เราจะวางรากฐานบนความจริงและไม่ถูกหลอกโดยข่าวลือของซาตานได้อย่างไร? (ตอนที่1)
พระวจนะของพระเจ้าที่เกี่ยวข้อง
ในขณะนี้ เส้นทางที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงใช้ก็คือพระวจนะปัจจุบันของพระเจ้า เมื่อเป็นเช่นนั้น หากผู้คนจะก้าวเดินไปบนเส้นทางของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเขาต้องเชื่อฟัง และกินและดื่มพระวจนะปัจจุบันของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ พระราชกิจที่พระองค์ทรงกระทำเป็นพระราชกิจแห่งพระวจนะ กล่าวคือทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นจากพระวจนะของพระองค์ และทั้งหมดล้วนถูกสร้างขึ้นตามพระวจนะของพระองค์ ตามพระวจนะปัจจุบันของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นความแน่ใจเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ หรือการรู้จักพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ ต่างก็พึงต้องมีการใช้ความพยายามให้มากขึ้นกับพระวจนะของพระองค์ หาไม่แล้วผู้คนย่อมไม่สามารถสำเร็จลุล่วงอันใดได้เลย และจะถูกทิ้งให้ไม่เหลืออะไรเลย โดยการสร้างบนรากฐานแห่งการกินและการดื่มพระวจนะของพระเจ้า และมารู้จักพระองค์และทำให้พระองค์พึงพอพระทัยด้วยการนั้นเท่านั้น ผู้คนจึงจะสามารถค่อยๆ สร้างสัมพันธภาพที่เป็นปกติกับพระเจ้าได้ สำหรับมนุษย์แล้วไม่มีการร่วมมือกับพระเจ้าที่ดีไปกว่าการกินและดื่มพระวจนะของพระองค์และนำพระวจนะไปปฏิบัติอีกแล้ว โดยผ่านทางการปฏิบัติเช่นนั้น พวกเขาจึงมีความสามารถที่จะตั้งมั่นในคำพยานของพวกเขาเกี่ยวกับประชากรของพระเจ้าได้อย่างดีที่สุด เมื่อผู้คนเข้าใจและมีความสามารถที่จะเชื่อฟังแก่นแท้ของพระวจนะปัจจุบันของพระเจ้าได้ พวกเขาย่อมดำเนินชีวิตบนเส้นทางของการได้รับการทรงนำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และได้ก้าวไปบนร่องครรลองที่ถูกต้องของพระเจ้าที่ทรงใช้เพื่อทำให้มนุษย์มีความเพียบพร้อม ก่อนหน้านี้ผู้คนสามารถได้รับพระราชกิจของพระเจ้าเพียงโดยการแสวงหาพระคุณของพระเจ้า หรือแสวงหาสันติสุขและความชื่นบานยินดี แต่บัดนี้สิ่งทั้งหลายเปลี่ยนไปแล้ว หากไร้ซึ่งพระวจนะของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ หากไร้ซึ่งความเป็นจริงแห่งพระวจนะของพระองค์ ผู้คนจะไม่สามารถได้รับการเห็นชอบจากพระเจ้า และจะถูกกำจัดสิ้นทั้งหมดโดยพระเจ้า
—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, ผู้คนที่ได้เปลี่ยนแปลงอุปนิสัยแล้วคือบรรดาผู้ที่ได้เข้าไปสู่ความเป็นจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้าแล้ว
พวกเจ้าต้องทำความรู้จักกับนิมิตต่างๆ แห่งพระราชกิจของพระเจ้าและจับความเข้าใจทิศทางทั่วไปของพระราชกิจของพระองค์ นี่คือการเข้าสู่เชิงบวก เมื่อเจ้าเข้าใจถ่องแท้ในความจริงของนิมิตอย่างถูกต้องแล้ว การเข้าสู่ของเจ้าก็จะมั่นคง ไม่สำคัญว่าพระราชกิจของพระเจ้าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เจ้าก็จะยังคงแน่วแน่ในหัวใจของเจ้า ชัดเจนเกี่ยวกับนิมิต และมีเป้าหมายสำหรับการเข้าสู่ของเจ้าและการไล่ตามเสาะหาของเจ้า ในวิถีทางนี้ ประสบการณ์และความรู้ทั้งหมดภายในตัวเจ้าจะเติบโตลึกล้ำยิ่งขึ้นและมีรายละเอียดมากขึ้น ทันทีที่เจ้าได้จับความเข้าใจภาพรวมที่ใหญ่ขึ้นทั้งหมดทั้งมวลแล้ว เจ้าจะไม่ประสบทุกข์กับการสูญเสียใดๆ ในชีวิต อีกทั้งเจ้าจะไม่หลงเจิ่นอีกด้วย หากเจ้าไม่ได้มาทำความรู้จักขั้นตอนเหล่านี้ของพระราชกิจ เจ้าก็จะประสบทุกข์กับการสูญเสียในแต่ละขั้นตอน และเจ้าจะต้องใช้เวลามากกว่าสองสามวันในการแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้กลับดีขึ้น อีกทั้งเจ้าจะไม่สามารถมุ่งมั่นในร่องครรลองที่ถูกต้องแม้กระทั่งในสองสัปดาห์อีกด้วย นี่จะไม่ทำให้เกิดความล่าช้าหรอกหรือ? มีมากมายในหนทางของการเข้าสู่และการปฏิบัติเชิงบวกที่พวกเจ้าต้องเข้าใจถ่องแท้ สำหรับนิมิตต่างๆ แห่งพระราชกิจของพระเจ้า เจ้าต้องจับความเข้าใจประเด็นต่อไปนี้: นัยสำคัญของพระราชกิจแห่งการทรงพิชิตของพระองค์ เส้นทางในอนาคตสู่การได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม สิ่งที่ต้องสัมฤทธิ์โดยผ่านทางการได้รับประสบการณ์กับการทดสอบและความทุกข์ลำบาก นัยสำคัญของการพิพากษาและการตีสอน หลักธรรมเบื้องหลังพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และหลักธรรมเบื้องหลังความเพียบพร้อมและการทรงพิชิต เหล่านี้ล้วนเป็นของความจริงแห่งนิมิต ส่วนที่เหลือคือ สามช่วงระยะของพระราชกิจในยุคธรรมบัญญัติ ยุคพระคุณ และยุคแห่งราชอาณาจักร ตลอดจนคำพยานในอนาคต เหล่านี้ยังเป็นความจริงแห่งนิมิตอีกด้วย และเป็นสิ่งที่เป็นรากฐานสำคัญที่สุดและสำคัญยิ่งยวดที่สุด
—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, ความแตกต่างระหว่างพันธกิจของพระเจ้าผู้ทรงปรากฏในรูปมนุษย์และหน้าที่ของมนุษย์
พวกเจ้ารู้สิ่งที่พวกเจ้าต้องมีไว้พร้อมในตอนนี้หรือไม่? แง่มุมหนึ่งของสิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับนิมิตเกี่ยวกับพระราชกิจ และอีกแง่มุมหนึ่งคือการฝึกฝนปฏิบัติของเจ้า เจ้าต้องจับความเข้าใจทั้งสองแง่มุมนี้ หากเจ้าไม่มีนิมิตในภารกิจเพื่อสร้างความก้าวหน้าในชีวิตของเจ้าแล้ว เช่นนั้นแล้วเจ้าจะไม่มีรากฐานอันใดเลย หากเจ้ามีเพียงเส้นทางแห่งการฝึกฝนปฏิบัติ โดยไม่มีนิมิตแม้แต่น้อย และไม่มีความเข้าใจใดๆ เลยเกี่ยวกับพระราชกิจของแผนการบริหารจัดการโดยรวมแล้ว เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ย่อมไม่เป็นประโยชน์อันใด เจ้าต้องเข้าใจความจริงที่เกี่ยวข้องกับนิมิต และในส่วนของความจริงที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนปฏิบัติแล้ว เจ้าต้องค้นหาเส้นทางแห่งการฝึกฝนปฏิบัติที่เหมาะสมหลังจากที่เจ้าได้เข้าใจความจริงเหล่านั้นแล้ว เจ้าต้องฝึกฝนปฏิบัติตามพระวจนะ และเข้าสู่ตามสภาพเงื่อนไขของเจ้า นิมิตคือรากฐาน และหากเจ้าไม่เอาใจใส่กับข้อเท็จจริงนี้แล้ว เจ้าจะไม่สามารถติดตามไปจนถึงท้ายที่สุดได้ การได้รับประสบการณ์ในลักษณะดังกล่าวจะทำให้เจ้าหลงเจิ่น หรือไม่ก็ทำให้เจ้าล้มลงและล้มเหลว จะไม่มีวิธีการใดๆ ที่เจ้าจะได้รับความสำเร็จได้! ผู้คนที่ไม่มีนิมิตที่ยิ่งใหญ่เป็นรากฐานของพวกเขาจะล้มเหลวได้เพียงเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ เจ้าไม่สามารถตั้งมั่นได้! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่เชื่อในพระเจ้าเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง? เจ้ารู้หรือไม่ว่าการติดตามพระเจ้าหมายถึงอะไร? หากปราศจากนิมิตแล้ว เจ้าจะเดินบนเส้นทางใด? ในพระราชกิจของวันนี้ หากเจ้าไม่มีนิมิต เจ้าจะไม่สามารถได้รับการทำให้ครบบริบูรณ์ได้เลย เจ้าเชื่อในผู้ใดกัน? เหตุใดเจ้าจึงเชื่อในพระองค์? เหตุใดเจ้าจึงติดตามพระองค์? เจ้ามองเห็นความเชื่อของเจ้าว่าเป็นเกมอย่างหนึ่งหรือไม่? เจ้ากำลังจัดการกับชีวิตของเจ้าเหมือนเป็นของเล่นประเภทหนึ่งหรือไม่? พระเจ้าของวันนี้ทรงเป็นนิมิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เจ้ารู้จักพระองค์มากเท่าใดกัน? เจ้าได้มองเห็นพระองค์มากเท่าใดกัน? เมื่อได้มองเห็นพระเจ้าของวันนี้แล้ว รากฐานของการเชื่อที่เจ้ามีในพระเจ้ามั่นคงหรือไม่? เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะบรรลุความรอดได้ตราบเท่าที่เจ้าติดตามไปในเส้นทางที่ปนเปยุ่งเหยิงนี้? เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะสามารถจับปลาในน้ำที่เต็มไปด้วยโคลนได้? มันง่ายเช่นนั้นหรือ? เจ้าได้พักวางมโนคติที่หลงผิดเกี่ยวกับพระวจนะที่พระเจ้าดำรัสในวันนี้มากเพียงใด? เจ้ามีนิมิตเกี่ยวกับพระเจ้าของวันนี้หรือไม่? ความเข้าใจที่เจ้ามีเกี่ยวกับพระเจ้าของวันนี้อยู่ในที่ใด? เจ้าเชื่ออยู่เสมอว่าเจ้าสามารถได้มาซึ่งพระองค์[ก]ได้แค่ด้วยการติดตามพระองค์ หรือแค่ด้วยการมองเห็นพระองค์ และว่าไม่มีใครจะสามารถกำจัดเจ้าได้ อย่าทึกทักเอาว่าการติดตามพระเจ้าเป็นเรื่องง่ายนัก สิ่งสำคัญคือเจ้าต้องรู้จักพระองค์ เจ้าต้องรู้จักพระราชกิจของพระองค์ และเจ้าต้องมีเจตจำนงที่จะสู้ทนต่อความยากลำบากเพื่อประโยชน์ของพระองค์ เสียสละชีวิตของเจ้าเพื่อพระองค์ และได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมโดยพระองค์ นี่คือนิมิตที่เจ้าควรมี…
เมื่อผู้คนมีนิมิตแล้ว พวกเขาก็มีรากฐาน เมื่อเจ้าฝึกฝนปฏิบัติตามรากฐานนี้ การเข้าสู่จะง่ายยิ่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าจะไม่มีความคลางแคลงใจเมื่อเจ้ามีรากฐานให้เข้าสู่ และจะเป็นการง่ายมากที่เจ้าจะเข้าสู่ แง่มุมในการเข้าใจนิมิตและการรู้จักพระราชกิจของพระเจ้านี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง พวกเจ้าต้องมีแง่มุมนี้ในคลังของเจ้า หากเจ้าไม่มีแง่มุมความจริงนี้ไว้พร้อม และรู้เพียงวิธีการพูดถึงเส้นทางแห่งการฝึกฝนปฏิบัติเท่านั้น เช่นนั้นแล้วเจ้าจะมีข้อเสียหายอย่างใหญ่หลวง เราได้ค้นพบว่าพวกเจ้ามากมายไม่ให้ความสำคัญกับแง่มุมความจริงนี้ และเมื่อเจ้าฟังความจริงนี้ เจ้าดูเหมือนจะแค่ฟังแค่วจนะและคำสอนเท่านั้น วันหนึ่งเจ้าจะล้มเหลว ทุกวันนี้มีถ้อยดำรัสบางส่วนที่เจ้าไม่ค่อยเข้าใจและไม่ยอมรับ ในกรณีเช่นนั้น เจ้าควรแสวงหาอย่างอดทน และเจ้าจะเข้าใจในวันหนึ่ง จงค่อยๆ เตรียมตัวเจ้าให้พร้อมด้วยนิมิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้เจ้าเข้าใจคำสอนฝ่ายจิตวิญญาณเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นก็ยังดีกว่าการไม่ใส่ใจในนิมิตเลย และยังคงดีกว่าการไม่เข้าใจสิ่งใดเลย ทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์ต่อการเข้าสู่ของเจ้า และจะกำจัดความกังขาเหล่านั้นของเจ้า นั่นดีกว่าการดำรงอยู่ของเจ้าที่เต็มไปด้วยมโนคติที่หลงผิด เจ้าจะดีขึ้นกว่ามากหากเจ้ามีนิมิตเหล่านี้เป็นรากฐาน เจ้าจะไม่มีความคลางแคลงใจใดๆ เลย และจะสามารถเข้าสู่ได้อย่างกล้าหาญและมั่นใจ เหตุใดจึงต้องเดือดร้อนกับการติดตามพระเจ้าอย่างงุนงงสับสนและกังขาอยู่เสมอเล่า?
—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, พวกเจ้าต้องเข้าใจพระราชกิจ—อย่าติดตามอย่างงุนงงสับสน!
ตอนที่กำลังอ่านพระวจนะของพระเจ้า เจ้าก็รู้ว่าบุคคลจำพวกใดที่พระเจ้ากำลังทรงอ้างอิงถึง เจ้ารู้ว่าสภาพเงื่อนไขจำพวกใดของจิตวิญญาณที่พระองค์กำลังตรัสถึง และเจ้าจึงสามารถจับความเข้าใจประเด็นสำคัญและนำมันไปปฏิบัติได้ นี่แสดงให้เห็นว่าเจ้าสามารถได้รับประสบการณ์ได้ เหตุใดผู้คนบางคนจึงกำลังขาดพร่องในเรื่องนี้? มันเป็นเพราะพวกเขาไม่ใช้ความพยายามให้มากในแง่มุมของการฝึกฝนปฏิบัติ แม้ว่าพวกเขาเต็มใจที่จะนำความจริงไปปฏิบัติ แต่พวกเขาก็ไม่มีความรู้ความเข้าใจเชิงลึกที่แท้จริงเข้าไปในรายละเอียดของการปรนนิบัติ เข้าไปในรายละเอียดของความจริงในชีวิตของพวกเขา พวกเขากลายเป็นสับสนเมื่อบางสิ่งเกิดขึ้น ในหนทางนี้ เจ้าอาจถูกนำทางให้หลงเจิ่นเมื่อผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จหรืออัครทูตเทียมเท็จร่วมทางมาด้วย เจ้าต้องมีการสามัคคีธรรมกันให้บ่อยครั้งเกี่ยวกับพระวจนะและพระราชกิจของพระเจ้า—เฉพาะในหนทางนี้เท่านั้นเจ้าจึงจะสามารถเข้าใจความจริงและพัฒนาวิจารณญาณได้ หากเจ้าไม่เข้าใจความจริง เจ้าก็จะไม่มีวิจารณญาณ ตัวอย่างเช่น สิ่งที่พระเจ้าตรัส วิธีที่พระเจ้าทรงพระราชกิจ สิ่งที่เป็นข้อเรียกร้องของพระเจ้าต่อผู้คน ผู้คนจำพวกใดที่เจ้าควรเข้าไปติดต่อด้วย และผู้คนจำพวกใดที่เจ้าควรปฏิเสธ—เจ้าต้องสามัคคีธรรมกันเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ให้บ่อยครั้ง หากเจ้าได้รับประสบการณ์กับพระวจนะของพระเจ้าในหนทางนี้เสมอ เจ้าก็จะเข้าใจความจริงและเข้าใจสรรพสิ่งมากมายอย่างถ้วนทั่ว และเจ้าจะมีวิจารณญาณอีกด้วย สิ่งใดคือความมีวินัยโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ สิ่งใดคือการติเตียนที่เกิดจากเจตจำนงของมนุษย์ สิ่งใดคือการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ สิ่งใดคือการจัดการเตรียมการสภาพแวดล้อม สิ่งใดคือการที่พระวจนะของพระเจ้าให้ความกระจ่างภายใน? หากเจ้าไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เจ้าก็จะไม่มีวิจารณญาณ เจ้าควรรู้ว่าสิ่งใดมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ สิ่งใดคืออุปนิสัยที่เป็นกบฏ วิธีเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า และวิธีโยนความเป็นกบฏของเจ้าเองทิ้งไป หากเจ้ามีความเข้าใจเชิงประสบการณ์ในสิ่งเหล่านี้ เจ้าก็จะมีรากฐาน เมื่อบางสิ่งเกิดขึ้น เจ้าก็จะมีความจริงอันสมควรที่จะใช้ประเมินวัดมันและมีนิมิตที่เหมาะสมเป็นรากฐาน เจ้าจะมีหลักการในทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำ และจะสามารถปฏิบัติตนโดยสอดคล้องกับความจริงได้ เช่นนั้นแล้วชีวิตของเจ้าจะเต็มไปด้วยความรู้แจ้งของพระเจ้า เต็มไปด้วยพระพรของพระเจ้า พระเจ้าจะไม่ทรงปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมต่อบุคคลใดก็ตามที่แสวงหาพระองค์อย่างจริงใจ หรือผู้ที่ใช้ชีวิตตามพระองค์และเป็นพยานเพื่อพระองค์ และพระองค์จะไม่ทรงสาปแช่งบุคคลใดก็ตามที่สามารถกระหายความจริงอย่างจริงใจได้ หากในขณะที่เจ้ากำลังกินและกำลังดื่มพระวจนะของพระเจ้า เจ้าสามารถให้ความสนใจกับการรู้จักสภาวะที่แท้จริงของเจ้าเองได้ ให้ความสนใจกับการฝึกฝนปฏิบัติของเจ้าเองได้ และให้ความสนใจกับความเข้าใจของเจ้าเองได้ เช่นนั้นแล้ว เมื่อเจ้าพบเจอปัญหา เจ้าจะได้รับความรู้แจ้งและจะได้รับความเข้าใจที่สัมพันธ์กับชีวิตจริง เช่นนั้นแล้วเจ้าจะมีเส้นทางของการฝึกฝนปฏิบัติและวิจารณญาณในทุกสรรพสิ่ง บุคคลที่มีความจริงไม่มีวี่แววที่จะถูกหลอกลวง ไม่มีวี่แววที่จะประพฤติตนในแบบที่ก่อเกิดการหยุดชะงักหรือกระทำตัวเกินเลย เพราะความจริง เขาจึงได้รับการปกป้อง และก็เพราะความจริงเช่นกัน เขาจึงได้มาซึ่งความเข้าใจที่มากขึ้น เพราะความจริง เขาจึงมีเส้นทางสู่การฝึกฝนปฏิบัติมากขึ้น ได้โอกาสเหมาะมากขึ้นสำหรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะทรงพระราชกิจในตัวเขา และโอกาสเหมาะมากขึ้นที่จะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม
—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, เฉพาะบรรดาผู้มุ่งเน้นการปฏิบัติเท่านั้นที่สามารถได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อมได้
เชิงอรรถ:
ก. ข้อความต้นฉบับไม่มีคำว่า “พระองค์”
ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ