พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระราชกิจของพระเจ้า | บทตัดตอน 231

วันที่ 29 เดือน 11 ปี 2023

อาจกล่าวได้ว่าถ้อยดำรัสทั้งมวลของวันนี้เผยวจนะถึงเรื่องอนาคต ถ้อยดำรัสเหล่านี้คือวิธีที่พระเจ้าทรงจัดการเตรียมการพระราชกิจขั้นตอนถัดไปของพระองค์ พระเจ้าเกือบจะแล้วเสร็จพระราชกิจของพระองค์ในผู้คนแห่งคริสตจักร และหลังจากนั้นพระองค์ก็จะทรงปรากฏต่อหน้าผู้คนทั้งหมดด้วยความเดือดดาล ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า "เราจะทำให้ผู้คนบนแผ่นดินโลกยอมรับรู้การกระทำของเรา และกิจการของเราจะได้รับการพิสูจน์เบื้องหน้า 'บัลลังก์พิพากษา' เพื่อที่สิ่งเหล่านั้นอาจเป็นที่รับรู้ท่ามกลางผู้คนทั่วแผ่นดินโลก ซึ่งทุกคนย่อมจะยอมจำนน" เจ้ามองเห็นบางสิ่งในพระวจนะเหล่านี้หรือไม่? ในนี้คือบทสรุปพระราชกิจส่วนถัดไปของพระเจ้า ก่อนอื่นพระเจ้าจะทรงทำให้สุนัขเฝ้ายามทั้งหมดที่กุมอำนาจทางการเมืองนั้นปักใจเชื่ออย่างจริงใจ และพระองค์จะทรงทำให้พวกมันก้าวถอยลงจากเวทีแห่งประวัติศาสตร์ด้วยความสมัครใจของพวกมันเอง ไม่มีวันต่อสู้เพื่อสถานะอีก และไม่มีวันมีส่วนร่วมในกลอุบายและแผนร้ายอีก พระราชกิจนี้ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยผ่านทางพระเจ้า ด้วยการยกระดับความวิบัตินานาบนแผ่นดินโลก แต่ไม่ใช่กรณีที่ว่าพระเจ้าจะปรากฏพระองค์แต่อย่างใด ณ เวลานี้ ประเทศของพญานาคใหญ่สีแดงจะยังคงเป็นแผ่นดินแห่งความโสมม และดังนั้นพระเจ้าจึงจะไม่ปรากฏพระองค์ แต่เพียงจะทรงออกมาในรูปของการตีสอนเท่านั้น เช่นนั้นคือพระอุปนิสัยอันชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถหลีกหนีได้ ในระหว่างเวลานี้ พวกที่อาศัยอยู่ในประเทศของพญานาคใหญ่สีแดงทั้งหมดจะทนทุกข์กับหายนะ ซึ่งย่อมรวมเอาราชอาณาจักรบนแผ่นดินโลก (คริสตจักร) ไว้ด้วยเป็นธรรมดา แน่นอนว่านี่คือเวลาที่ข้อเท็จจริงจะปรากฏออกมา และดังนั้นผู้คนทั้งหมดย่อมผ่านประสบการณ์กับช่วงเวลานี้ และไม่มีผู้ใดสามารถหลีกหนีได้ พระเจ้าได้ทรงลิขิตการนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว แน่นอนว่าเป็นเพราะพระราชกิจขั้นตอนนี้นี่เองที่พระเจ้าตรัสว่า "บัดนี้เป็นเวลาที่จะดำเนินแผนการอันยิ่งใหญ่ให้เสร็จสิ้น" เนื่องจากในอนาคตจะไม่มีคริสตจักรบนแผ่นดินโลก และเพราะการมาถึงของมหันตภัย ผู้คนจึงสามารถคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเท่านั้น และจะเพิกเฉยต่อสิ่งอื่นทุกสิ่ง และจะเป็นการลำบากยากเย็นสำหรับพวกเขาที่จะชื่นชมพระเจ้าท่ามกลางมหันตภัย ด้วยเหตุนั้น ผู้คนจึงได้รับการขอให้รักพระเจ้าด้วยหัวใจทั้งดวงของพวกเขาในระหว่างเวลาที่น่าอัศจรรย์นี้ เพื่อให้พวกเขาไม่พลาดโอกาส เมื่อข้อเท็จจริงนี้ผ่านพ้น พระเจ้าก็จะทรงทำให้พญานาคใหญ่สีแดงพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงไปแล้ว และด้วยเหตุนั้นงานแห่งคำพยานของประชากรของพระเจ้าก็จะมาถึงบทอวสาน หลังจากนั้น พระเจ้าจะทรงตั้งต้นพระราชกิจขั้นตอนถัดไป โดยทำลายประเทศของพญานาคใหญ่สีแดง และตอกตรึงผู้คนทั่วทั้งจักรวาลแบบห้อยหัวลงบนกางเขนในท้ายที่สุด ซึ่งหลังจากนั้นพระองค์จะทรงทำลายล้างมวลมนุษย์ทั้งปวง—เหล่านี้คือขั้นตอนในอนาคตแห่งพระราชกิจของพระเจ้า ด้วยเหตุนั้น พวกเจ้าควรพยายามอย่างสุดความสามารถของพวกเจ้าที่จะรักพระเจ้าในสภาพแวดล้อมที่เปี่ยมสันติสุขนี้ ในอนาคตเจ้าจะไม่มีโอกาสที่จะรักพระเจ้าอีกแล้ว เพราะผู้คนมีโอกาสที่จะรักพระเจ้าเฉพาะในเนื้อหนังเท่านั้น เมื่อพวกเขาดำรงชีวิตในอีกโลกหนึ่ง จะไม่มีผู้ใดพูดถึงการรักพระเจ้า นี่ไม่ใช่ความรับผิดชอบของสิ่งมีชีวิตทรงสร้างหรอกหรือ? และดังนั้นพวกเจ้าควรรักพระเจ้าอย่างไรในระหว่างวันเวลาแห่งชีวิตของพวกเจ้า? เจ้าเคยนึกถึงการนี้หรือไม่? เจ้ากำลังรอคอยจวบจนหลังจากที่เจ้าตายจึงจะรักพระเจ้ากระนั้นหรือ? นี่ไม่ใช่การพูดที่ว่างเปล่าหรอกหรือ? ในวันนี้ เหตุใดเจ้าจึงไม่ไล่ตามเสาะหาการรักพระเจ้าเล่า? การรักพระเจ้าขณะที่ยังคงมีธุระยุ่งนั้นสามารถเป็นความรักพระเจ้าอันแท้จริงได้หรือ? สาเหตุที่มีการพูดว่าพระราชกิจขั้นตอนนี้ของพระเจ้าจะมาถึงบทอวสานในไม่ช้าเป็นเพราะพระเจ้าทรงมีคำพยานต่อหน้าซาตานแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความจำเป็นให้มนุษย์ต้องทำสิ่งใด มนุษย์เพียงถูกขอให้ไล่ตามเสาะหาการรักพระเจ้าในช่วงเวลาหลายปีที่เขามีชีวิตอยู่เท่านั้น—นี่คือกุญแจ เนื่องจากข้อพึงประสงค์ของพระเจ้าไม่ได้สูงส่ง และยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากมีความวิตกกังวลที่เผาไหม้อยู่ในพระทัยของพระองค์ พระองค์จึงทรงเปิดเผยบทสรุปของพระราชกิจขั้นตอนถัดไปก่อนที่พระราชกิจขั้นตอนนี้จะแล้วเสร็จ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีเวลาอยู่เท่าใด หากพระเจ้าไม่กระวนกระวายพระทัย พระองค์จะตรัสพระวจนะเหล่านี้แต่เนิ่นๆ เช่นนี้หรือ? เป็นเพราะมีเวลาน้อย พระเจ้าจึงทรงพระราชกิจในหนทางนี้ เป็นที่หวังกันว่าพวกเจ้าจะสามารถรักพระเจ้าอย่างสุดหัวใจของพวกเจ้า อย่างสุดจิตใจของพวกเจ้า และด้วยพละกำลังทั้งหมดของพวกเจ้า เช่นเดียวกับที่พวกเจ้าทะนุถนอมชีวิตของพวกเจ้าเอง นี่ไม่ใช่ชีวิตที่มีความหมายที่สุดหรอกหรือ? เจ้าจะสามารถพบเจอความหมายของชีวิตได้จากที่อื่นใดอีก? เจ้าไม่ได้กำลังมืดบอดเหลือเกินอยู่หรอกหรือ? เจ้าเต็มใจที่จะรักพระเจ้าหรือไม่? พระเจ้าทรงควรค่าแก่ความรักของมนุษย์หรือไม่? ผู้คนควรค่าแก่การรักใคร่บูชาของมนุษย์หรือไม่? ดังนั้นแล้ว เจ้าควรทำสิ่งใด? จงรักพระเจ้าอย่างกล้าหาญ โดยไม่มีเงื่อนไข และมองให้เห็นว่าพระเจ้าจะทรงทำสิ่งใดกับเจ้า จงมองดูว่าพระองค์จะทรงสังหารเจ้าหรือไม่ โดยสรุปแล้ว ภารกิจแห่งการรักพระเจ้าสำคัญกว่าการคัดลอกและการจดบันทึกสิ่งทั้งหลายเพื่อพระเจ้า เจ้าควรให้สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่อันดับแรก เพื่อที่ชีวิตของเจ้าอาจมีคุณค่ามากขึ้นและเต็มไปด้วยความสุข แล้วจากนั้นเจ้าควรรอคอย "การตัดสินโทษ" ที่พระเจ้าจะทรงมีต่อเจ้า เรากังขาว่าแผนการของเจ้าจะรวมถึงการรักพระเจ้าด้วยหรือไม่ เราปรารถนาให้แผนการของทุกคนกลายเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงทำให้ครบบริบูรณ์ และให้แผนการทั้งหมดนั้นกลายเป็นจริง

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, การตีความความล้ำลึกต่างๆ แห่ง “พระวจนะของพระเจ้าถึงทั้งจักรวาล” บทที่ 42

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger