พระเจ้าทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมและเอวา

วันที่ 02 เดือน 10 ปี 2020

ปฐมกาล 3:20-21 อาดัมเรียกภรรยาของเขาว่า “เอวา” เพราะนางเป็นมารดาของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมและภรรยาของเขาสวมปกปิดกาย

พวกเรามาดูที่บทตอนที่สามนี้ ซึ่งระบุว่ามีความหมายเบื้องหลังชื่อที่อาดัมให้แก่เอวาจริงๆ นี่แสดงว่าหลังจากถูกสร้างขึ้น อาดัมได้มีความคิดของตัวเองและเข้าใจสิ่งต่างๆ มากมาย แต่สำหรับตอนนี้พวกเราจะไม่ศึกษาหรือสำรวจว่าเขาเข้าใจอะไรหรือเขาเข้าใจมากเพียงใด เพราะนั่นไม่ใช่เป้าหมายหลักของเราในการเสวนาบทตอนที่สาม ดังนั้นประเด็นปัญหาหลักที่เราต้องการเน้นคืออะไร? พวกเรามาดูที่ประโยคที่ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมและภรรยาของเขาสวมปกปิดกาย” หากเราไม่เสวนาประโยคนี้ของคัมภีร์ในสามัคคีธรรมของเราวันนี้ พวกเจ้าอาจไม่มีวันตระหนักถึงความหมายโดยนัยที่ลึกกว่าของพระวจนะเหล่านี้ ก่อนอื่นเราขอให้เบาะแสบางอย่าง หากพวกเจ้าจะทำ ลองจินตนาการถึงสวนเอเดน ที่มีอาดัมและเอวาอาศัยอยู่ในนั้น พระเจ้าเสด็จไปเยี่ยมพวกเขา แต่พวกเขาซ่อนตัวเพราะพวกเขาเปลือยอยู่ พระเจ้าไม่ทรงสามารถมองเห็นพวกเขา และหลังจากพระองค์ทรงร้องเรียกพวกเขา พวกเขาก็พูดว่า “เราไม่กล้าพบพระองค์เพราะร่างกายของพวกเราเปลือยเปล่า” พวกเขาไม่กล้าพบพระเจ้าเพราะพวกเขาเปลือยอยู่ ดังนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าทรงทำอะไรเพื่อพวกเขา? ข้อความเดิมพูดว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมและภรรยาของเขาสวมปกปิดกาย” จากข้อความนี้ พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่ว่าพระเจ้าได้ทรงใช้อะไรทำเสื้อผ้าของพวกเขา? พระเจ้าได้ทรงใช้หนังสัตว์เพื่อทำเสื้อผ้าของพวกเขา กล่าวคือพระเจ้าได้ทรงทำเสื้อขนสัตว์ให้มนุษย์สวมใส่เป็นเสื้อผ้า เหล่านี้เป็นเสื้อผ้าชิ้นแรกๆ ที่พระเจ้าได้ทรงทำให้มนุษย์ เสื้อขนสัตว์เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยตามมาตรฐานของวันนี้ และไม่ใช่บางสิ่งที่ทุกคนสามารถมีเงินพอหาใส่ได้ หากใครบางคนถามเจ้าว่า อะไรคือเสื้อผ้าชิ้นแรกที่บรรพบุรุษของเราได้สวมใส่? เจ้าสามารถตอบได้ว่า เป็นเสื้อขนสัตว์ ใครได้ทำเสื้อขนสัตว์นี้? เจ้าก็สามารถโต้ตอบได้ว่า พระเจ้าได้ทรงทำ! นั่นคือประเด็นปัญหาหลักตรงนี้ กล่าวคือ เสื้อผ้านี้ทำขึ้นโดยพระเจ้า นั่นไม่ใช่บางสิ่งที่มีค่าคู่ควรต่อการเสวนาหรอกหรือ? หลังจากได้ฟังคำบรรยายของเรา มีภาพผุดขึ้นในจิตใจของเจ้าหรือไม่? อย่างน้อยเจ้าควรมีเค้าโครงคร่าวๆ ประเด็นปัญหาของการบอกเจ้าเรื่องนี้ในวันนี้ไม่ใช่เพื่อให้พวกเจ้ารู้ว่าเสื้อผ้าชิ้นแรกของมนุษย์คืออะไร เช่นนั้นแล้วอะไรคือประเด็นปัญหา? ประเด็นปัญหาไม่ใช่เสื้อขนสัตว์ แต่เป็นวิธีที่ผู้คนได้มารู้จักพระอุปนิสัยของพระองค์ สิ่งที่พระองค์ทรงมี และสิ่งที่พระองค์ทรงเป็น ดังที่พระเจ้าได้ทรงเปิดเผยในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำตรงนี้

“พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมและภรรยาของเขาสวมปกปิดกาย” ในฉากนี้ เราเห็นพระเจ้าทรงสวมบทบาทประเภทใดเมื่อพระองค์ทรงอยู่กับอาดัมและเอวา? พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์เองด้วยวิธีใดเล่า ในโลกนี้ที่มีมนุษย์เพียงสองคน? พระองค์ทรงสำแดงพระองค์เองในบทบาทของพระเจ้าหรือไม่? พี่น้องชายหญิงจากฮ่องกง โปรดตอบ (ในบทบาทของผู้ปกครองคนหนึ่ง) พี่น้องชายหญิงจากเกาหลีใต้ พวกเจ้าคิดว่าพระเจ้าทรงปรากฏเป็นบทบาทประเภทใด? (หัวหน้าครอบครัว) พี่น้องชายหญิงจากไต้หวัน เจ้าคิดว่าอะไร? (บทบาทของใครบางคนในครอบครัวของอาดัมและเอวา บทบาทของสมาชิกครอบครัว) พวกเจ้าบางคนคิดว่าพระเจ้าทรงปรากฏในฐานะสมาชิกครอบครัวของอาดัมและเอวา ในขณะที่บางคนพูดว่าพระเจ้าทรงปรากฏในฐานะหัวหน้าครอบครัว และคนอื่นๆ พูดว่าผู้ปกครอง ทั้งหมดนี้เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่เจ้าเห็นสิ่งที่เรากำลังจะหมายถึงหรือไม่? พระเจ้าได้ทรงสร้างผู้คนสองคนนี้และปฏิบัติต่อพวกเขาในฐานะพระสหายของพระองค์ ในฐานะครอบครัวเดียวของพวกเขา พระเจ้าทรงดูแลชีวิตของพวกเขาและเอาใจใส่ความต้องการด้านอาหาร เสื้อผ้าและที่พักอาศัยของพวกเขา ตรงนี้พระเจ้าทรงปรากฏเป็นผู้ปกครองของอาดัมและเอวา ในขณะที่พระเจ้าทรงทำสิ่งนี้ มนุษย์ไม่เห็นว่าพระเจ้าทรงสูงส่งเพียงใด เขาไม่เห็นพระอำนาจสูงสุดของพระเจ้า ความล้ำลึกของพระองค์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่เห็นพระพิโรธหรือพระบารมีของพระองค์ ทั้งหมดที่เขาเห็นคือความถ่อมพระทัยของพระเจ้า ความเสน่หาของพระองค์ ความห่วงใยของพระองค์ต่อมนุษย์ และความรับผิดชอบและความใส่พระทัยของพระองค์ต่อเขา ท่าทีและวิธีที่พระเจ้าได้ทรงใช้ปฏิบัติต่ออาดัมและเอวานั้นคล้ายกับวิธีที่บิดามารดาแสดงความห่วงใยต่อลูกๆ ของพวกเขา ก็เหมือนกับวิธีที่บิดามารดารัก ดูแล และใส่ใจลูกชายและลูกสาวของตัวเองอีกด้วย—คือเป็นจริง มองเห็นได้ และจับต้องได้ แทนที่จะทรงยกพระองค์เองขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงและทรงมหิทธิฤทธิ์ พระเจ้าได้ทรงใช้หนังสัตว์เพื่อทำเสื้อผ้าให้กับมนุษย์ด้วยพระองค์เอง มันไม่สำคัญว่าเสื้อขนสัตว์นี้ได้ถูกใช้เพื่อปกปิดความกระดากอายของพวกเขา หรือเพื่อป้องกันพวกเขาจากความหนาวเย็น สิ่งที่สำคัญคือว่าเสื้อผ้าสำหรับปกปิดร่างกายของมนุษย์นี้ถูกทำขึ้นโดยพระเจ้าพระองค์เองด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง แทนที่จะเพียงแค่ทรงคิดให้เสื้อผ้าเกิดขึ้นมาเอง หรือทรงใช้วิธีการอัศจรรย์อื่นๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นที่ผู้คนอาจจินตนาการว่าพระเจ้าจะทรงทำ แต่พระเจ้าได้ทรงทำบางสิ่งอย่างถูกต้องตามเหตุผลที่มนุษย์คงจะคิดว่าพระเจ้าจะไม่ทรงทำและไม่ควรทรงทำ นี่อาจดูเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญ—ผู้คนบางคนอาจไม่แม้แต่จะคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะพูดถึง—แต่มันให้โอกาสผู้ติดตามคนใดของพระเจ้าที่ได้ถูกรุมเร้าด้วยมโนคติที่คลุมเครือเกี่ยวกับพระองค์ได้รับความรู้ความเข้าใจเชิงลึกถึงความจริงแท้และความน่ารักน่าชื่นชมของพระองค์ และเห็นความสัตย์ซื่อและความถ่อมพระทัยของพระองค์ มันทำให้ผู้คนที่โอหังจนแทบกลั้นไม่อยู่ซึ่งคิดว่าพวกเขาสูงส่งและทรงพลัง ก้มหัวที่อวดดีของพวกเขาด้วยความอับอาย ต่อหน้าความจริงแท้และความถ่อมพระทัยของพระเจ้า ในที่นี้ ความจริงแท้และความถ่อมพระทัยของพระเจ้ายิ่งทำให้ผู้คนสามารถเห็นว่าพระองค์ทรงน่ารักน่าชื่นชอบเพียงใด ในทางตรงกันข้าม พระเจ้า “ผู้ทรงใหญ่โต” พระเจ้า “ผู้ทรงน่ารักน่าชื่นชอบ” และ พระเจ้า “ผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด” ที่ผู้คนยึดถือไว้ในหัวใจของพวกเขา ได้กลายเป็นไม่สำคัญและน่าเกลียด และแตกละเอียดเมื่อถูกแตะเพียงเบาๆ เมื่อเจ้าเห็นข้อเขียนนี้และได้ยินเรื่องราวนี้ เจ้าดูถูกพระเจ้าเพราะพระองค์ได้ทรงทำสิ่งเช่นนี้หรือไม่? ผู้คนบางคนอาจทำเช่นนั้น แต่คนอื่นๆ จะมีปฏิกิริยาที่ตรงกันข้าม พวกเขาจะคิดว่าพระเจ้านั้นทรงเที่ยงแท้และทรงน่ารักน่าชื่นชอบ และแน่นอนว่าเป็นความเที่ยงแท้และความน่ารักน่าชื่นชมของพระเจ้านี่เองที่เร้าอารมณ์พวกเขา ยิ่งพวกเขาเห็นด้านที่แท้จริงของพระเจ้ามากขึ้นเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งสามารถซาบซึ้งในการมีอยู่จริงของความรักของพระเจ้า ความสำคัญของพระเจ้าในหัวใจของพวกเขา และวิธีที่พระองค์ทรงยืนเคียงข้างพวกเขาทุกชั่วขณะมากขึ้นเท่านั้น

บัดนี้ พวกเรามาเชื่อมโยงการเสวนาของพวกเรากลับมายังปัจจุบัน หากพระเจ้าทรงสามารถทำสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้เพื่อผู้คนที่พระองค์ได้ทรงสร้างเมื่อปฐมกาล แม้กระทั่งสิ่งที่ผู้คนคงจะไม่กล้านึกถึงหรือคาดหวัง เช่นนั้นแล้วพระเจ้าจะทรงสามารถทำสิ่งเหล่านี้เพื่อผู้คนในวันนี้ได้หรือไม่? บางคนพูดว่า “ได้!” เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะแก่นแท้ของพระเจ้าไม่ได้ทรงแสร้งทำ และความน่ารักน่าชื่นชมของพระองค์ก็ไม่ได้แสร้งทำ แก่นแท้ของพระเจ้าทรงดำรงอยู่อย่างแท้จริงและไม่ได้เป็นบางสิ่งที่ผู้อื่นเพิ่มเติมเข้ามา และไม่ใช่บางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตามเวลา สถานที่ และยุคสมัยที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน ความเที่ยงแท้และความน่ารักน่าชื่นชมของพระเจ้าสามารถนำออกมาได้อย่างแท้จริงโดยการทำบางสิ่งที่ผู้คนคิดว่าไร้ความหมายและไม่มีนัยสำคัญเท่านั้น—บางสิ่งที่เล็กน้อยเสียจนผู้คนคงจะไม่คิดว่าพระองค์จะทรงทำ พระเจ้าไม่ได้ทรงเสแสร้ง ไม่มีการพูดเกินจริง การปลอมแปลง ความเย่อหยิ่ง หรือความโอหังในพระอุปนิสัยและแก่นแท้ของพระองค์ พระองค์ไม่มีวันทรงอวดตัว แต่ทรงรัก แสดงความห่วงใย ดูแล และนำทางมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้าง ด้วยความสัตย์ซื่อและความจริงใจแทน ไม่สำคัญว่าผู้คนจะซาบซึ้ง รู้สึก หรือเห็นสิ่งที่พระเจ้าทรงทำน้อยเพียงใด พระองค์ก็กำลังทรงทำอยู่อย่างแน่นอน การรู้ว่าพระเจ้าทรงมีแก่นแท้เช่นนี้จะมีผลกระทบต่อความรักของผู้คนต่อพระองค์หรือไม่? จะมีอิทธิพลต่อความยำเกรงพระเจ้าของพวกเขาหรือไม่? เราหวังว่าเมื่อเจ้าเข้าใจด้านที่แท้จริงของพระเจ้า เจ้าจะเข้าใกล้ชิดกับพระองค์มากยิ่งขึ้น และสามารถซาบซึ้งอย่างแท้จริงมากขึ้นในความรักและความใส่พระทัยของพระองค์ต่อมวลมนุษย์ ตลอดจนสามารถมอบหัวใจของเจ้าให้กับพระเจ้าและได้รับการปลดปล่อยจากความคลางแคลงใจและความสงสัยเกี่ยวกับพระองค์ พระเจ้ากำลังทรงทำทุกสิ่งทุกอย่างอย่างเงียบๆ เพื่อมนุษย์ ทำอย่างเงียบๆ โดยผ่านทางความจริงใจ ความสัตย์ซื่อ และความรักของพระองค์ แต่พระองค์ไม่เคยได้ทรงมีความหวาดหวั่นหรือความเสียใจอันใดกับสิ่งอันใดที่พระองค์ทรงทำ และพระองค์ไม่เคยทรงต้องการให้ผู้ใดตอบแทนพระองค์ในทางใดทางหนึ่ง หรือทรงมีเจตนารมณ์ที่จะได้รับสิ่งใดจากมวลมนุษย์แต่อย่างใด จุดประสงค์เดียวของทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ได้ทรงทำมาเสมอก็เพื่อที่พระองค์จะทรงสามารถรับความเชื่อและความรักที่แท้จริงของมวลมนุษย์ และด้วยประโยคนั้น เราจะจบหัวข้อแรกตรงนี้

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 1

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

พระบัญชาของพระเจ้าต่ออาดัม

ปฐมกาล 2:15-17 พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงให้มนุษย์นั้นอาศัยอยู่ในสวนเอเดน ให้ทำและดูแลสวน พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตรัสสั่งมนุษย์นั้นว่า...

พระเจ้าทรงสร้างเอวา

ปฐมกาล 2:18-20 พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่า “การที่ชายผู้นี้จะอยู่แต่ลำพังนั้นไม่ดี เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่เหมาะสมกับเขาขึ้น”...

ติดต่อเราผ่าน Messenger