พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 152

วันที่ 29 เดือน 02 ปี 2024

ซาตานใช้หลายวิธีการเหล่านี้เพื่อทำให้มนุษย์เสื่อมทราม มนุษย์มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทางวิทยาศาสตร์บางอย่าง มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่ภายใต้อิทธิพลของวัฒนธรรมตามประเพณี และมนุษย์ทุกคนเป็นผู้รับมรดกและผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรมตามประเพณี มนุษย์ถูกผูกมัดให้ต้องดำเนินวัฒนธรรมตามประเพณีที่ซาตานมอบให้เขานี้ต่อไป และมนุษย์ยังปฏิบัติตามกระแสนิยมทางสังคมที่ซาตานจัดเตรียมให้แก่มวลมนุษย์อีกด้วย มนุษย์ไม่สามารถแยกจากซาตานได้ ปฏิบัติตามทุกอย่างที่ซาตานทำอยู่ตลอดเวลา โดยยอมรับความชั่ว การหลอกลวง ความคิดร้าย และความโอหังของมัน ทันทีที่มนุษย์ได้มาครองอุปนิสัยเหล่านี้ของซาตาน เขามีความสุขหรือเศร้าโศกที่ได้มาดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์ที่เสื่อมทรามนี้? (โศกเศร้า) เหตุใดเจ้าจึงกล่าวเช่นนั้นเล่า? (เพราะมนุษย์ถูกมัดและควบคุมโดยสิ่งทั้งหลายที่เสื่อมทรามเหล่านี้ เขาใช้ชีวิตอยู่ในบาปและชีวิตของเขาถูกโอบล้อมอยู่ในการต่อสู้ดิ้นรนที่ยากลำเค็ญ) ผู้คนบางคนสวมแว่นสายตา โดยมีลักษณะภายนอกเป็นผู้มีภูมิปัญญาอย่างยิ่ง พวกเขาอาจพูดอย่างน่านับถือยิ่งนัก มีวาทศิลป์และเหตุผล และเนื่องจากพวกเขาได้ก้าวผ่านสิ่งทั้งหลายมามากมาย พวกเขาอาจมีประสบการณ์และทันสมัยอย่างมาก พวกเขาอาจมีความสามารถที่จะพูดในรายละเอียดของเรื่องทั้งหลายทั้งใหญ่และเล็กได้ ทั้งพวกเขายังอาจจะมีความสามารถที่จะประเมินความน่าเชื่อถือและให้เหตุผลสิ่งทั้งหลายด้วยเช่นกัน บางคนอาจจะมองดูที่พฤติกรรมและการปรากฏของผู้คนเหล่านี้ ตลอดจนบุคลิกลักษณะ สภาวะความเป็นมนุษย์ การประพฤติ และอื่นๆ ของพวกเขา และพบว่าพวกเขาไม่มีข้อผิดพลาดเลย ผู้คนเช่นนั้นมีความสามารถเป็นพิเศษในการปรับตัวให้เข้ากับกระแสนิยมทางสังคมปัจจุบัน ถึงแม้ว่าผู้คนเหล่านี้อาจสูงวัย พวกเขาก็ไม่เคยล้าหลังกระแสนิยมทั้งหลายของยุคนั้นและไม่เคยแก่เกินเรียน เมื่อมองผิวเผิน ไม่มีผู้ใดสามารถพบข้อผิดพลาดในบุคคลเช่นนี้ได้ แต่ทว่าภายในพวกเขาถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามอย่างถึงที่สุดและโดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถพบข้อผิดพลาดภายนอกจากผู้คนเหล่านี้ได้ ถึงแม้ว่าบนเปลือกนอกนั้นพวกเขาเป็นคนสุภาพ ได้รับการถลุง และครองความรู้และความมีศีลธรรมเฉพาะอย่าง และพวกเขามีความสัตย์สุจริต และถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีทางด้อยกว่าผู้คนรุ่นเยาว์ในด้านของความรู้ ทว่าในแง่ของธรรมชาติและธาตุแท้ของพวกเขา ผู้คนเช่นนี้เป็นแบบอย่างอันสมบูรณ์และมีชีวิตของซาตาน พวกเขาเป็นสำเนาถูกต้องของซาตาน นี่คือ "ดอกผล" ของการที่ซาตานทำให้มนุษย์เสื่อมทราม สิ่งที่เราได้พูดไปอาจทำให้พวกเจ้าเจ็บปวด แต่ทั้งหมดนั้นจริงแท้ ความรู้ที่มนุษย์ศึกษา วิทยาศาสตร์ที่เขาเข้าใจ และวิถีทางที่เขาเลือกเพื่อทำให้เขาเข้ากันได้กับกระแสนิยมทางสังคมนั้น คือเครื่องมือที่ซาตานใช้ทำให้มนุษย์เสื่อมทรามโดยไม่มีการยกเว้น การนี้แท้จริงอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น มนุษย์จึงดำรงชีวิตอยู่ภายในอุปนิสัยที่ถูกซาตานทำให้เสื่อมทรามโดยสิ้นเชิง และมนุษย์ไม่มีหนทางที่จะรู้ว่าความบริสุทธิ์ของพระเจ้าคือสิ่งใดหรือเนื้อแท้ของพระเจ้าคือสิ่งใด นี่เป็นเพราะบนเปลือกนอกนั้น คนเราไม่สามารถพบข้อผิดพลาดกับหนทางที่ซาตานทำให้มนุษย์เสื่อมทรามได้ คนเราไม่สามารถบอกได้จากพฤติกรรมของใครบางคนว่าสิ่งใดผิดปกติ ทุกคนทำงานของตนเองอย่างเป็นปกติและดำรงชีวิตตามปกติ พวกเขาอ่านหนังสือและหนังสือพิมพ์อย่างเป็นปกติ พวกเขาศึกษาและพูดอย่างเป็นปกติ ผู้คนบางคนได้เรียนรู้จริยธรรมมาเล็กน้อยและพูดเก่ง มีความเข้าใจและเป็นมิตร ชอบช่วยเหลือและใจบุญ และไม่หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งหยุมหยิมหรือเอาเปรียบผู้คน อย่างไรก็ตาม อุปนิสัยอันเสื่อมทรามเยี่ยงซาตานนี้หยั่งรากลึกภายในตัวพวกเขา และธาตุแท้นี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยอาศัยความพยายามภายนอก เนื่องจากธาตุแท้นี้ มนุษย์จึงไม่สามารถรู้จักความบริสุทธิ์ของพระเจ้าได้ และถึงแม้เนื้อแท้แห่งความบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะได้เผยแก่มนุษย์ มนุษย์ก็ไม่จริงจังกับมัน นี่เป็นเพราะซาตานได้มาครอบงำความรู้สึก แนวคิด ทัศนคติ และความคิดของมนุษย์ไว้แล้วอย่างสิ้นเชิงโดยผ่านทางวิถีทางต่างๆ นานา การครอบงำและความเสื่อมทรามนี้ไม่ใช่ชั่วคราวหรือเป็นบางโอกาส แต่ปรากฏอยู่ทุกที่และตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ ผู้คนมากมายยิ่งนักที่เชื่อในพระเจ้ามาเป็นเวลาสามหรือสี่ปี หรือแม้กระทั่งห้าหรือหกปีแล้ว ก็ยังคงนึกว่าความคิด ทรรศนะ ตรรกะที่ชั่วร้ายเหล่านี้ และปรัชญาทั้งหลายที่ซาตานได้ปลูกฝังไว้ในตัวพวกเขาเป็นทรัพย์สมบัติล้ำค่า และไร้ความสามารถที่จะปล่อยสิ่งเหล่านั้นไปได้ เพราะมนุษย์ได้ยอมรับสิ่งทั้งหลายที่ชั่ว โอหัง และคิดร้ายที่มาจากธรรมชาติของซาตาน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความขัดแย้ง ข้อโต้เถียง และความเข้ากันไม่ได้อยู่บ่อยๆ ในสัมพันธภาพระหว่างบุคคลของมนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นอันเป็นผลจากธรรมชาติอันโอหังของซาตาน หากซาตานได้มอบสิ่งทั้งหลายที่เป็นบวกแก่มวลมนุษย์—ยกตัวอย่างเช่น หากลัทธิขงจื๊อและลัทธิเต๋าจากวัฒนธรรมตามประเพณีที่มนุษย์ได้ยอมรับนั้นเป็นสิ่งที่ดี—ผู้คนประเภทที่คล้ายกันควรสามารถไปด้วยกันได้หลังจากที่ยอมรับสิ่งเหล่านั้นแล้ว ดังนั้น เหตุใดจึงมีการแบ่งแยกมากมายระหว่างผู้คนที่ได้ยอมรับในสิ่งเดียวกัน? เหตุใดเล่าจึงเป็นเช่นนั้น? นั่นเป็นเพราะสิ่งเหล่านี้มาจากซาตานและซาตานได้สร้างการแบ่งแยกขึ้นท่ามกลางผู้คน สิ่งเหล่านี้จากซาตาน ไม่สำคัญว่าสิ่งเหล่านี้จะปรากฏทางเปลือกนอกว่ามีศักดิ์ศรีหรือยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม ย่อมนำพาความโอหังมาสู่มนุษย์และทำให้มันแสดงออกในชีวิตของมนุษย์เท่านั้นเอง และไม่มีสิ่งใดมากไปกว่าความหลอกลวงจากธรรมชาติชั่วของซาตาน นั่นไม่เป็นดังนั้นหรอกหรือ? ใครบางคนที่สามารถปลอมตัว ที่ครองความอุดมทรัพย์ทางความรู้ หรือผู้ที่มีการอบรมเลี้ยงดูที่ดีก็ยังคงจะมีเวลาที่ยากลำบากในการปกปิดอุปนิสัยที่เสื่อมทรามเยี่ยงซาตานของพวกเขาอยู่ กล่าวคือ ไม่สำคัญว่าบุคคลนี้จะห่มคลุมตัวเองสักกี่วิธี ไม่ว่าเจ้าจะคิดถึงพวกเขาในฐานะวิสุทธิชนหรือไม่ หรือเจ้าจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนมีความเพียบพร้อมหรือไม่ หรือเจ้าจะคิดว่าพวกเขาเป็นทูตสวรรค์หรือไม่ ไม่สำคัญว่าเจ้าจะคิดว่าพวกเขาบริสุทธิ์หมดจดเพียงใด ชีวิตจริงของพวกเขาเป็นเยี่ยงใดเล่าเบื้องหลังฉาก? ธาตุแท้ใดหรือที่เจ้าจะมองเห็นในการเปิดเผยอุปนิสัยของพวกเขา? ไม่ต้องกังขาเลยว่าเจ้าคงจะมองเห็นธรรมชาติชั่วของซาตาน การพูดเช่นนั้นพอจะยอมรับได้หรือไม่? (ได้) ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเจ้ารู้จักใครบางคนที่ใกล้ชิดกับพวกเจ้า ผู้ที่เจ้าคิดว่าเป็นคนดี อาจจะเป็นใครบางคนที่เจ้าชื่นชู ด้วยวุฒิภาวะปัจจุบันของเจ้า เจ้าคิดถึงพวกเขาอย่างไร? อย่างแรก เจ้าประเมินว่าบุคคลประเภทนี้มีสภาวะความเป็นมนุษย์หรือไม่ ว่าพวกเขาซื่อสัตย์หรือไม่ ว่าพวกเขามีความรักแท้จริงต่อผู้คนหรือไม่ ว่าคำพูดและการกระทำของพวกเขาเป็นประโยชน์และช่วยผู้อื่นหรือไม่ (พวกเขาไม่เป็นเช่นนั้น) สิ่งที่เรียกว่าความใจดีมีเมตตา ความรัก หรือความดีงามอันใดที่ผู้คนเหล่านี้เปิดเผยออกมา? ทั้งหมดนั้นเป็นเท็จ ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงหน้าฉาก เบื้องหลังหน้าฉากนี้มีจุดประสงค์ชั่วแอบแฝง นั่นก็คือ เพื่อทำให้บุคคลนั้นเป็นที่รักใคร่บูชาและชื่นชู พวกเจ้ามองเห็นการนี้อย่างชัดเจนใช่หรือไม่? (ใช่)

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 5

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger