สวีซ่งเอินเป็นผู้อาวุโสที่คริสตจักรบ้านแห่งหนึ่ง หลังจากยอมรับพระราชกิจแห่งยุคสุดท้ายของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์แล้ว เขาก็ประกาศข่าวประเสริฐนี้แก่ศิษยาภิบาลและเพื่อนร่วมงานของตนด้วยความกระตือรือร้น แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเจอกับการกล่าวโทษและการปฏิเสธจากคนเหล่านั้น สวีซ่งเอินเห็นว่าแก่นแท้ธรรมชาติของศิษยาภิบาลและผู้อาวุโสนั้นเกลียดชังและหน่ายต่อความจริง เขาจึงปลีกตัวออกจากศาสนาด้วยความแน่วแน่ หลังจากนั้นสวีซ่งเอินก็ตั้งใจเผยแผ่ข่าวประเสริฐและเป็นพยานแด่พระเจ้า และในเวลาเพียงครึ่งปี เขาก็พาผู้เชื่อที่อยู่ภายใต้การนำของเขามาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าได้นับหมื่นคน ด้วยเหตุนี้เอง สวีซ่งเอินจึงเผชิญกับความเป็นปฏิปักษ์จากศิษยาภิบาลในศาสนา ก่อนจะถูกแจ้งตำรวจและถูกจับไป ขณะรับโทษอยู่นั่น เขาได้พบกับผู้นำศาสนาคนหนึ่งที่ชื่อว่า หลี่มู่กวง ทั้งสองเข้าขากันได้ในทันที ทั้งยังคอยเกื้อหนุนและสามัคคีธรรมแก่กันอยู่เป็นประจำในคุก สวีซ่งเอินต้องการเป็นพยานยืนยันให้พระราชกิจแห่งยุคสุดท้ายของพระเจ้ากับหลี่มู่กวงอย่างมาก แต่ในเรือนจำนั้นพวกเขากลับถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิด และหลี่มู่กวงก็กำลังจะพ้นโทษและถูกปล่อยตัวอีกด้วย หลังจากที่คิดอย่างจริงจังสวีซ่งเอินก็ตัดสินใจเสี่ยง เขาตัดสินใจหนีออกจากคุกเพื่อไปเผยแผ่ข่าวประเสริฐแก่หลี่มู่กวง เขาจะหนีออกจากเรือนจำสำเร็จหรือไม่? เขาจะเผยแผ่และเป็นพยานยืนยันให้ข่าวประเสริฐแห่งยุคสุดท้ายของพระเจ้าต่อไปได้หรือไม่? ร่วมหาคำตอบได้ ในการเดินทางที่แสนอันตรายในการเผยแผ่ข่าวประเสริฐ