พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 64

วันที่ 21 เดือน 05 ปี 2021

หากพวกเราต้องการเข้าใจให้มากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่พระเจ้าทรงมีและทรงเป็น พวกเราไม่สามารถหยุดอยู่ที่ภาคพันธสัญญาเดิมหรือที่ยุคธรรมบัญญัติ—เราจำเป็นต้องดำเนินต่อไป โดยเดินตามขั้นตอนที่พระเจ้าทรงปฏิบัติในพระราชกิจของพระองค์ ดังนั้น ในขณะที่พระเจ้าทรงสิ้นสุดยุคธรรมบัญญัติและเริ่มต้นยุคพระคุณ พระองค์ทรงปล่อยให้ฝีเท้าของพวกเราเองตามติดอยู่เบื้องหลังเข้าสู่ยุคพระคุณ—ซึ่งเป็นยุคที่เต็มไปด้วยพระคุณและการไถ่ ในยุคนี้ พระเจ้าทรงทำบางสิ่งบางอย่างที่มีความสำคัญมากและไม่เคยมีการทำมาก่อนอีกครั้ง สำหรับทั้งพระเจ้าและมวลมนุษย์แล้ว พระราชกิจในยุคนี้เป็นจุดเริ่มต้นใหม่—จุดเริ่มต้นที่ประกอบด้วยพระราชกิจใหม่ที่พระเจ้าทรงปฏิบัติซึ่งไม่เคยมีการทำมาก่อนอีกพระราชกิจ พระราชกิจใหม่นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เหนือพลังการจินตนาการของพวกมนุษย์และสรรพสิ่งที่ทรงสร้างทั้งปวง พระราชกิจนี้คือบางสิ่งบางอย่างที่ตอนนี้ทุกผู้คนรู้เป็นอย่างดี—พระเจ้าได้ทรงกลายเป็นมนุษย์เป็นครั้งแรก และพระองค์ได้ทรงเริ่มต้นพระราชกิจใหม่ในรูปร่างของมนุษย์ ด้วยอัตลักษณ์ของมนุษย์เป็นครั้งแรก พระราชกิจใหม่นี้มีนัยสำคัญว่าพระเจ้าได้ทรงปฏิบัติพระราชกิจของพระองค์ในยุคธรรมบัญญัติให้ครบบริบูรณ์แล้ว และว่าพระองค์จะไม่ทรงทำหรือตรัสสิ่งใดภายใต้ธรรมบัญญัตินี้อีกต่อไป พระองค์ไม่ตรัสหรือไม่ทรงทำสิ่งใดในรูปของธรรมบัญญัติหรือตามหลักการหรือกฎของธรรมบัญญัติ นั่นคือ พระราชกิจทั้งหมดของพระองค์ที่มีพื้นฐานจากธรรมบัญญัติได้ถูกหยุดลงตลอดไปและจะไม่ดำเนินต่อไป เพราะพระเจ้าทรงต้องประสงค์ที่จะเริ่มต้นพระราชกิจใหม่และทำสิ่งใหม่ แผนของพระองค์มีจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และดังนั้น พระเจ้าจึงต้องทรงนำมวลมนุษย์ไปสู่ยุคต่อไป

ข่าวนี้เป็นข่าวอันน่าชื่นบานหรือเป็นลางร้ายสำหรับมนุษย์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเนื้อแท้ของบุคคลแต่ละคน สามารถกล่าวได้ว่าสำหรับบางคนแล้ว นี่ไม่ใช่ข่าวอันน่าชื่นบานแต่เป็นลางร้าย เพราะเมื่อพระเจ้าทรงเริ่มต้นพระราชกิจใหม่ของพระองค์ ผู้คนที่เพิ่งทำตามธรรมบัญญัติและกฎต่างๆ ผู้ที่เพิ่งทำตามคำสอนแต่ไม่ยำเกรงพระเจ้า มีแนวโน้มจะใช้พระราชกิจเก่าของพระเจ้ามากล่าวโทษพระราชกิจใหม่ของพระองค์ สำหรับผู้คนเหล่านี้ นี่คือข่าวที่เป็นลางร้าย แต่สำหรับทุกบุคคลที่ไร้เดียงสาและเปิดกว้าง ผู้ที่จริงใจต่อพระเจ้าและเต็มใจที่จะได้รับการไถ่ของพระองค์ การจุติเป็นมนุษย์ครั้งแรกของพระเจ้านั้นเป็นข่าวอันน่าชื่นบานอย่างยิ่ง เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกมนุษย์ถูกทำให้เกิดขึ้นนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่พระเจ้าได้ทรงปรากฏและดำรงพระชนม์ชีพท่ามกลางมวลมนุษย์ในรูปร่างที่ไม่ใช่พระวิญญาณ ในครั้งนี้ พระเจ้าประสูติจากมนุษย์ และดำรงพระชนม์ชีพท่ามกลางผู้คนในฐานะบุตรมนุษย์ และปฏิบัติพระราชกิจท่ามกลางพวกเขา "ครั้งแรก" นี้ได้ทำลายมโนคติที่หลงผิดของผู้คน สิ่งนี้อยู่เหนือเกินกว่าจินตนาการทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ติดตามทุกคนของพระเจ้ายังได้รับผลประโยชน์ที่จับต้องได้ พระเจ้าไม่เพียงแต่ทรงสิ้นสุดยุคเก่าเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงสิ้นสุดวิธีการทรงพระราชกิจและลักษณะแนวการทรงพระราชกิจแบบเก่าของพระองค์ด้วย พระองค์ไม่ทรงขอให้ทูตสวรรค์ของพระองค์มาสื่อสารน้ำพระทัยของพระองค์อีกต่อไป พระองค์ไม่ทรงซ่อนอยู่ในเมฆอีกต่อไป และไม่ทรงปรากฏต่อมนุษย์หรือตรัสกับมนุษย์อย่างสูงใหญ่โดยผ่านทางฟ้าร้องอีกต่อไป พระองค์ทรงกลายเป็นบุตรมนุษย์เพื่อเริ่มต้นพระราชกิจของยุคนั้น โดยผ่านทางวิธีการที่มนุษย์ไม่อาจจินตนาการได้และที่มนุษย์เข้าใจหรือยอมรับได้ยาก—การบังเกิดเป็นมนุษย์—ซึ่งไม่เหมือนสิ่งใดๆ ที่มีมาก่อน มวลมนุษย์ไม่ทันได้ตั้งตัวรับการกระทำนี้ของพระเจ้าโดยสิ้นเชิง มันทำให้พวกเขาอับอาย เพราะพระเจ้าทรงเริ่มต้นพระราชกิจใหม่ที่พระองค์ไม่เคยทรงทำมาก่อนอีกครั้ง

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 3

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger