พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: พระราชกิจสามช่วงระยะ | บทตัดตอน 43

วันที่ 29 เดือน 01 ปี 2024

เมื่อพระเยซูเสด็จมาเพื่อทรงพระราชกิจของพระองค์ การนั้นอยู่ภายใต้การทรงชี้นำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงทำดังเช่นที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงต้องประสงค์ไว้ และมิได้เป็นไปตามยุคธรรมบัญญัติภาคพันธสัญญาเดิม หรือตามพระราชกิจของพระยาห์เวห์ ถึงแม้ว่าพระราชกิจที่พระเยซูเสด็จมาเพื่อกระทำนั้นมิได้ทรงปฏิบัติตามธรรมบัญญัติทั้งหลายของพระยาห์เวห์หรือพระบัญญัติทั้งหลายของพระยาห์เวห์ แต่ต้นกำเนิดของทั้งสองพระองค์เป็นอย่างหนึ่งและอย่างเดียวกัน พระราชกิจที่พระเยซูทรงกระทำได้เป็นตัวแทนพระนามของพระเยซู และมันเป็นตัวแทนยุคพระคุณ ส่วนพระราชกิจที่พระยาห์เวห์ทรงกระทำนั้น เป็นตัวแทนพระยาห์เวห์ และเป็นตัวแทนยุคธรรมบัญญัติ พระราชกิจของทั้งสองพระองค์คือพระราชกิจของพระวิญญาณหนึ่งเดียวในสองยุคที่แตกต่างกัน พระราชกิจที่พระเยซูทรงกระทำสามารถเป็นตัวแทนยุคพระคุณได้เท่านั้น และพระราชกิจที่พระยาห์เวห์ทรงกระทำสามารถเป็นตัวแทนยุคธรรมบัญญัติภาคพันธสัญญาเดิมได้เท่านั้น พระยาห์เวห์เพียงทรงนำประชากรแห่งอิสราเอลและแห่งอียิปต์ และประชาชาติทั้งหมดนอกเหนือจากอิสราเอลเท่านั้น พระราชกิจของพระเยซูในยุคพระคุณภาคพันธสัญญาใหม่นั้นคือพระราชกิจของพระเจ้าภายใต้พระนามของพระเยซูขณะที่พระองค์ได้ทรงนำยุคนั้น หากเจ้าพูดว่าพระราชกิจของพระเยซูมีพื้นฐานอยู่บนพระราชกิจของพระยาห์เวห์ ว่าพระองค์มิได้ทรงริเริ่มพระราชกิจใหม่ใด และว่าทั้งหมดที่พระองค์ได้ทรงกระทำนั้นเป็นไปตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ เป็นไปตามพระราชกิจของพระยาห์เวห์และคำเผยพระวจนะของอิสยาห์แล้วไซร้ พระเยซูก็คงจะมิได้ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ หากพระองค์ได้ประกอบพระราชกิจในหนทางนี้มาแล้ว พระองค์ก็คงจะทรงได้เป็นอัครทูตหรือคนงานแห่งยุคธรรมบัญญัติ หากมันเป็นดังเช่นที่เจ้าพูดแล้วไซร้ พระเยซูก็คงจะไม่ทรงสามารถเปิดตัวยุคหนึ่งได้ อีกทั้งพระองค์คงจะไม่ทรงสามารถกระทำพระราชกิจอื่นใดได้ ในหนทางเดียวกันนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ต้องทรงพระราชกิจของพระองค์โดยผ่านทางพระยาห์เวห์เป็นหลัก และนอกจากโดยผ่านทางพระยาห์เวห์แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็คงจะมิได้ทรงพระราชกิจใหม่ใดเลย มันไม่ถูกต้องที่มนุษย์จะเข้าใจพระราชกิจของพระเยซูในหนทางนี้ หากมนุษย์เชื่อว่าพระราชกิจที่พระเยซูทรงกระนำนั้นได้ถูกกระทำไปตามพระวจนะของพระยาห์เวห์และคำเผยพระวจนะของอิสยาห์แล้วไซร้ เช่นนั้นแล้ว พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าซึ่งจุติมาเป็นมนุษย์ หรือพระองค์ทรงเป็นหนึ่งในบรรดาผู้เผยพระวจนะทั้งหลายกันแน่? ตามมุมมองนี้ ก็คงจะไม่มียุคพระคุณ และพระเยซูก็คงจะมิใช่การจุติเป็นมนุษย์ของพระเจ้า เพราะพระราชกิจที่พระองค์ได้ทรงกระทำไม่สามารถเป็นตัวแทนยุคพระคุณได้ และสามารถเพียงเป็นตัวแทนยุคธรรมบัญญัติภาคพันธสัญญาเดิมเท่านั้น คงจะมียุคใหม่ก็เฉพาะเมื่อพระเยซูได้เสด็จมาเพื่อทรงพระราชกิจใหม่ เพื่อเปิดตัวยุคใหม่ เพื่อทรงพระราชกิจที่กระทำในอิสราเอลก่อนหน้านั้นให้สำเร็จ และเพื่อประกอบพระราชกิจที่ไม่สอดคล้องกับพระราชกิจที่พระยาห์เวห์ทรงเคยกระทำในอิสราเอล หรือกับกฎเกณฑ์เก่าๆ ของพระองค์ หรือที่ตรงกับกฎระเบียบใดๆ แต่เสด็จมาเพื่อทรงพระราชกิจใหม่ที่พระองค์ควรจะต้องกระทำมากกว่าเท่านั้น พระเจ้าพระองค์เองเสด็จมาเพื่อเปิดตัวยุคใหม่ และพระเจ้าพระองค์เองเสด็จมาเพื่อนำพายุคนั้นไปถึงบทอวสาน มนุษย์ไม่สามารถทำงานแห่งการเริ่มต้นยุคและการสรุปปิดตัวยุค หากพระเยซูมิได้ทรงนำพาพระราชกิจของพระยาห์เวห์ไปถึงบทอวสานหลังจากที่พระองค์เสด็จมา เช่นนั้นแล้ว นั่นคงจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าพระองค์ทรงเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งและไม่สามารถเป็นตัวแทนพระเจ้าได้ แน่นอนว่า เพราะพระเยซูได้เสด็จมาและสรุปปิดตัวพระราชกิจของพระยาห์เวห์ ได้ทรงสานต่อพระราชกิจของพระยาห์เวห์ และยิ่งไปกว่านั้น ได้ทรงดำเนินพระราชกิจของพระองค์เอง ซึ่งเป็นพระราชกิจใหม่ จึงพิสูจน์ให้เห็นว่านี่คือยุคใหม่ และว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าพระองค์เอง ทั้งสองพระองค์ได้ทรงพระราชกิจสองช่วงระยะที่แตกต่างกันอย่างชัดแจ้ง ช่วงระยะหนึ่งได้ดำเนินการขึ้นในพระวิหาร และอีกช่วงระยะหนึ่งได้ดำเนินการนอกพระวิหาร ช่วงระยะหนึ่งเป็นไปเพื่อนำทางชีวิตมนุษย์ตามธรรมบัญญัติ และอีกช่วงระยะหนึ่งเป็นไปเพื่อมอบถวายเครื่องบูชาลบล้างบาป พระราชกิจสองช่วงระยะนี้แตกต่างกันอย่างโดดเด่น การนี้แบ่งแยกยุคใหม่ออกจากยุคเก่า และมันถูกต้องที่สุดที่จะกล่าวว่าพวกมันเป็นสองยุคที่แตกต่างกัน ตำแหน่งแห่งหนของพระราชกิจของทั้งสองพระองค์ก็แตกต่าง และบริบทของพระราชกิจของทั้งสองพระองค์ก็แตกต่างกัน และวัตถุประสงค์ของพระราชกิจของทั้งสองพระองค์ก็แตกต่างกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว พวกมันก็สามารถแบ่งออกเป็นสองยุคได้ กล่าวคือ พันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม อีกนัยหนึ่งคือ ยุคใหม่และยุคเก่า เมื่อพระเยซูได้เสด็จมา พระองค์มิได้เสด็จไปยังพระวิหาร ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่ายุคของพระยาห์เวห์ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว พระองค์มิได้ทรงเข้าสู่พระวิหารเพราะพระราชกิจของพระยาห์เวห์ในพระวิหารได้เสร็จสิ้นไปแล้ว และไม่จำเป็นที่จะต้องกระทำอีกครั้ง และการทำอีกครั้งก็คงจะเป็นการทำมันซ้ำๆ มีเพียงการออกไปจากพระวิหาร การเริ่มต้นพระราชกิจใหม่ และการเปิดตัวเส้นทางใหม่ภายนอกพระวิหารเท่านั้น ที่พระองค์จะทรงสามารถนำพาพระราชกิจของพระเจ้าไปสู่จุดสุดยอดของมันได้ หากพระองค์มิได้เสด็จออกไปจากพระวิหารเพื่อทรงพระราชกิจของพระองค์ พระราชกิจของพระเจ้าก็คงจะคั่งค้างอยู่บนรากฐานทั้งหลายของพระวิหาร และคงจะไม่มีวันได้เป็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ใดๆ เลย และดังนั้น เมื่อพระเยซูได้เสด็จมา พระองค์มิได้ทรงเข้าสู่พระวิหาร และมิได้ทรงพระราชกิจในพระวิหาร พระองค์ทรงพระราชกิจของพระองค์ภายนอกพระวิหาร และทรงนำทางสาวกทั้งหลาย ทรงเริ่มพระราชกิจของพระองค์โดยอิสระ การที่พระเจ้าเสด็จออกจากพระวิหารเพื่อทรงพระราชกิจของพระองค์หมายความว่าพระเจ้าทรงมีแผนใหม่ พระราชกิจของพระองค์จะต้องมีการดำเนินการภายนอกพระวิหาร และมันจะต้องเป็นพระราชกิจใหม่ที่ไม่มีเงื่อนไขในลักษณะของการนำมันไปปฏิบัติ ทันทีที่พระเยซูเสด็จมาถึง พระองค์ได้ทรงนำพาพระราชกิจของพระยาห์เวห์ในระหว่างยุคของพันธสัญญาเดิมไปถึงบทอวสาน ถึงแม้ว่าทั้งสองพระองค์ทรงได้รับการเรียกขานโดยสองพระนามที่แตกต่างกัน แต่นั่นคือพระวิญญาณเดียวกันที่ทำให้พระราชกิจทั้งสองช่วงระยะสำเร็จลุล่วงไป และพระราชกิจที่ได้กระทำไปนั้นได้ดำเนินต่อเนื่องไป เมื่อพระนามแตกต่างกัน และเนื้อหาของพระราชกิจแตกต่างกัน ยุคก็แตกต่างกัน เมื่อพระยาห์เวห์ได้เสด็จมา นั่นคือยุคของพระยาห์เวห์ และเมื่อพระเยซูได้เสด็จมา นั่นก็คือยุคของพระเยซู และดังนั้น ด้วยการเสด็จมาแต่ละครั้ง พระเจ้าทรงได้รับการเรียกขานโดยพระนามหนึ่ง พระองค์ทรงแทนยุคหนึ่ง และพระองค์ทรงเปิดตัวเส้นทางใหม่ และในเส้นทางใหม่แต่ละเส้นทางนั้น พระองค์ทรงรับเอาชื่อใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงใหม่อยู่เสมอและไม่มีวันเก่า และแสดงให้เห็นว่าพระราชกิจของพระองค์ไม่มีวันหยุดก้าวหน้าไปในทิศทางข้างหน้า ประวัติศาสตร์กำลังเคลื่อนไปข้างหน้าอยู่เสมอ และพระราชกิจของพระเจ้าก็กำลังเคลื่อนไปข้างหน้า แผนการบริหารจัดการหกพันปีของพระองค์ต้องก้าวหน้าไปในทิศทางข้างหน้าต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้มันไปถึงบทอวสานของมัน แต่ละวันพระองค์ต้องทรงพระราชกิจใหม่ แต่ละปีพระองค์ต้องทรงพระราชกิจใหม่ พระองค์ทรงต้องเปิดตัวเส้นทางใหม่ๆ เปิดตัวศักราชใหม่ๆ เริ่มต้นพระราชกิจที่ใหม่และยิ่งใหญ่ขึ้น และทรงนำพระนามใหม่ๆ และพระราชกิจใหม่มาพร้อมกับสิ่งเหล่านี้

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, นิมิตแห่งพระราชกิจของพระเจ้า (3)

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger