พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 126

วันที่ 26 เดือน 06 ปี 2021

หัวเลี้ยวหัวต่อที่ห้า: ผู้สืบสันดาน

หลังการวิวาห์ คนเราเริ่มฟูมฟักคนรุ่นต่อไป คนเราไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าคนเราจะมีบุตรกี่คนและมีบุตรประเภทใด สิ่งนี้ได้ถูกกำหนดจากชะตากรรมของบุคคล ถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าโดยพระผู้สร้างด้วยเช่นกัน นี่คือหัวเลี้ยวหัวต่อที่ห้าที่บุคคลหนึ่งต้องผ่านพ้น

หากคนเราเกิดมาเพื่อลุล่วงบทบาทของการเป็นบุตรของใครบางคน เช่นนั้นแล้วคนเราก็เลี้ยงดูคนรุ่นต่อไปเพื่อที่จะลุล่วงบทบาทของการเป็นบิดามารดาของใครบางคน บทบาทที่ขยับเปลี่ยนไปนี้ทำให้คนเรามีประสบการณ์กับระยะที่ต่างกันของชีวิตจากมุมมองที่ต่างกัน การขยับเปลี่ยนนี้ยังให้ชุดประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกันแก่คนเรา ส่งผลให้คนเรามารู้จักอธิปไตยแห่งพระผู้สร้างซึ่งแสดงบทบาทไปในทางเดียวกันเสมอ และเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราเผชิญกับข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่มีใครสามารถก้าวล้ำหรือดัดแปลงแก้ไขการลิขิตล่วงหน้าของพระผู้สร้าง

1. คนเราไม่มีอำนาจควบคุมเหนือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเชื้อสายของคนเรา

การเกิด การเจริญเติบโต และการสมรสล้วนนำมาซึ่งความผิดหวังหลากหลายประเภทและในระดับที่แตกต่างกัน ผู้คนบางคนไม่พึงพอใจกับครอบครัวของพวกเขาหรือรูปลักษณ์ทางกายของตัวพวกเขาเอง บ้างก็ไม่ชอบบิดามารดาของตัวเอง บ้างก็คับแค้นใจ หรือมีเรื่องพร่ำบ่นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาได้เติบโตขึ้นมา และสำหรับผู้คนส่วนใหญ่แล้ว ท่ามกลางความผิดหวังเหล่านี้ การสมรสคือที่สุดของความไม่สมดังปรารถนา ไม่ว่าคนเราไม่พึงพอใจกับกำเนิด การเติบโตเต็มวัย หรือการสมรสของคนเราอย่างไร ทุกคนที่ได้ก้าวผ่านสิ่งเหล่านี้มาแล้วย่อมรู้ว่า คนเราไม่สามารถเลือกสถานที่และเวลาเกิดของพวกเขา รูปร่างหน้าตาของพวกเขา ผู้ที่เป็นบิดามารดาของพวกเขา และผู้ที่เป็นคู่สมรสของพวกเขาได้ แต่เพียงต้องยอมรับน้ำพระทัยแห่งฟ้าสวรรค์เท่านั้น กระนั้นเมื่อถึงเวลาที่ผู้คนจะฟูมฟักคนรุ่นต่อไป พวกเขาจะทุ่มความอยากได้อยากมีทั้งหมดที่พวกเขาไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ในครึ่งแรกของชีวิตพวกเขาลงบนผู้ที่เป็นพงศ์พันธุ์ของพวกเขา ด้วยความหวังว่าเชื้อสายของพวกเขาจะชดเชยความผิดหวังต่างๆ ในครึ่งแรกของชีวิตของตัวพวกเขาเอง ดังนั้นผู้คนจึงปล่อยตัวเองให้ดื่มด่ำอยู่ในความเพ้อฝันทุกประเภทเกี่ยวกับลูกๆ ของตัวเอง ว่าลูกสาวของพวกเขาจะโตขึ้นไปเป็นสาวงามผู้ชวนตะลึง ลูกชายของพวกเขาจะเป็นสุภาพบุรุษผู้โก้หรู ว่าลูกสาวของพวกเขาจะรอบรู้วัฒนธรรมและเปี่ยมพรสวรรค์ และลูกชายของพวกเขาจะเป็นนักเรียนที่ฉลาดหัวดีและเป็นดาวกีฬา ว่าลูกสาวของพวกเขาจะสุภาพอ่อนโยน มีคุณธรรม และมีเหตุผล และลูกชายของพวกเขาจะเฉลียวฉลาด มีความสามารถ และเข้าใจความรู้สึกผู้อื่นได้ดี พวกเขาหวังว่าเชื้อสายของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวหรือลูกชาย จะเคารพผู้ใหญ่ เข้าใจหัวอกพ่อแม่ เป็นที่รักและยกย่องของทุกคน…ณ จุดนี้ ความหวังของชีวิตผลิบานสดชื่น และความหลงใหลใหม่ๆ ก็ถูกจุดประกายขึ้นในหัวใจของผู้คน ผู้คนรู้ว่าพวกเขาไร้พลังและหมดสิ้นความหวังในชีวิตนี้ ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสอีกครั้งหรือความหวังอีกครั้งที่จะโดดเด่นออกมาจากฝูงชน และว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับชะตากรรมของพวกเขา และดังนั้นพวกเขาจึงยัดเยียดความหวังทั้งหมดของพวกเขา ความอยากได้อยากมีและอุดมคติที่ยังไม่เป็นจริงของพวกเขาให้กับคนรุ่นต่อไป โดยหวังว่าเชื้อสายของพวกเขาจะสามารถช่วยให้พวกเขาสัมฤทธิ์ความฝันของพวกเขาและทำให้ความอยากต่างๆ ของพวกเขาเป็นจริงขึ้นมา หวังว่าลูกสาวและลูกชายของพวกเขาจะนำเกียรติยศมาสู่วงศ์สกุล กลายมามีความสำคัญ ร่ำรวย และโด่งดัง กล่าวสั้นๆ ก็คือ พวกเขาต้องการเห็นโชควาสนาของลูกๆ ของพวกเขาทะยานขึ้นสูง แผนการและความเพ้อฝันของผู้คนนั้นสมบูรณ์แบบ พวกเขาไม่รู้หรือว่าจำนวนบุตรที่พวกเขามี รูปลักษณ์ ความสามารถ และอื่นๆ ของลูกๆ ของพวกเขานั้นหาใช่สิ่งที่พวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจไม่ พวกเขาไม่รู้หรือว่าไม่มีส่วนใดในชะตากรรมของลูกๆ ของพวกเขาอยู่ในมือพวกเขา? มนุษย์ไม่ได้เป็นนายแห่งชะตากรรมของตัวพวกเขาเอง ทว่าพวกเขาก็ยังหวังที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของคนรุ่นเยาว์ พวกเขาไร้พลังอำนาจที่จะหลีกหนีชะตากรรมของตัวเอง ทว่าพวกเขากลับพยายามที่จะควบคุมชะตากรรมของลูกชายและลูกสาว พวกเขาไม่ได้กำลังประเมินตัวเองสูงเกินไปหรอกหรือ? นี่มิใช่ความโง่เขลาเบาปัญญาและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของมนุษย์หรอกหรือ? ผู้คนจะพยายามทุกทางเพื่อประโยชน์ของเชื้อสายของพวกเขา แต่ในท้ายที่สุดแล้ว แผนการและความอยากได้อยากมีของคนเราก็มิอาจชี้ขาดว่าคนเราจะมีบุตรกี่คนและบุตรเหล่านั้นจะมีลักษณะอย่างไร ผู้คนบางคนไร้เงินทอง แต่กลับมีบุตรมากมาย ผู้คนบางคนที่อุดมด้วยโภคทรัพย์กลับยังไม่มีบุตรสักคน บ้างก็ต้องการลูกสาวแต่ความปรารถนานั้นก็ถูกปฏิเสธ บ้างต้องการลูกชายแต่กลับล้มเหลวที่จะผลิตบุตรชายออกมา สำหรับบางคน ลูกคือพระพร สำหรับคนอื่นๆ ลูกๆ คือคำสาปแช่ง คู่ครองบางคู่มีความเฉลียวฉลาด ทว่ากลับให้กำเนิดบุตรที่หัวช้า พ่อแม่บางคนขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ ทว่าลูกๆ ที่พวกเขาฟูมฟักกลับขี้เกียจสันหลังยาว พ่อแม่บางคนจิตใจดีและซื่อตรง แต่มีบุตรที่กลับกลายเป็นปลิ้นปล้อนและจิตใจโหดร้าย พ่อแม่บางคนสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ให้กำเนิดบุตรที่ไม่สมประกอบ พ่อแม่บางคนเป็นคนธรรมดาและไม่ประสบความสำเร็จ ทว่ากลับมีบุตรที่สัมฤทธิ์การใหญ่ พ่อแม่บางคนมีสถานภาพต่ำต้อย ทว่ากลับมีบุตรที่ผงาดสู่ความมีชื่อเสียงเด่นดัง…

2. หลังการฟูมฟักคนรุ่นต่อไป ผู้คนได้รับความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับชะตากรรม

ผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้าสู่ชีวิตแต่งงานทำเช่นนั้นในช่วงอายุราวสามสิบปี อันเป็นเวลาในชีวิตที่คนเรายังไม่มีความเข้าใจอันใดเกี่ยวกับชะตากรรมของมนุษย์ แต่เมื่อผู้คนเริ่มฟูมฟักลูกๆ และเมื่อเชื้อสายของพวกเขาเติบโต พวกเขาก็เฝ้ามองคนรุ่นใหม่มีชีวิตและประสบการณ์ทั้งหมดซ้ำรอยคนรุ่นก่อนหน้า และเมื่อมองเห็นอดีตของตัวพวกเขาเองสะท้อนอยู่ในลูกๆ พวกเขาจึงตระหนักว่าเส้นทางเดินของคนรุ่นเยาว์ก็เหมือนกับของพวกเขาเอง คือไม่สามารถถูกวางแผนหรือเลือกได้ ครั้นเผชิญกับข้อเท็จจริงนี้ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับแต่โดยดีว่า ชะตากรรมของบุคคลทุกคนนั้นได้ถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าแล้ว และโดยไม่ได้ตระหนักถึงมันเสียทีเดียวนัก ผู้คนก็ค่อยๆ วางความอยากได้อยากมีของตนลง และความหลงใหลในหัวใจของพวกเขาก็ทะลักทลายและวายวางลง…ด้วยความที่ได้ผ่านป้ายบอกทางสำคัญๆ ในชีวิตตามที่จำเป็นมาแล้ว ผู้คนในช่วงเวลานี้จึงได้สัมฤทธิ์ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับชีวิต และนำท่าทีใหม่มาใช้ บุคคลหนึ่งในวัยนี้สามารถคาดหวังจากอนาคตได้เท่าใดกัน และความสำเร็จที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้อันใดหนอที่พวกเขาต้องตั้งตารอ? หญิงวัยห้าสิบปีแบบไหนกันที่ยังคงฝันถึงเจ้าชายรูปงาม? ชายวัยห้าสิบปีแบบไหนกันที่ยังคงมองหาสโนว์ไวท์? หญิงวัยกลางคนแบบไหนกันที่ยังคงหวังจะพลิกจากลูกเป็ดขี้เหร่มาเป็นหงส์? ชายชราส่วนใหญ่มีพลังขับดันในอาชีพการงานแบบเดียวกับชายหนุ่มหรือ? โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าคนเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ผู้ใดก็ตามที่มีชีวิตมาถึงวัยนี้ย่อมมีแนวโน้มที่จะมีท่าทีซึ่งมีเหตุมีผลและใช้การได้เกี่ยวกับการสมรส ครอบครัว และลูกๆ โดยหลักแล้วบุคคลดังกล่าวไม่มีทางเลือกเหลืออยู่ ไม่มีแรงกระตุ้นที่จะท้าทายชะตากรรม ส่วนในด้านประสบการณ์ของมนุษย์นั้น ทันทีที่คนเรามาถึงวัยนี้ คนเราย่อมเกิดท่าทีบางอย่างขึ้นมาเองว่า "คนเราต้องยอมรับชะตากรรม ลูกๆ ของคนเรามีโชควาสนาของพวกเขาเอง ชะตากรรมของมนุษย์นั้นถูกฟ้าสวรรค์ลิขิตไว้" ผู้คนส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าใจความจริง หลังจากได้ฝ่าทุกความผันผวน ความคับข้องขุ่นมัว และความยากลำบากของพิภพนี้มาแล้ว ก็จะสรุปความรู้ความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ด้วยคำว่า "นี่เป็นชะตากรรม!" แม้ว่าวลีนี้แสดงความตระหนักในชะตากรรมมนุษย์ของผู้คนทางโลกและบทสรุปที่พวกเขาได้มาถึงแล้วได้อย่างรัดกุม และแม้ว่ามันแสดงให้เห็นความอับจนหนทางของมนุษยชาติและอาจพรรณนาได้คมชัดและแม่นยำ แต่ก็ยังห่างไกลจากความเข้าใจในอธิปไตยของพระผู้สร้างอย่างมาก และไม่อาจแทนที่ความรู้เกี่ยวกับสิทธิอำนาจของพระผู้สร้างได้เลย

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 3

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger