พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 41

วันที่ 13 เดือน 05 ปี 2021

ซาตานทดลองโยบเป็นครั้งแรก (ฝูงสัตว์ของเขาถูกขโมยและหายนะตกมาถึงลูกๆ ของเขา)

ก. พระวจนะที่พระเจ้าได้ตรัสไว้

โยบ 1:8 และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า "เจ้าได้พิจารณาดูโยบผู้รับใช้ของเราหรือไม่ว่า ในแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย?"

โยบ 1:12 และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า "ดูเถิด ทุกสิ่งที่เขามีก็อยู่ในมือของเจ้า เพียงแต่อย่ายื่นมือแตะต้องตัวเขา" ซาตานจึงออกไปจากเบื้องพระพักตร์พระยาห์เวห์

ข. การตอบของซาตาน

โยบ 1:9-11 แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า "โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆ หรือ? พระองค์ไม่ได้ทรงกั้นรั้วรอบตัวเขา ครอบครัวของเขา และทุกสิ่งที่เขามีอยู่เสียทุกด้านหรือ? พระองค์ได้ทรงอวยพรงานที่มือเขาทำ และฝูงปศุสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน แต่ขอยื่นพระหัตถ์แตะต้องสิ่งของทั้งสิ้นที่เขามีอยู่ แล้วเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์"

พระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานทดลองโยบเพื่อที่ความเชื่อของโยบจะได้รับการทำให้มีความเพียบพร้อม

โยบ 1:8 เป็นบันทึกแรกที่พวกเราเห็นการโต้ตอบกันระหว่างพระยาห์เวห์พระเจ้ากับซาตานในพระคัมภีร์ ดังนั้น พระเจ้าได้ตรัสสิ่งใด? ตัวบทเดิมจัดเตรียมเรื่องราวดังต่อไปนี้ "และพระยาห์เวห์ตรัสกับซาตานว่า 'เจ้าได้พิจารณาดูโยบผู้รับใช้ของเราหรือไม่ว่า ในแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย?'" นี่คือการประเมินโยบของพระเจ้าต่อหน้าซาตาน พระเจ้าได้ตรัสว่าเขาเป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว ก่อนที่จะมีพระวจนะเหล่านี้ระหว่างพระเจ้ากับซาตานนั้น พระเจ้าตั้งพระทัยแน่วแน่ว่าพระองค์จะทรงใช้ซาตานทดลองโยบ—ว่าพระองค์จะทรงส่งมอบโยบให้แก่ซาตาน ในด้านหนึ่งนั้น นี่จะพิสูจน์ว่าการเฝ้าสังเกตและประเมินค่าโยบของพระเจ้านั้นถูกต้องแม่นยำและไม่มีข้อผิดพลาด และจะทำให้ซาตานอับอายโดยผ่านทางคำพยานของโยบ ในอีกด้านหนึ่ง มันจะเป็นการทำให้ความเชื่อในพระเจ้าและความยำเกรงพระเจ้าของโยบมีความเพียบพร้อม ด้วยเหตุนี้ เมื่อซาตานได้มาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า พระเจ้าไม่ทรงเล่นสำนวน พระองค์ทรงตัดตรงเข้าสู่ประเด็นและตรัสถามซาตานว่า "เจ้าได้พิจารณาดูโยบผู้รับใช้ของเราหรือไม่ว่า ในแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย?" ในคำถามของพระเจ้ามีความหมายดังต่อไปนี้ นั่นคือ พระเจ้าทรงรู้ว่าซาตานได้ตระเวนไปทุกที่และมักจะได้สอดแนมโยบผู้ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าอยู่บ่อยครั้ง มันได้ทดลองและโจมตีโยบอยู่บ่อยครั้ง โดยพยายามหาหนทางที่จะนำพาความล่มจมมาประสบแก่เขาเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าความเชื่อในพระเจ้าและความยำเกรงพระเจ้าของเขานั้นไม่สามารถมั่นคงได้ ซาตานยังพร้อมที่จะหาโอกาสทำให้โยบย่อยยับ โดยที่โยบอาจจะประกาศตัดขาดกับพระเจ้า และโดยที่มันอาจจะฉวยเขามาจากพระหัตถ์ของพระเจ้า ถึงกระนั้นพระเจ้าก็ได้ทอดพระเนตรภายในหัวใจของโยบและทรงมองเห็นว่าเขานั้นดีพร้อมและเที่ยงธรรม และว่าเขายำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว พระเจ้าได้ทรงใช้คำถามหนึ่งเพื่อบอกกับซาตานว่าโยบเป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม ผู้ซึ่งยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว ว่าโยบจะไม่มีวันประกาศตัดขาดกับพระเจ้าและติดตามซาตาน เมื่อได้ยินพระเจ้าทรงประเมินค่าโยบแล้วนั้น ความเดือดดาลจากการเหยียดหยามก็ได้เกิดขึ้นในตัวซาตาน และซาตานได้กลับกลายเป็นโกรธมากยิ่งขึ้นและร้อนรนมากยิ่งขึ้นที่จะฉกโยบไป เพราะซาตานไม่เคยเชื่อว่าใครบางคนจะสามารถเป็นคนดีพร้อมและเที่ยงตรงได้ หรือว่าพวกเขาจะสามารถยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่วได้ ในเวลาเดียวกันนั้น ซาตานก็เกลียดชังความเพียบพร้อมและความเที่ยงธรรมในตัวมนุษย์ และเกลียดผู้คนที่สามารถยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่วได้ ดังนั้นจึงมีบันทึกไว้ในโยบ 1:9-11 ว่า "แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า 'โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆ หรือ? พระองค์ไม่ได้ทรงกั้นรั้วรอบตัวเขา ครอบครัวของเขา และทุกสิ่งที่เขามีอยู่เสียทุกด้านหรือ? พระองค์ได้ทรงอวยพรงานที่มือเขาทำ และฝูงปศุสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน แต่ขอยื่นพระหัตถ์แตะต้องสิ่งของทั้งสิ้นที่เขามีอยู่ แล้วเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์'" พระเจ้าทรงคุ้นเคยใกล้ชิดกับธรรมชาติมุ่งร้ายของซาตาน และทรงรู้ดีอย่างเต็มที่ว่าซาตานได้วางแผนที่จะนำความล่มจมมาสู่โยบนานแล้ว และดังนั้น พระเจ้าจึงทรงปรารถนาในการนี้โดยผ่านทางการบอกกับซาตานอีกครั้งหนึ่งว่า โยบนั้นดีพร้อมและเที่ยงตรง และว่าเขายำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว เพื่อนำซาตานมาสู่แนว เพื่อทำให้ซาตานเผยโฉมหน้าแท้จริงของมัน และโจมตีและทดลองโยบ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พระเจ้าทรงเจตนาเน้นย้ำว่าโยบนั้นดีพร้อมและเที่ยงธรรม และว่าเขายำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว และด้วยวิธีการนี้เองพระเจ้าได้ทรงทำให้ซาตานโจมตีโยบเนื่องจากความเกลียดและโกรธแค้นที่ซาตานมีต่อลักษณะที่โยบเป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม ผู้ซึ่งยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว ผลก็คือ พระเจ้าจะนำพาความอับอายมาให้ซาตานโดยผ่านทางข้อเท็จจริงที่ว่าโยบเป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม ผู้ซึ่งยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว และซาตานคงจะจากไปด้วยความละอายใจและพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง หลังจากนั้น ซาตานคงจะไม่สงสัยหรือตั้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการที่โยบมีความดีพร้อม ความเที่ยงธรรม ความยำเกรงพระเจ้า หรือการหลบเลี่ยงความชั่วอีกต่อไป ในหนทางนี้ การทดสอบของพระเจ้าและการทดลองของซาตานแทบจะไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถทนทานการทดสอบของพระเจ้าและการทดลองของซาตานได้ก็คือโยบ หลังจากการโต้ตอบนี้ ซาตานก็ได้รับอนุญาตให้ทดลองโยบ ด้วยเหตุนี้ การโจมตีรอบแรกของซาตานจึงได้เริ่มต้นขึ้น เป้าหมายของการโจมตีเหล่านี้คือทรัพย์สินของโยบ เพราะซาตานได้ตั้งข้อกล่าวหาดังต่อไปนี้กับโยบ "โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆ หรือ?…พระองค์ได้ทรงอวยพรงานที่มือเขาทำ และฝูงปศุสัตว์ของเขาได้ทวีขึ้นในแผ่นดิน" ผลก็คือ พระเจ้าได้ทรงอนุญาตให้ซาตานเอาทุกอย่างที่โยบมี—นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงว่าเหตุใดพระเจ้าจึงได้ตรัสกับซาตาน อย่างไรก็ตาม พระเจ้าได้ทำข้อเรียกร้องหนึ่งจากซาตาน นั่นคือ "ทุกสิ่งที่เขามีก็อยู่ในมือของเจ้า เพียงแต่อย่ายื่นมือแตะต้องตัวเขา" (โยบ 1:12) นี่คือสภาพเงื่อนไขที่พระเจ้าทรงตั้งไว้หลังจากที่พระองค์ได้ทรงอนุญาตให้ซาตานทดลองโยบและได้ทรงวางโยบไว้ในมือของซาตานแล้ว และนี่คือขีดจำกัดที่พระองค์ได้ทรงกำหนดไว้สำหรับซาตาน กล่าวคือ พระองค์ได้ทรงสั่งซาตานไม่ให้ทำอันตรายโยบ เพราะพระเจ้าทรงระลึกได้ว่าโยบนั้นดีพร้อมและชอบธรรม และเพราะพระองค์ทรงมีความเชื่อว่าความดีพร้อมและความเที่ยงธรรมของโยบเฉพาะพระพักตร์พระองค์นั้นอยู่เหนือข้อสงสัยและสามารถทนทานต่อการถูกนำไปทดสอบได้ ดังนั้นพระเจ้าจึงได้ทรงอนุญาตให้ซาตานทดลองโยบ แต่ได้ทรงกำหนดข้อจำกัดหนึ่งกับซาตาน นั่นคือ ซาตานได้รับอนุญาตให้เอาทรัพย์สินทั้งหมดของโยบไป แต่มันไม่สามารถแตะต้องเขาได้ นี่หมายความว่าอย่างไร? มันหมายความว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงมอบโยบให้กับซาตานโดยสิ้นเชิงในขณะนั้น ซาตานสามารถทดลองโยบด้วยวิธีการใดก็ตามที่มันต้องการ แต่มันไม่สามารถทำอันตรายตัวของโยบเองได้—ไม่แม้แต่เส้นผมหนึ่งเส้นบนศีรษะของเขา—เพราะทุกสิ่งทุกอย่างของมนุษย์นั้นถูกควบคุมโดยพระเจ้า และเพราะการที่มนุษย์จะมีชีวิตหรือตายนั้นพระเจ้าคือผู้ทรงกำหนด ซาตานไม่มีใบอนุญาตนี้ หลังจากพระเจ้าได้ตรัสพระวจนะเหล่านี้กับซาตาน ซาตานก็ไม่สามารถรอที่จะเริ่มต้นได้ มันได้ใช้ทุกวิถีทางที่จะทดลองโยบ และไม่ช้าไม่นานโยบได้สูญเสียแกะและวัวที่มีค่าเท่าภูเขาและทรัพย์สินทั้งหมดที่พระเจ้าประทานให้เขาไป…ด้วยเหตุนี้ การทดสอบของพระเจ้าจึงได้ประสบกับเขา

ถึงแม้พระคัมภีร์จะบอกพวกเราถึงต้นกำเนิดของการทดลองโยบ ตัวโยบเองนั้น ผู้ซึ่งตกอยู่ภายใต้การทดลองเหล่านี้ตระหนักรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่หรือไม่? โยบเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชน แน่นอนว่าเขาไม่รู้สิ่งใดเลยเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคลี่คลายขึ้นรอบตัวเขา แต่ถึงอย่างไร ความยำเกรงพระเจ้าของเขาและความเพียบพร้อมกับความเที่ยงธรรมของเขาก็ทำให้เขาตระหนักว่าการทดสอบของพระเจ้าได้มาประสบกับเขาแล้ว เขาไม่รู้ว่าได้เกิดอะไรขึ้นในอาณาจักรฝ่ายวิญญาณ อีกทั้งไม่รู้ว่าเจตนารมณ์ของพระเจ้าที่อยู่เบื้องหลังการทดสอบนี้คืออะไร แต่เขารู้ว่าไม่ว่าอะไรได้เกิดขึ้นกับเขาก็ตาม เขาควรจะยึดมั่นกับความเพียบพร้อมและความเที่ยงธรรมของเขา และควรปฏิบัติตามหนทางแห่งการยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว พระเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นท่าทีและปฏิกิริยาของโยบต่อเรื่องเหล่านี้อย่างชัดเจน พระเจ้าทรงมองเห็นสิ่งใด? พระองค์ทรงมองเห็นความยำเกรงพระเจ้าของโยบ เพราะจากจุดเริ่มต้นตลอดมาจนกระทั่งถึงเวลาที่โยบถูกทดสอบนั้น หัวใจของโยบยังคงเปิดให้แก่พระเจ้า มันถูกวางไว้เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และโยบไม่ได้ประกาศตัดขาดกับความเพียบพร้อมหรือความเที่ยงธรรมของเขา อีกทั้งเขาไม่ได้ทิ้งขว้างหรือหันไปจากหนทางแห่งความยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว—ไม่มีสิ่งใดน่าอิ่มเอิบพระทัยสำหรับพระเจ้ามากไปกว่าการนี้

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 2

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger