พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 112

วันที่ 27 เดือน 05 ปี 2021

คำเตือนของพระยาห์เวห์พระเจ้าไปถึงชาวนีนะเวห์

พวกเรามาอ่านต่อไปในบทตอนที่สองกันเถิด ซึ่งเป็นบทที่สามของหนังสือโยนาห์ ความว่า "โยนาห์ตั้งต้นเดินเข้าไปในเมืองได้ระยะทางเดินวันหนึ่ง และท่านก็ร้องประกาศว่า 'อีกสี่สิบวัน นีนะเวห์จะถูกทำลาย'" เหล่านี้คือพระวจนะที่พระเจ้าทรงถ่ายทอดให้กับโยนาห์โดยตรงเพื่อบอกต่อชาวนีนะเวห์ ดังนั้น แน่นอนว่าพระวจนะเหล่านี้จึงเป็นพระวจนะที่พระยาห์เวห์ทรงปรารถนาที่จะตรัสต่อชาวนีนะเวห์ พระวจนะเหล่านี้บอกผู้คนว่าพระเจ้าได้ทรงเริ่มชิงชังและเกลียดผู้คนในเมืองนี้ เพราะความชั่วร้ายของพวกเขาได้มาอยู่เฉพาะสายพระเนตรอันจับจ้องของพระองค์ และดังนั้นพระองค์จึงทรงปรารถนาที่จะทำลายเมืองนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พระเจ้าจะได้ทรงทำลายเมืองนี้ พระองค์จะทรงทำการประกาศต่อชาวนีนะเวห์ และในขณะเดียวกันก็ประทานโอกาสให้พวกเขาได้กลับใจจากความชั่วร้ายของพวกเขาและเริ่มต้นใหม่ โอกาสนี้ดำเนินอยู่สี่สิบวัน และไม่นานไปกว่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากผู้คนภายในเมืองไม่กลับใจ ยอมรับบาปของพวกเขา และหมอบราบเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าภายในสี่สิบวัน พระเจ้าจะทรงทำลายเมืองนี้เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงทำลายเมืองโสโดมไปแล้ว นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะบอกผู้คนในเมืองนีนะเวห์ เป็นที่ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่แค่ถ้อยแถลงธรรมดาๆ ถ้อยแถลงนี้ไม่เพียงสื่อถึงพระโทสะของพระยาห์เวห์พระเจ้าเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงท่าทีของพระองค์ต่อชาวนีนะเวห์ ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นคำเตือนอย่างจริงจังต่อผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในเมืองด้วย คำเตือนนี้บอกพวกเขาว่าการกระทำชั่วร้ายของพวกเขาได้ทำให้พวกเขาได้รับความเกลียดชังจากพระยาห์เวห์พระเจ้าแล้ว และจะนำพวกเขาไปถึงปากขอบแห่งการทำลายล้างพวกเขาเองในไม่ช้า ดังนั้น ชีวิตของผู้อาศัยทุกคนในเมืองนีนะเวห์จึงอยู่ในภยันตรายที่จวนตัว

ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างปฏิกิริยาของเมืองนีนะเวห์และเมืองโสโดมต่อคำเตือนของพระยาห์เวห์พระเจ้า

การถูกทำลายหมายถึงอะไร? ในภาษาพูด มันหมายถึงการไม่มีอยู่อีกต่อไป แต่ในลักษณะเช่นใดเล่า? ใครที่สามารถทำลายทั้งเมืองได้? แน่นอนว่าการกระทำเช่นนั้นคงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ ผู้คนเมืองนีนะเวห์ไม่ใช่คนโง่เขลา ทันทีที่พวกเขาได้ยินการกล่าวประกาศนี้ พวกเขาก็เกิดแนวคิดขึ้น พวกเขารู้ว่าการกล่าวประกาศได้มาจากพระเจ้าแล้ว พวกเขารู้ว่าพระเจ้ากำลังจะทรงปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์ และพวกเขารู้ว่าความชั่วร้ายของพวกเขาได้ทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเดือดดาลและนำพระโทสะของพระองค์ลงมายังพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะถูกทำลายไปพร้อมกับเมืองของพวกเขาในไม่ช้า แล้วผู้คนในเมืองประพฤติอย่างไรหลังจากที่ได้ยินคำเตือนของพระยาห์เวห์พระเจ้า? พระคัมภีร์อธิบายในรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงว่าผู้คนมีปฏิกิริยาอย่างไร ตั้งแต่กษัตริย์ลงมาจนถึงสามัญชน ในคัมภีร์มีการบันทึกพระวจนะต่อไปนี้ ความว่า "คนนีนะเวห์ได้เชื่อพระเจ้า พวกเขาได้ประกาศให้อดอาหาร และได้สวมผ้ากระสอบ ตั้งแต่ผู้ใหญ่ที่สุดจนถึงผู้น้อยที่สุด เมื่อข่าวนี้ลือไปถึงกษัตริย์แห่งนีนะเวห์ พระองค์ทรงลุกขึ้นจากพระที่นั่ง และเปลื้องฉลองพระองค์ออก แล้วทรงสวมผ้ากระสอบแทน และประทับบนกองขี้เถ้า พระองค์ทรงออกพระราชกฤษฎีกา ประกาศไปทั่วนครนีนะเวห์ว่า 'โดยอำนาจกษัตริย์และขุนนางทั้งหลาย คนหรือสัตว์เลี้ยงไม่ว่าขนาดใหญ่หรือขนาดกลาง อย่าลิ้มรสสิ่งใด อย่ากินอาหาร และอย่าดื่มน้ำ ให้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงนุ่งห่มผ้ากระสอบ ให้ร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างจริงจัง เออ ให้ทุกคนหันกลับจากการประพฤติชั่ว และเลิกการทารุณซึ่งมือพวกเขาทำ'"

หลังจากที่ได้ยินการกล่าวประกาศของพระยาห์เวห์พระเจ้าแล้ว ผู้คนเมืองนีนะเวห์ก็แสดงท่าทีที่ตรงกันข้ามกับท่าทีของผู้คนเมืองโสโดมโดยสิ้นเชิง—ในขณะที่ผู้คนเมืองโสโดมต่อต้านพระเจ้าอย่างเปิดเผย โดยทำความชั่วต่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากที่ได้ยินพระวจนะเหล่านี้แล้ว ผู้คนเมืองนีนะเวห์ไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องนี้ อีกทั้งพวกเขาไม่ได้ต้านทาน พวกเขากลับเชื่อพระเจ้าและแถลงเรื่องการอดอาหารแทน คำว่า "เชื่อ" ในที่นี้หมายถึงอะไร? คำนี้ชี้แนะโดยตัวมันเองถึงความเชื่อและการนบนอบ หากพวกเราใช้พฤติกรรมจริงๆ ของชาวนีนะเวห์มาอธิบายคำนี้ คำนี้หมายถึงว่าพวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าทรงสามารถและจะทรงทำอย่างที่พระองค์ได้ตรัสไว้ และหมายถึงว่าพวกเขาเต็มใจที่จะกลับใจ ผู้คนเมืองนีนะเวห์รู้สึกกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับความวิบัติที่จวนเจียนจะเกิดขึ้นหรือไม่? การเชื่อของพวกเขาคือสิ่งที่ใส่ความกลัวไว้ในหัวใจของพวกเขา ดังนั้นแล้ว พวกเราจะสามารถนำสิ่งใดมาใช้พิสูจน์การเชื่อและความกลัวของชาวนีนะเวห์ได้? สิ่งนี้เป็นไปตามที่พระคัมภีร์ระบุ นั่นคือ "พวกเขาได้ประกาศให้อดอาหาร และได้สวมผ้ากระสอบ ตั้งแต่ผู้ใหญ่ที่สุดจนถึงผู้น้อยที่สุด" นี่จึงกล่าวได้ว่าชาวนีนะเวห์เชื่ออย่างแท้จริง และจากการเชื่อนี้ทำให้เกิดความกลัวขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นก็นำพวกเขาให้อดอาหารและนุ่งห่มผ้ากระสอบ นี่คือวิธีการที่พวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังเริ่มกลับใจ ไม่เพียงแต่ชาวนีนะเวห์จะไม่ต่อต้านพระเจ้าเท่านั้น แต่พวกเขายังแสดงให้เห็นการกลับใจของพวกเขาอย่างชัดเจนโดยผ่านทางพฤติกรรมและการกระทำของพวกเขา ซึ่งแตกต่างจากผู้คนเมืองโสโดมโดยสิ้นเชิง แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ผู้คนเมืองนีนะเวห์ทุกคนทำ ไม่ใช่แค่สามัญชนเท่านั้น—กษัตริย์ก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วย

การกลับใจของกษัตริย์เมืองนีนะเวห์ได้รับการชมเชยจากพระยาห์เวห์พระเจ้า

เมื่อกษัตริย์แห่งนีนะเวห์ทรงได้สดับตรับฟังข่าวนี้ พระองค์ทรงลุกขึ้นจากบัลลังก์ของพระองค์ และเปลื้องฉลองพระองค์ออก แล้วทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้ากระสอบและประทับบนกองขี้เถ้า จากนั้น พระองค์ทรงประกาศว่า ทุกคนในเมืองไม่ได้รับอนุญาตให้ลิ้มรสสิ่งใด และแกะ วัว หรือสัตว์เลี้ยงอื่นใดก็ไม่ได้รับอนุญาตให้กินหญ้าหรือดื่มน้ำ ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงต้องนุ่งห่มผ้ากระสอบ และผู้คนต้องร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างจริงจังจริงใจ กษัตริย์ยังได้ทรงประกาศว่าทุกคนจะหันเหจากหนทางที่ชั่วของพวกเขา และเลิกการทารุณซึ่งมือพวกเขาทำ เมื่อพิจารณาจากลำดับของการกระทำนี้ กษัตริย์เมืองนีนะเวห์ได้มีการกลับใจที่แท้จริงในพระทัยของพระองค์ ลำดับการกระทำที่พระองค์ทรงปฏิบัตินี้—การลุกขึ้นจากบัลลังก์ของพระองค์ การเปลื้องฉลองพระองค์สำหรับกษัตริย์ของพระองค์ การทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้ากระสอบ และการประทับบนกองขี้เถ้า—บอกผู้คนว่ากษัตริย์เมืองนีนะเวห์กำลังทรงวางพักสถานะการเป็นกษัตริย์ของพระองค์ และกำลังทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้ากระสอบเคียงข้างสามัญชน นี่จึงกล่าวได้ว่า กษัตริย์เมืองนีนะเวห์ไม่ได้ทรงดำรงสถานะการเป็นกษัตริย์ของพระองค์เพื่อกระทำการประพฤติชั่วของพระองค์หรือการทารุณซึ่งพระหัตถ์ของพระองค์ทำต่อไปหลังจากที่ได้สดับฟังประกาศจากพระยาห์เวห์พระเจ้า แต่พระองค์ทรงวางพักสิทธิอำนาจที่พระองค์ทรงครอง และกลับใจเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้า ในชั่วขณะนี้ กษัตริย์เมืองนีนะเวห์ไม่ได้กำลังทรงกลับใจในฐานะกษัตริย์ พระองค์ได้เสด็จมาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเพื่อกลับใจและสารภาพบาปของพระองค์ในฐานะไพร่ฟ้าธรรมดาของพระเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ยังได้ตรัสบอกทั้งเมืองให้กลับใจและสารภาพบาปของพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าในลักษณะเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงทำ นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีแผนเฉพาะว่าจะทำเช่นนั้นอย่างไร ดังที่เห็นในคัมภีร์ ความว่า "คนหรือสัตว์เลี้ยงไม่ว่าขนาดใหญ่หรือขนาดกลาง อย่าลิ้มรสสิ่งใด อย่ากินอาหาร และอย่าดื่มน้ำ…ให้ร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างจริงจัง เออ ให้ทุกคนหันกลับจากการประพฤติชั่ว และเลิกการทารุณซึ่งมือพวกเขาทำ" ในฐานะผู้ปกครองเมือง กษัตริย์เมืองนีนะเวห์ทรงครองสถานะและอำนาจสูงสุด และทรงสามารถทำสิ่งใดก็ได้ที่ทรงปรารถนา เมื่อเผชิญกับประกาศของพระยาห์เวห์พระเจ้า พระองค์จะเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ หรือกลับใจและสารภาพบาปของพระองค์เพียงลำพังก็ได้ ส่วนเรื่องที่ว่าผู้คนในเมืองเลือกที่จะกลับใจหรือไม่นั้น พระองค์จะเพิกเฉยต่อเรื่องนั้นโดยสิ้นเชิงเลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม กษัตริย์เมืองนีนะเวห์ไม่ได้ทรงทำเช่นนี้เลย ไม่เพียงแต่พระองค์จะลุกขึ้นจากบัลลังก์ของพระองค์ ทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้ากระสอบ และประทับบนกองขี้เถ้า และกลับใจและสารภาพบาปของพระองค์เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าเท่านั้น พระองค์ยังทรงสั่งให้ผู้คนและสัตว์เลี้ยงทั้งหมดภายในเมืองทำเช่นเดียวกันด้วย พระองค์ทรงสั่งแม้กระทั่งให้ผู้คน "ร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างจริงจัง" กษัตริย์เมืองนีนะเวห์ได้ทรงทำสิ่งที่ผู้ปกครองควรทำให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างแท้จริงโดยผ่านทางลำดับการกระทำเหล่านี้ ลำดับการกระทำของพระองค์คือสิ่งที่สัมฤทธิ์ผลได้ยากสำหรับกษัตริย์ทุกพระองค์ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ และแท้จริงแล้วไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดเคยสัมฤทธิ์สิ่งเหล่านี้ การกระทำเหล่านี้สามารถเรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษย์ และควรค่าทั้งแก่การยกย่องและการเอาอย่างจากมวลมนุษย์ นับตั้งแต่อรุณรุ่งของมนุษย์ กษัตริย์ทุกพระองค์ได้ทรงนำไพร่ฟ้าประชาชนของพระองค์ให้ต้านทานและต่อต้านพระเจ้า ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดเคยนำไพร่ฟ้าประชาชนของพระองค์ให้วอนขอพระเจ้าเพื่อแสวงหาการไถ่สำหรับความชั่วร้ายของพวกเขา รับการอภัยโทษจากพระยาห์เวห์พระเจ้า และหลีกเลี่ยงการลงโทษที่จวนเจียนจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม กษัตริย์เมืองนีนะเวห์ทรงสามารถนำไพร่ฟ้าประชาชนของพระองค์ให้หันหาพระเจ้า ให้ทิ้งการประพฤติชั่วของแต่ละคนไว้เบื้องหลัง และเลิกการทารุณซึ่งมือพวกเขาทำ นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงสามารถละวางบัลลังก์ของพระองค์ลงได้ และเพื่อเป็นการตอบแทน พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงเปลี่ยนพระทัยและรู้สึกเสียพระทัย ทรงถอนพระพิโรธของพระองค์ และทรงอนุญาตให้ผู้คนในเมืองมีชีวิตรอด และพิทักษ์รักษาพวกเขาไว้จากการทำลายล้าง การกระทำเหล่านี้ของกษัตริย์สามารถเรียกได้เพียงว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่หายากในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เท่านั้น และแม้กระทั่งเป็นตัวอย่างต้นแบบของมนุษยชาติที่เสื่อมทราม ซึ่งกลับใจและสารภาพบาปของพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 2

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger