พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระราชกิจของพระเจ้า | บทตัดตอน 182

วันที่ 22 เดือน 12 ปี 2023

จะว่าไปแล้ว พระราชกิจของพระเจ้าแตกต่างจากงานของมนุษย์ และยิ่งไปกว่านั้น การแสดงออกทั้งหลายของพระองค์จะสามารถเป็นเหมือนกับการแสดงออกของพวกเขาได้อย่างไร? พระเจ้ามีพระอุปนิสัยเฉพาะของพระองค์เอง ในขณะที่มนุษย์มีหน้าที่ที่พวกเขาควรที่จะทำให้ลุล่วง พระอุปนิสัยของพระเจ้าแสดงออกในพระราชกิจของพระองค์ ในขณะที่หน้าที่ของมนุษย์จำแลงรูปอยู่ในประสบการณ์ทั้งหลายของมนุษย์และแสดงออกในการไล่ตามเสาะหาของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นที่ชัดเจนว่าบางสิ่งบางอย่างคือการแสดงออกของพระเจ้าหรือการแสดงออกของมนุษย์โดยผ่านทางพระราชกิจที่ทำลงไป พระราชกิจไม่จำเป็นต้องได้รับการอธิบายโดยพระเจ้าพระองค์เอง อีกทั้งไม่พึงต้องมีมนุษย์มาเพียรพยายามเป็นพยานให้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่จำเป็นต้องให้พระเจ้าพระองค์เองข่มปรามบุคคลใดๆ ทั้งหมดนี้ย่อมมาในฐานะวิวรณ์ตามธรรมชาติ ไม่ได้ถูกบังคับและไม่ใช่บางสิ่งบางอย่างที่มนุษย์สามารถแทรกแซงได้ หน้าที่ของมนุษย์สามารถรับรู้ได้โดยผ่านทางประสบการณ์ของพวกเขา และไม่ได้พึงต้องให้ผู้คนทำงานเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ แก่นแท้ทั้งหมดของมนุษย์สามารถถูกเปิดเผยในยามที่พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ของตน ขณะที่พระเจ้าสามารถแสดงพระอุปนิสัยในเนื้อแท้ของพระองค์ในยามที่ทรงปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์ หากเป็นงานของมนุษย์ เช่นนั้นแล้วก็ย่อมไม่สามารถถูกปกปิดได้มิด หากเป็นพระราชกิจของพระเจ้า เช่นนั้นแล้วก็ย่อมเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ที่พระอุปนิสัยของพระเจ้าจะถูกผู้ใดปิดบังได้ นับประสาอะไรที่จะถูกมนุษย์ควบคุม ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถถูกระบุได้ว่าเป็นพระเจ้า และงานและคำพูดของพวกเขาก็ไม่สามารถถูกมองได้ว่าศักดิ์สิทธิ์หรือถูกพิจารณาได้ว่ามิอาจเปลี่ยนแปลง ส่วนพระเจ้าอาจถูกระบุได้ว่าเป็นมนุษย์เพราะพระองค์ได้ทรงสวมเนื้อหนังให้กับพระองค์เอง แต่พระราชกิจของพระองค์มิอาจถูกพิจารณาได้ว่าเป็นงานของมนุษย์หรือหน้าที่ของมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้อยดำรัสของพระเจ้าและจดหมายของเปาโลก็มิอาจนำมาเทียบว่าทัดเทียมกันได้ อีกทั้งการพิพากษาและการตีสอนของพระเจ้าและคำพูดสั่งสอนของมนุษย์ก็ไม่อาจนำมาพูดถึงว่าเท่าเทียมกันได้ ดังนั้น จึงมีหลักการต่างๆ ที่แยกความต่างระหว่างพระราชกิจของพระเจ้ากับงานของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ได้รับการแยกแยะตามแก่นแท้ต่างๆ ของตัวเอง ไม่ใช่ตามวงเขตของงานหรือความมีประสิทธิภาพชั่วคราวของงาน เกี่ยวกับหัวข้อนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ทำผิดพลาดในด้านหลักการ นี่เป็นเพราะมนุษย์มองดูที่ภายนอก อันเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถสัมฤทธิ์ได้ ในขณะที่พระเจ้าทอดพระเนตรที่แก่นแท้ ซึ่งไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเนื้อของมวลมนุษย์ หากเจ้าถือว่าพระวจนะและพระราชกิจของพระเจ้าเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทั่วไป และมองว่างานขนาดใหญ่ของมนุษย์เป็นพระราชกิจของพระเจ้าซึ่งทรงสวมใส่เนื้อหนังเอาไว้ แทนที่จะเป็นหน้าที่ที่มนุษย์ทำให้ลุล่วง เช่นนั้นแล้วเจ้าไม่ใช่เข้าใจหลักการผิดหรอกหรือ? จดหมายและชีวประวัติทั้งหลายของมนุษย์สามารถเขียนขึ้นได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่ต้องอยู่บนรากฐานของพระราชกิจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถ้อยดำรัสและพระราชกิจของพระเจ้าไม่สามารถสำเร็จลุล่วงได้อย่างง่ายดายโดยมนุษย์หรือสัมฤทธิ์ได้โดยสติปัญญาและการคิดของมนุษย์ อีกทั้งผู้คนก็ไม่สามารถอธิบายถ้อยดำรัสและพระราชกิจของพระเจ้าได้อย่างถ้วนทั่วหลังจากที่ได้สำรวจสิ่งเหล่านั้นแล้ว หากเรื่องเกี่ยวกับหลักการเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาใดๆ ในตัวพวกเจ้า เช่นนั้นแล้วก็เป็นที่ชัดเจนว่าความเชื่อของพวกเจ้านั้นไม่แท้จริงอย่างยิ่งหรือไม่ได้รับการถลุง อาจกล่าวได้แค่เพียงว่าความเชื่อของพวกเจ้าเต็มไปด้วยความคลุมเครือ และทั้งสับสนงุนงงและไร้ซึ่งหลักการ หากปราศจากความเข้าใจแม้กระทั่งประเด็นปัญหาสำคัญในระดับพื้นฐานที่สุดเกี่ยวกับพระเจ้าและมนุษย์แล้ว ความเชื่อแบบนี้ไม่นับว่าเป็นความเชื่อที่ขาดพร่องความสามารถในการล่วงรู้การต่างๆ อย่างสิ้นเชิงหรอกหรือ?

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, เจ้ามีจุดยืนว่าด้วยจดหมายฝาก 13 ฉบับอย่างไร?

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger