายแพ้อย่างราบคาบและได้รับความอับอาย พระเจ้ากำลังจะทรงปลุกผู้คนเหล่านี้ให้ตื่น โดยแบกรับความทุกข์อย่างหนัก เพื่อปลุกเร้าพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะตื่นอย่างเต็มที่ และเพื่อทำให้พวกเขาเดินออกจากหมอกและละทิ้งพญานาคใหญ่สีแดง พวกเขาจะตื่นจากความฝันของพวกเขา จะระลึกได้ว่าพญานาคใหญ่สีแดงที่จริงแล้วมันคืออะไร จะกลายเป็นสามารถมอบหัวใจทั้งดวงของพวกเขาให้แก่พระเจ้าได้ จะลุกขึ้นจากการกดขี่ของพลังมืด จะยืนขึ้นในทิศตะวันออกของโลก และจะกลายเป็นข้อพิสูจน์แห่งชัยชนะของพระเจ้า ในหนทางนี้เท่านั้นที่พระเจ้าจะทรงได้รับสง่าราศี ด้วยเหตุผลนี้อย่างเดียวเท่านั้นที่พระเจ้าได้ทรงนำพระราชกิจที่เคยมาถึงบทอวสานในอิสราเอลมาสู่ดินแดนที่พญานาคใหญ่สีแดงนอนขดตัวอยู่ และหลังจากที่ได้จากไปเกือบสองพันปี ก็ได้มาสู่เนื้อหนังอีกครั้งเพื่อสานต่อพระราชกิจแห่งยุคพระคุณ พระเจ้ากำลังทรงเปิดตัวพระราชกิจใหม่ในเนื้อหนังต่อตาเปล่าของมนุษย์ แต่ในทรรศนะของพระเจ้า พระองค์กำลังทรงสานต่องานแห่งยุคพระคุณ แต่หลังจากช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไม่กี่พันปีแล้วเท่านั้น และด้วยการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งที่ตั้งและโครงการในพระราชกิจของพระองค์เท่านั้น

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, งานและการเข้าสู่ (6)

คำเผยพระวจนะทั้งหลายกล่าวไว้แล้วว่า พระนามของพระยาห์เวห์จะได้รับการขยายความไปในหมู่ชนต่างชาติ กล่าวไว้ว่าจะแพร่กระจายไปยังชนต่างชาติ เหตุใดจึงได้เผยพระวจนะไว้เช่นนี้เล่า? หากพระเจ้าทรงเป็นเพียงพระเจ้าของคนอิสราเอลเท่านั้น พระองค์ก็จะทรงพระราชกิจในประเทศอิสราเอลเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์จะไม่ทรงแพร่กระจายพระราชกิจนี้ และพระองค์จะไม่ทรงกล่าวคำเผยพระวจนะเช่นนี้ ในเมื่อพระองค์ทรงกล่าวคำเผยพระวจนะนี้ไว้แล้ว พระองค์ก็จะทรงแผ่ขยายพระราชกิจของพระองค์ไปท่ามกลางชนต่างชาติ ท่ามกลางทุกชนชาติและทุกแผ่นดินอย่างแน่นอน ในเมื่อพระองค์ทรงกล่าวไว้เช่นนี้ พระองค์ก็จำต้องทรงปฏิบัติ นี่คือแผนการของพระองค์เพราะพระองค์คือองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกและทุกสรรพสิ่ง และเป็นพระเจ้าแห่งสรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวง ไม่ว่าพระองค์จะทรงพระราชกิจท่ามกลางคนอิสราเอลหรือทั่วแคว้นยูเดียทั้งหมด พระราชกิจที่พระองค์ทรงทำก็คือพระราชกิจของทั้งจักรวาลและพระราชกิจของมนุษยชาติทั้งมวล พระราชกิจที่พระองค์ทรงทำในวันนี้ในชนชาติแห่งพญานาคใหญ่สีแดง—ในชนต่างชาติ—ยังคงเป็นพระราชกิจของมนุษยชาติทั้งมวล ประเทศอิสราเอลสามารถเป็นฐานสำหรับพระราชกิจของพระองค์บนแผ่นดินโลกได้ ในทำนองเดียวกัน ประเทศจีนก็สามารถเป็นฐานสำหรับพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางชนต่างชาติได้เช่นกัน บัดนี้พระองค์ยังไม่ได้ทรงลุล่วงในคำเผยพระวจนะที่ว่า “พระนามของพระยาห์เวห์จะได้รับการขยายให้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางชนต่างชาติ” ไปแล้วหรอกหรือ? ขั้นตอนแรกของพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางชนต่างชาติทั้งหลายก็คือพระราชกิจนี้เอง พระราชกิจที่พระองค์ทรงทำในชนชาติของพญานาคใหญ่สีแดง

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, พระเจ้าทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวง

จนเมื่อเราผ่านเข้าไปในสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่แล้วเท่านั้น เราจึงจะใช้สง่าราศีอีกส่วนหนึ่งของเราและเปิดเผยมันครั้งแรกในแผ่นดินคานาอัน ทำให้แสงริบหรี่ฉายส่องออกไปในทั้งแผ่นดินโลกซึ่งจมอยู่ในความมืดมิดของค่ำคืน เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งแผ่นดินโลกได้มาสู่ความสว่าง ให้พวกมนุษย์ทั้งปวงทั่วแผ่นดินโลกได้มารับความแข็งแกร่งจากพลังอำนาจแห่งความสว่าง เปิดโอกาสให้สง่าราศีของเราเพิ่มขึ้นและปรากฏขึ้นต่อทุกชนชาติอีกครั้ง ให้มนุษยชาติตระหนักว่าเราได้มายังโลกมนุษย์นานมาแล้วและได้นำสง่าราศีของเราจากอิสราเอลมายังทิศตะวันออกนานมาแล้ว ด้วยเหตุที่สง่าราศีของเราฉายส่องมาจากทิศตะวันออก ที่ซึ่งสง่าราศีนั้นได้ถูกนำพาจากยุคพระคุณมาจนถึงวันนี้ แต่เป็นอิสราเอลนั่นเองที่เราได้จากมาและจากที่นั่นเองที่เราได้มาถึงในทิศตะวันออก จนเมื่อความสว่างแห่งทิศตะวันออกค่อยๆ แปรเป็นสีขาวแล้วเท่านั้น ความมืดทั่วทั้งแผ่นดินโลกจึงจะเริ่มแปรเป็นความสว่าง และเมื่อนั้นเท่านั้นมนุษย์จึงจะค้นพบว่าเราได้ไปจากอิสราเอลนานมาแล้วและกำลังลุกขึ้นใหม่ในทิศตะวันออก เมื่อได้ลงไปในอิสราเอลครั้งหนึ่งแล้วและต่อมาภายหลังได้ออกจากอิสราเอลไป เราไม่สามารถถือกำเนิดในอิสราเอลได้อีกครั้ง เนื่องเพราะงานของเรานำทางทั้งปวงในจักรวาล และที่มากไปกว่านั้นคือ ฟ้าแลบนั้นส่องแสงวาบตรงจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ด้วยเหตุผลนี้เราจึงได้ลงมาในทิศตะวันออกและได้นำพาคานาอันมาสู่ประชาชนแห่งทิศตะวันออก เราปรารถนาที่จะนำพาผู้คนจากทั่วทั้งแผ่นดินโลกมาสู่แผ่นดินคานาอัน และดังนั้นเราจึงเปล่งถ้อยคำออกไปในแผ่นดินคานาอันต่อไปเพื่อควบคุมทั้งจักรวาล ณ เวลานี้ ไม่มีความสว่างในแผ่นดินโลกทั้งหมดนอกเหนือไปจากคานาอัน และพวกมนุษย์ทั้งหมดก็ตกอยู่ในอันตรายจากความหิวและความหนาวเย็น เราได้มอบสง่าราศีของเราแก่อิสราเอลแล้วจากนั้นก็เอาสง่าราศีนั้นออกไป และภายหลังจากนั้นเราได้นำพาคนอิสราเอลไปยังทิศตะวันออก และนำพามนุษยชาติทั้งมวลไปยังทิศตะวันออก เราได้นำพาพวกเขาทั้งหมดไปยังความสว่างเพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกับความสว่างอีกครั้ง และเชื่อมสัมพันธ์กับความสว่าง และไม่ต้องค้นคว้าหาความสว่างอีกต่อไป เราจะปล่อยให้ผู้คนทั้งหมดที่กำลังค้นคว้าได้เห็นความสว่างอีกครั้งและได้เห็นสง่าราศีที่เราได้มีในอิสราเอล เราจะปล่อยให้พวกเขาได้เห็นว่าเราได้ลงมาบนเมฆขาวเข้าสู่ท่ามกลางมวลมนุษย์นานมาแล้ว จะปล่อยให้พวกเขาได้เห็นหมู่เมฆสีขาวนับไม่ถ้วนและผลไม้เป็นพวงอันอุดม และที่มากไปกว่านั้นคือ จะปล่อยให้พวกเขาได้เห็นพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล เราจะปล่อยให้พวกเขาเฝ้ามององค์เจ้านายแห่งพวกยิว พระเมสสิยาห์ซึ่งเป็นที่ถวิลหารอคอย และการปรากฏอันครบถ้วนของเราผู้ที่ได้ถูกพวกกษัตริย์ข่มเหงตลอดทั่วทั้งยุคต่างๆ เราจะทำงานกับทั้งจักรวาลและเราจะปฏิบัติงานอันยิ่งใหญ่ เป็นการเปิดเผยสง่าราศีของเราทั้งหมดและกิจการของเราทั้งหมดต่อมนุษย์ในยุคสุดท้าย เราจะแสดงโฉมหน้าอันเปี่ยมสง่าราศีของเราในความครบถ้วนต่อบรรดาผู้ที่ได้รอคอยเรามานานหลายปีแล้ว ต่อบรรดาผู้ที่ได้ถวิลหาให้เราลงมาบนเมฆขาว ต่ออิสราเอลที่ได้ถวิลหาให้เราปรากฏอีกครั้งหนึ่ง และต่อมวลมนุษย์ทั้งปวงที่ข่มเหงเรา เพื่อที่ทั้งหมดจะได้รู้ว่าเราได้เอาสง่าราศีของเราไปและได้นำพาสง่าราศีนั้นไปยังทิศตะวันออกนานมาแล้ว เพื่อที่สง่าราศีนั้นจะได้ไม่อยู่ในแคว้นยูเดียอีกต่อไป ด้วยเหตุที่ยุคสุดท้ายนั้นได้มาถึงแล้ว!

ตลอดทั่วทั้งจักรวาลเรากำลังทำงานของเรา และในทิศตะวันออก เสียงกระแทกสนั่นราวฟ้าร้องดังขึ้นอย่างไม่รู้จบ ทำให้ชนชาติทั้งปวงและคณะนิกายทั้งหมดสั่นสะเทือน เป็นเสียงของเรานั่นเองที่ได้นำทางพวกมนุษย์ทั้งหมดเข้ามาสู่ปัจจุบัน เราจะทำให้พวกมนุษย์ทั้งหมดถูกพิชิตโดยเสียงของเรา ตกลงสู่กระแสนี้ และนบนอบต่อหน้าเรา ด้วยเหตุที่เราได้เรียกคืนสง่าราศีของเราจากแผ่นดินโลกทั้งหมดและได้ให้สง่าราศีนั้นปรากฏขึ้นใหม่ในทิศตะวันออกนานมาแล้ว ใครบ้างไม่ถวิลหาที่จะได้เห็นสง่าราศีของเรา? ใครบ้างไม่รอคอยการกลับมาของเราอย่างกระวนกระวายใจ? ใครบ้างไม่กระหายการปรากฏอีกครั้งของเรา? ใครบ้างไม่คะนึงหาความดีงามของเรา? ใครบ้างจะไม่มาหาความสว่าง? ใครบ้างจะไม่เฝ้ามองความมั่งคั่งของคานาอัน? ใครบ้างไม่ถวิลหาการกลับมาของพระผู้ไถ่? ใครบ้างไม่ชื่นชมองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่? เสียงของเราจะแผ่ไปทั่วทั้งแผ่นดินโลก เมื่อเผชิญหน้ากับประชากรที่เราเลือกสรร เราปรารถนาที่จะกล่าววจนะแก่พวกเขาเพิ่มเติมอีก เรากล่าววจนะของเราต่อทั้งจักรวาลและต่อมวลมนุษย์ ราวกับเสียงฟ้าร้องอันเปี่ยมพละกำลังที่ทำให้ภูเขาและแม่น้ำสั่นสะเทือน ดังนั้นวจนะในปากของเราจึงได้กลายเป็นขุมทรัพย์ของมนุษย์ และพวกมนุษย์ทั้งหมดก็ทะนุถนอมวจนะของเรา ฟ้าแลบนั้นส่องแสงวาบจากทิศตะวันออกตลอดทางไปจนถึงทิศตะวันตก วจนะของเราเป็นวจนะที่มนุษย์ไม่เต็มใจที่จะละทิ้งไป และในเวลาเดียวกันก็พบว่าวจนะเหล่านั้นยากหยั่งถึง แต่ก็ชื่นบานในถ้อยคำเหล่านั้นอย่างหาใดปาน พวกมนุษย์ทั้งหมดล้วนเปรมปรีดิ์และเต็มไปด้วยความชื่นบานยินดี เฉลิมฉลองการมาของเราราวกับว่าทารกคนหนึ่งเพิ่งจะได้ถือกำเนิด โดยเสียงของเรา เราจะนำพาพวกมนุษย์ทั้งหมดมาอยู่ต่อหน้าเรา นับจากนั้นเป็นต้นไป เราจะเข้าสู่เผ่าพันธุ์ของพวกมนุษย์อย่างเป็นทางการเพื่อที่พวกเขาจะได้มานมัสการเรา ด้วยสง่าราศีที่เราแผ่รัศมีและวจนะในปากของเรา เราจะทำเช่นนั้นจนพวกมนุษย์ทั้งหมดมาอยู่ต่อหน้าเราและเห็นว่าฟ้าแลบนั้นส่องแสงวาบจากทิศตะวันออก และว่าเรายังได้ลงมาสู่ “ภูเขามะกอกเทศ” แห่งทิศตะวันออกเช่นกัน พวกเขาจะเห็นว่าเราได้อยู่บนแผ่นดินโลกนานมาแล้ว ไม่ใช่ในฐานะบุตรของพวกยิวอีกต่อไป แต่ในฐานะฟ้าแลบแห่งทิศตะวันออก ด้วยเหตุที่เราได้คืนชีพมานานแล้ว และได้ไปจากท่ามกลางมวลมนุษย์แล้ว และจากนั้นได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งด้วยสง่าราศีท่ามกลางพวกมนุษย์ เราคือพระองค์ผู้ทรงได้รับการนมัสการมาหลายยุคสมัยนับไม่ถ้วนก่อนปัจจุบันนี้แล้ว และเรายังเป็นทารกที่ถูกคนอิสราเอลละทิ้งมาหลายยุคสมัยนับไม่ถ้วนก่อนปัจจุบันนี้แล้วเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น เราคือพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ซึ่งเปี่ยมพระสิริแห่งยุคปัจจุบัน! ให้ทั้งหมดนั้นจงมาอยู่ต่อหน้าบัลลังก์ของเราและเห็นโฉมหน้าอันเปี่ยมสง่าราศีของเรา ได้ยินเสียงของเรา และเฝ้ามองกิจการของเรา นี่คือเจตจำนงครบถ้วนบริบูรณ์ของเรา มันคือจุดสิ้นสุดและจุดสุดยอดของแผนการของเรา รวมทั้งจุดประสงค์ของการบริหารจัดการของเรา ให้ทุกชนชาตินมัสการเรา ทุกภาษายอมรับเรา มนุษย์ทุกคนมอบความเชื่อของเขาในตัวเรา และผู้คนทุกคนอยู่ภายใต้การกะเกณฑ์โดยเรา!

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดดังกังวาน—การเผยพระวจนะว่าข่าวประเสริฐแห่งราชอาณาจักรจะเผยแผ่ไปทั่วทั้งจักรวาล

ถัดไป: ในยุคทั้งหลายของทั้งภาคพันธสัญญาเดิมและภาคพันธสัญญาใหม่นั้น พระเจ้าได้ทรงพระราชกิจในประเทศอิสราเอล องค์พระเยซูเจ้าได้ทรงเผยพระวจนะไว้ว่า พระองค์จะทรงกลับมาในช่วงระหว่างยุคสุดท้าย ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกลับมา พระองค์ควรเสด็จมาถึงในประเทศอิสราเอล แต่พวกคุณก็ยังให้คำพยานว่าองค์พระเยซูเจ้าได้ทรงกลับมาเรียบร้อยแล้ว ว่าพระองค์ได้ทรงปรากฏเป็นมนุษย์และกำลังทรงปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์ในประเทศจีน ประเทศจีนเป็นชนชาติที่ถูกปกครองโดยพรรคการเมืองที่เป็นอเทวนิยม ไม่มีในประเทศใดเลยที่มีการต้านทานพระเจ้าและการข่มเหงคริสตชนที่ใหญ่หลวงกว่านี้ การทรงกลับมาของพระผู้เป็นเจ้าจะสามารถเป็นการมายังประเทศจีนได้อย่างไรกัน?

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เหตุใดพระราชกิจในยุคสุดท้ายของพระเจ้าจึงทรงทำในประเทศจีน ไม่ใช่ประเทศอิสราเอล?

ข้อพระคัมภีร์สำหรับอ้างอิง “พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ตั้งแต่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นถึงที่ดวงอาทิตย์ตก...

ในยุคทั้งหลายของทั้งภาคพันธสัญญาเดิมและภาคพันธสัญญาใหม่นั้น พระเจ้าได้ทรงพระราชกิจในประเทศอิสราเอล องค์พระเยซูเจ้าได้ทรงเผยพระวจนะไว้ว่า พระองค์จะทรงกลับมาในช่วงระหว่างยุคสุดท้าย ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกลับมา พระองค์ควรเสด็จมาถึงในประเทศอิสราเอล แต่พวกคุณก็ยังให้คำพยานว่าองค์พระเยซูเจ้าได้ทรงกลับมาเรียบร้อยแล้ว ว่าพระองค์ได้ทรงปรากฏเป็นมนุษย์และกำลังทรงปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์ในประเทศจีน ประเทศจีนเป็นชนชาติที่ถูกปกครองโดยพรรคการเมืองที่เป็นอเทวนิยม ไม่มีในประเทศใดเลยที่มีการต้านทานพระเจ้าและการข่มเหงคริสตชนที่ใหญ่หลวงกว่านี้ การทรงกลับมาของพระผู้เป็นเจ้าจะสามารถเป็นการมายังประเทศจีนได้อย่างไรกัน?

ข้อพระคัมภีร์สำหรับอ้างอิง “พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสว่า ตั้งแต่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นถึงที่ดวงอาทิตย์ตก...

ติดต่อเราผ่าน Messenger