พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 101

วันที่ 01 เดือน 08 ปี 2021

สิทธิอำนาจของพระเจ้าเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งใด? มันเป็นสัญลักษณ์ของสิทธิอำนาจของพระเจ้าพระองค์เองใช่หรือไม่? มันเป็นสัญลักษณ์ของฤทธานุภาพของพระเจ้าพระองค์เองใช่หรือไม่? มันเป็นสัญลักษณ์ของพระสถานะอันทรงเอกลักษณ์ของพระเจ้าพระองค์เองใช่หรือไม่? ท่ามกลางทุกสรรพสิ่งนั้น เจ้ามองว่าสิ่งใดเป็นสิทธิอำนาจของพระเจ้า? เจ้ามองมันอย่างไร? ในแง่ของฤดูกาลทั้งสี่ที่มนุษย์ได้รับประสบการณ์นั้น ผู้ใดบ้างที่สามารถเปลี่ยนธรรมบัญญัติแห่งการสับเปลี่ยนระหว่างฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวได้? ในฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้แตกหน่อและผลิบาน ในฤดูร้อน พวกมันปกคลุมไปด้วยใบไม้ ในฤดูใบไม้ร่วง พวกมันออกผล และในฤดูหนาว ใบไม้ก็ร่วงโรย ผู้ใดบ้างที่สามารถปรับเปลี่ยนธรรมบัญญัติข้อนี้ได้? การนี้สะท้อนแง่มุมหนึ่งแห่งสิทธิอำนาจของพระเจ้าหรือไม่? พระเจ้าได้ตรัสว่า "จงเกิดความสว่าง" แล้วความสว่างก็เกิด ความสว่างนี้ยังคงมีอยู่หรือไม่? มันมีอยู่เนื่องจากสิ่งใด? แน่นอนว่า มันมีอยู่เนื่องจากพระวจนะของพระเจ้า และเนื่องจากสิทธิอำนาจของพระเจ้า อากาศที่พระเจ้าได้ทรงสร้างขึ้นยังคงมีอยู่หรือไม่? อากาศที่มนุษย์หายใจนั้นมาจากพระเจ้าใช่หรือไม่? ผู้ใดบ้างที่สามารถพรากสิ่งทั้งหลายที่มาจากพระเจ้าไปได้? ผู้ใดบ้างที่สามารถปรับเปลี่ยนแก่นแท้และการทำหน้าที่ของพวกมัน? ผู้ใดบ้างที่สามารถก่อความยุ่งเหยิงให้กับกลางคืนและกลางวันที่พระเจ้าทรงจัดสรรไว้ และให้กับธรรมบัญญัติแห่งกลางคืนและกลางวันที่พระเจ้าทรงวางระเบียบไว้? ซาตานสามารถทำสิ่งดังกล่าวได้หรือไม่? ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่หลับในตอนกลางคืน และใช้กลางคืนเสมือนเป็นกลางวัน เช่นนั้นแล้วมันก็ยังคงเป็นยามราตรี เจ้าอาจจะเปลี่ยนกิจวัตรประจำของเจ้า แต่เจ้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงธรรมบัญญัติแห่งการสับเปลี่ยนระหว่างกลางคืนและกลางวันได้—นี่คือข้อเท็จจริงที่ไม่มีบุคคลใดสามารถปรับเปลี่ยนได้ มิใช่หรือ? ผู้ใดบ้างที่สามารถทำให้สิงโตไถพรวนเหมือนวัวได้? ผู้ใดบ้างที่สามารถเปลี่ยนช้างให้เป็นลาได้? ผู้ใดบ้างที่สามารถทำให้ไก่โผบินไปในอากาศเหมือนนกอินทรีได้? ผู้ใดบ้างที่สามารถทำให้หมาป่ากินหญ้าเหมือนแกะได้? (ไม่มี) ผู้ใดบ้างที่สามารถทำให้ปลาในน้ำดำรงชีวิตอยู่บนแผ่นดินแห้งได้? พวกมนุษย์ไม่สามารถทำการนั้นได้ เหตุใดจึงไม่ได้? นั่นเป็นเพราะพระเจ้าได้ทรงบัญชาให้ปลาดำรงชีวิตอยู่ในน้ำ และดังนั้นพวกมันจึงดำรงชีวิตอยู่ในน้ำ พวกมันจะไม่สามารถรอดชีวิตบนแผ่นดินได้ และจะตาย พวกมันไม่สามารถฝ่าฝืนขีดจำกัดแห่งการทรงบัญชาของพระเจ้าได้ ทุกสรรพสิ่งมีธรรมบัญญัติและขีดจำกัดต่อการดำรงอยู่ของพวกมัน และพวกมันแต่ละชนิดมีสัญชาตญาณของพวกมันเอง สิ่งเหล่านี้ถูกกำหนดโดยพระผู้สร้าง และไม่มีมนุษย์คนใดสามารถปรับเปลี่ยนหรือก้าวล้ำได้ ยกตัวอย่างเช่น สิงโตจะดำรงชีวิตอยู่ในป่า ในที่ห่างไกลจากชุมชนมนุษย์เสมอ และไม่มีวันที่จะเชื่องและสัตย์ซื่อเหมือนวัวจนดำรงชีวิตอยู่ด้วยกันกับมนุษย์และทำงานให้มนุษย์ได้ ถึงแม้ว่าช้างและลาจะเป็นสัตว์ทั้งคู่และมีสี่ขาทั้งคู่ และเป็นสรรพสิ่งทรงสร้างที่หายใจด้วยอากาศ แต่พวกมันก็เป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน เพราะพระเจ้าได้ทรงแยกพวกมันออกเป็นชนิดที่แตกต่างกัน พวกมันแต่ละประเภทมีสัญชาตญาณของพวกมันเอง และดังนั้น พวกมันจึงไม่เคยสับเปลี่ยนกันได้ ถึงแม้ว่าไก่จะมีขาและปีกสองข้างเหมือนกันกับนกอินทรี แต่มันจะไม่มีวันสามารถบินไปในอากาศได้ อย่างมากที่สุดมันก็เพียงแค่สามารถบินขึ้นไปบนต้นไม้—การนี้ถูกกำหนดโดยสัญชาตญาณของมัน ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคำบัญชาแห่งสิทธิอำนาจของพระเจ้า

ในพัฒนาการของมวลมนุษย์วันนี้นั้น สามารถกล่าวได้ว่า วิทยาศาสตร์ของมวลมนุษย์นั้นกำลังเฟื่องฟู และสามารถบรรยายได้ว่า ความสัมฤทธิ์ผลในการสำรวจเชิงวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ช่างน่าประทับใจ ต้องกล่าวว่า ความสามารถของมนุษย์นั้นกำลังเติบโตยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่งที่มวลมนุษย์ยังไม่สามารถทำได้ กล่าวคือ มวลมนุษย์ได้สร้างเครื่องบิน เรือบรรทุกเครื่องบิน และระเบิดปรมาณูแล้ว มวลมนุษย์ได้ไปในห้วงอวกาศ ได้เดินบนดวงจันทร์ ได้ประดิษฐ์คิดค้นอินเทอร์เน็ต และได้มาใช้ชีวิตในแนวที่เปี่ยมเทคโนโลยี แต่กระนั้นมวลมนุษย์ก็ยังไม่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีลมหายใจได้ สัญชาตญาณของสิ่งทรงสร้างที่มีชีวิตทุกอย่าง และธรรมบัญญัติที่พวกมันใช้ดำรงชีวิต และวัฏจักรแห่งความมีชีวิตและความตายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด—ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเกินกว่าพลังอำนาจทางวิทยาศาสตร์ของมวลมนุษย์ และมวลมนุษย์ก็ไม่สามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้ด้วย ณ จุดนี้ ต้องกล่าวว่า ไม่สำคัญว่าวิทยาศาสตร์ของมนุษย์จะบรรลุความสำเร็จสูงส่งเพียงใด มันก็ไม่สามารถเทียบกันได้กับสิ่งใดก็ตามจากพระดำริของพระผู้สร้าง และมันไม่สามารถหยั่งรู้ถึงความเปี่ยมปาฏิหาริย์แห่งการทรงสร้างของพระผู้สร้างและพระอิทธิฤทธิ์แห่งสิทธิอำนาจของพระองค์ มีมหาสมุทรมากมายยิ่งนักบนแผ่นดินโลก แต่กระนั้น มหาสมุทรเหล่านั้นก็ไม่เคยฝ่าฝืนขีดจำกัดของพวกมันและขึ้นมาบนแผ่นดินตามใจชอบเลย และเป็นเพราะพระเจ้าได้ทรงกำหนดอาณาเขตสำหรับพวกมันแต่ละแห่ง พวกมันจึงอยู่ ณ ที่ใดก็ตามที่พระองค์ได้ทรงบัญชาพวกมัน และหากไม่ได้รับการอนุญาตจากพระเจ้า พวกมันจะไม่สามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระ หากไม่ได้รับอนุญาตจากพระเจ้า พวกมันก็ไม่อาจล่วงล้ำกันได้ และสามารถเคลื่อนที่ได้ก็ต่อเมื่อพระเจ้าตรัสเช่นนั้นเท่านั้น และที่ซึ่งมันไปและหยุดอยู่ ก็ถูกกำหนดพิจารณาโดยสิทธิอำนาจของพระเจ้า

กล่าวตรงๆ ก็คือ "สิทธิอำนาจของพระเจ้า" หมายความว่า มันขึ้นอยู่กับพระเจ้า พระเจ้าทรงมีสิทธิ์ในการตัดสินว่าจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างไร และมันจะเสร็จสิ้นไปในลักษณะใดก็ตามที่พระองค์ทรงปรารถนา ธรรมบัญญัติแห่งทุกสรรพสิ่งนั้นขึ้นอยู่กับพระเจ้า และมิได้ขึ้นอยู่กับมนุษย์ อีกทั้งมนุษย์ไม่สามารถปรับเปลี่ยนมันได้ มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยความปรารถนาของมนุษย์ แต่กลับถูกเปลี่ยนแปลงโดยพระดำริของพระเจ้า พระปัญญาของพระเจ้า และพระบัญชาของพระเจ้าแทน นี่คือข้อเท็จจริงที่ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถปฏิเสธได้ ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกและทุกสรรพสิ่ง จักรวาล ท้องฟ้าที่มีดวงดาว และฤดูกาลทั้งสี่ของปี สิ่งซึ่งประจักษ์แก่ตาและไม่ประจักษ์แก่ตาของมนุษย์—พวกมันล้วนดำรงอยู่ ทำหน้าที่ และเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่มีความผิดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียว ภายใต้สิทธิอำนาจของพระเจ้า ตามคำสั่งของพระเจ้า ตามพระบัญญัติทั้งหลายของพระเจ้า และตามธรรมบัญญัติทั้งหลายแห่งปฐมกาลของการทรงสร้าง ไม่มีบุคคลแม้สักคนเดียวหรือวัตถุแม้สักสิ่งเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงธรรมบัญญัติของพวกมันได้ หรือเปลี่ยนแปลงครรลองตามธรรมชาติที่พวกมันใช้ทำหน้าที่ พวกมันได้เริ่มมีขึ้นมาเนื่องจากสิทธิอำนาจของพระเจ้า และพินาศไปเนื่องจากสิทธิอำนาจของพระเจ้า นี่คือสิทธิอำนาจของพระเจ้าโดยแท้ บัดนี้เมื่อได้กล่าวมามากถึงเพียงนี้แล้ว เจ้ารู้สึกได้หรือไม่ว่า สิทธิอำนาจของพระเจ้าคือสัญลักษณ์หนึ่งของพระอัตลักษณ์และพระสถานะของพระเจ้า? สิทธิอำนาจของพระเจ้าสามารถถูกครองโดยสิ่งมีชีวิตทรงสร้างหรือที่มิได้ทรงสร้างใดได้หรือไม่? มันสามารถถูกเลียนแบบ ถูกปลอมมาเป็น หรือถูกแทนที่โดยบุคคล สิ่งของ หรือวัตถุอันใดได้หรือไม่?

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 1

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger