พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระราชกิจของพระเจ้า | บทตัดตอน 160

วันที่ 29 เดือน 12 ปี 2023

ในปฐมกาล หลังการทรงสร้างมวลมนุษย์ เป็นคนอิสราเอลที่ทำหน้าที่เป็นพื้นฐานของพระราชกิจของพระเจ้า ประเทศอิสราเอลทั้งหมดเป็นฐานของพระราชกิจของพระยาห์เวห์บนแผ่นดินโลก พระราชกิจของพระยาห์เวห์คือการนำทางและเป็นผู้เลี้ยงแก่มนุษย์โดยตรงด้วยการกำหนดธรรมบัญญัติ เพื่อให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตที่ปกติและนมัสการพระยาห์เวห์ในลักษณะที่ปกติบนแผ่นดินโลก พระเจ้าในยุคธรรมบัญญัติไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้โดยมนุษย์ เพราะทั้งหมดที่พระองค์ทรงทำคือการทรงนำผู้คนพวกแรกสุดที่ถูกซาตานทำให้เสื่อมทราม โดยการสั่งสอนและเป็นผู้เลี้ยงแก่พวกเขา พระวจนะของพระองค์จึงไม่ได้บรรจุอะไรไว้นอกจากธรรมบัญญัติ กฎเกณฑ์ และบรรทัดฐานของความประพฤติมนุษย์ และไม่ได้ให้ความจริงของชีวิตแก่พวกเขา คนอิสราเอลภายใต้การนำของพระองค์ไม่ได้ถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามอย่างถลำลึก พระราชกิจแห่งธรรมบัญญัติของพระองค์เป็นเพียงช่วงระยะแรกสุดในพระราชกิจแห่งความรอด จุดเริ่มต้นอย่างแท้จริงของพระราชกิจแห่งความรอด และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องอย่างแท้จริงกับการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นในช่วงเริ่มต้นของพระราชกิจแห่งความรอดที่พระองค์จะทรงยอมรับสภาพเนื้อหนังสำหรับพระราชกิจของพระองค์ในประเทศอิสราเอล นี่คือเหตุผลที่พระองค์ทรงต้องการสื่อกลาง—เครื่องมือสักชิ้น—ที่จะใช้เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับมนุษย์ ดังนั้น ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตทรงสร้างจึงมีผู้ที่พูดและทำงานในพระนามของพระยาห์เวห์ลุกขึ้นมา ซึ่งเป็นวิธีที่บรรดาบุตรมนุษย์และผู้เผยพระวจนะได้มาทำงานท่ามกลางมนุษย์ บรรดาบุตรมนุษย์ทำงานท่ามกลางมนุษย์ในพระนามของพระยาห์เวห์ การถูกพระยาห์เวห์ทรงเรียกว่า "บุตรมนุษย์" นั้นหมายความว่าผู้คนเช่นนี้ได้กำหนดธรรมบัญญัติในพระนามของพระยาห์เวห์ พวกเขาเป็นปุโรหิตท่ามกลางผู้คนของประเทศอิสราเอลอีกด้วย ปุโรหิตที่พระยาห์เวห์ทรงคอยปกป้องและคุ้มครอง และซึ่งพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ทรงพระราชกิจในพวกเขา พวกเขาเป็นผู้นำท่ามกลางผู้คน และรับใช้พระยาห์เวห์โดยตรง ในทางกลับกัน ผู้เผยพระวจนะได้อุทิศตนเพื่อการพูดในพระนามของพระยาห์เวห์ต่อผู้คนของทุกแผ่นดินและชนเผ่า พวกเขาทำนายพระราชกิจของพระยาห์เวห์อีกด้วย ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นบุตรมนุษย์หรือผู้เผยพระวจนะ ทั้งหมดได้รับการยกขึ้นโดยพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ด้วยพระองค์เองและมีพระราชกิจของพระยาห์เวห์ในพวกเขา ท่ามกลางผู้คน พวกเขาคือผู้ที่เป็นตัวแทนโดยตรงของพระยาห์เวห์ พวกเขาทำงานของพวกเขาเพียงเพราะพวกเขาได้รับการยกขึ้นโดยพระยาห์เวห์ และไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นเนื้อหนังที่พระวิญญาณบริสุทธิ์พระองค์เองทรงจุติมาเป็น ดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะพูดและทำงานคล้ายคลึงกันในพระนามของพระเจ้า บุตรมนุษย์และผู้เผยพระวจนะเหล่านั้นในยุคธรรมบัญญัติจึงไม่ใช่เนื้อหนังของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ พระราชกิจของพระเจ้าในยุคพระคุณและช่วงระยะสุดท้ายนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะพระราชกิจแห่งความรอดและการพิพากษาของมนุษย์นั้นพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์พระองค์เองทรงทำทั้งคู่ และดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นอย่างใดเลยที่จะยกผู้เผยพระวจนะและบุตรมนุษย์ขึ้นอีกครั้งเพื่อทำงานในพระนามของพระองค์ ในสายตามนุษย์ ไม่มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเนื้อแท้และวิธีการทำงานของพวกเขา และด้วยเหตุผลนี้ ผู้คนจึงสับสนเป็นนิตย์ระหว่างพระราชกิจของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์กับงานของบรรดาผู้เผยพระวจนะและบุตรมนุษย์ การทรงปรากฏของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์โดยพื้นฐานแล้วก็เหมือนกับการปรากฏของผู้เผยพระวจนะและบุตรมนุษย์ และพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ยิ่งปกติกว่าและเป็นจริงกว่าผู้เผยพระวจนะ ดังนั้น มนุษย์จึงไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างพวกเขาได้ มนุษย์มุ่งเน้นไปยังสิ่งที่ปรากฏทั้งหมดโดยไม่ตระหนักรู้อย่างสิ้นเชิงว่า แม้ว่าทั้งสองเหมือนกันในการดำรงอยู่ การทำงานและการพูด แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพวกเขา เนื่องจากความสามารถของมนุษย์ในการแยกแยะสิ่งต่างๆ อ่อนด้อยเกินไป เขาจึงไร้ความสามารถที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างปัญหาง่ายๆ ได้ ยิ่งสิ่งที่ซับซ้อนมากๆ ยิ่งไม่ได้เลย เมื่อผู้เผยพระวจนะและบรรดาผู้คนที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงใช้ได้พูดและได้ทำงาน นี่คือการปฏิบัติหน้าที่ของมนุษย์ มันคือการรับใช้ภารกิจของสิ่งมีชีวิตทรงสร้าง และมันเป็นบางสิ่งที่มนุษย์ควรจะทำ อย่างไรก็ตาม พระวจนะและพระราชกิจของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ก็คือการดำเนินการพันธกิจของพระองค์ แม้ว่ารูปสัณฐานภายนอกของพระองค์เป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตทรงสร้าง แต่พระราชกิจของพระองค์ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ของพระองค์แต่เป็นพันธกิจของพระองค์ คำว่า "หน้าที่" ถูกนำมาใช้ในส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทรงสร้าง ในขณะที่ "พันธกิจ" ถูกนำมาใช้ในส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหนังของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างทั้งสอง ซึ่งทั้งสองไม่สามารถเปลี่ยนที่กันได้ งานของมนุษย์เป็นเพียงการทำหน้าที่ของเขา ในขณะที่พระราชกิจของพระเจ้าคือการบริหารจัดการและการดำเนินการพันธกิจของพระองค์ ดังนั้น แม้ว่าอัครทูตหลายท่านได้ถูกพระวิญญาณบริสุทธิ์ใช้และผู้เผยพระวจนะหลายท่านก็เต็มเปี่ยมด้วยพระองค์ งานและคำพูดของพวกเขาเป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขาในฐานะสิ่งมีชีวิตทรงสร้าง คำพยากรณ์ของพวกเขาอาจเกินเลยวิถีชีวิตที่พระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ได้ตรัสถึง และสภาวะความเป็นมนุษย์ของพวกเขาอาจอยู่เหนือกว่าสภาวะความเป็นมนุษย์ของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ แต่พวกเขาก็ยังคงทำหน้าที่ของพวกเขา และไม่ได้กำลังดำเนินการพันธกิจให้ลุล่วง หน้าที่ของมนุษย์อ้างถึงภารกิจของมนุษย์ เป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถบรรลุได้ อย่างไรก็ตาม พันธกิจที่พระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ทรงดำเนินการนั้นเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการของพระองค์ และนี่ไม่สามารถบรรลุได้โดยมนุษย์ ไม่ว่าพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์จะตรัส ทรงพระราชกิจ หรือทรงสำแดงการมหัศจรรย์ พระองค์กำลังทรงพระราชกิจยิ่งใหญ่ท่ามกลางการบริหารจัดการของพระองค์ และพระราชกิจเช่นนี้มนุษย์ไม่สามารถทำแทนพระองค์ได้ งานของมนุษย์เป็นเพียงการทำหน้าที่ของเขาในฐานะสิ่งมีชีวิตทรงสร้างในช่วงระยะใดช่วงระยะหนึ่งของพระราชกิจการบริหารจัดการของพระเจ้า หากไม่มีการบริหารจัดการของพระเจ้า กล่าวคือ หากพันธกิจของพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ต้องสูญหายไป หน้าที่ของสิ่งมีชีวิตทรงสร้างก็จะสูญหายไป พระราชกิจของพระเจ้าในการดำเนินการพันธกิจของพระองค์คือการบริหารจัดการมนุษย์ ในขณะที่การปฏิบัติหน้าที่ของมนุษย์คือการทำให้ภาระผูกพันของเขาเองลุล่วงเพื่อสนองตอบข้อเรียกร้องของพระผู้สร้าง และไม่มีทางสามารถถือได้ว่าเป็นการดำเนินการพันธกิจของผู้ใด สำหรับแก่นแท้โดยธรรมชาติของพระเจ้า—สำหรับพระวิญญาณของพระองค์—พระราชกิจของพระเจ้าคือการบริหารจัดการของพระองค์ แต่สำหรับพระเจ้าผู้ทรงจุติเป็นมนุษย์ที่ทรงสวมรูปสัญฐานภายนอกของสิ่งมีชีวิตทรงสร้าง พระราชกิจของพระองค์คือการดำเนินการพันธกิจของพระองค์ พระราชกิจใดๆ ก็ตามที่พระองค์ทรงทำก็คือการดำเนินการพันธกิจของพระองค์ ทั้งหมดที่มนุษย์สามารถทำได้คือทำให้ดีที่สุดภายในขอบเขตการบริหารจัดการของพระเจ้าและภายใต้การทรงนำของพระองค์

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, ความแตกต่างระหว่างพันธกิจของพระเจ้าผู้ทรงปรากฏในรูปมนุษย์และหน้าที่ของมนุษย์

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

วิดีโอประเภทอื่นๆ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger