พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 59

วันที่ 20 เดือน 02 ปี 2024

โยบหลังจากการทดสอบของเขา (บทตอนที่คัดมา)

โยบ 42:7-9 หลังจากพระยาห์เวห์ตรัสพระวจนะเหล่านี้แก่โยบแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสกับเอลีฟัสชาวเทมานว่า "เราโกรธเจ้าและสหายทั้งสองของเจ้า เพราะเจ้าทั้งหลายไม่ได้พูดถึงเราอย่างถูกต้อง เหมือนโยบผู้รับใช้ของเราได้พูด เพราะฉะนั้นจงเอาวัวผู้ 7 ตัว และแกะผู้ 7 ตัว ไปหาโยบผู้รับใช้ของเรา และถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวสำหรับพวกเจ้า แล้วโยบผู้รับใช้ของเราจะอธิษฐานเพื่อพวกเจ้า เพราะเราจะรับคำอธิษฐานของเขา เราจะไม่ทำแก่เจ้าตามความโง่ของเจ้า เพราะเจ้าทั้งหลายไม่ได้พูดถึงเราอย่างถูกต้อง เหมือนโยบผู้รับใช้ของเราได้พูด" ฝ่ายเอลีฟัสชาวเทมาน และบิลดัดชาวชูอาห์ และโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ ได้ไปทำตามที่พระยาห์เวห์ตรัสสั่ง และพระยาห์เวห์ทรงรับคำอธิษฐานของโยบ

โยบ 42:10 และพระยาห์เวห์ทรงให้โยบกลับสู่สภาพดี เมื่อท่านอธิษฐานเผื่อสหายของท่าน และพระยาห์เวห์ประทานให้โยบมีมากเป็นสองเท่าของที่มีอยู่ก่อน

โยบ 42:12 และพระยาห์เวห์ทรงอวยพรชีวิตตอนปลายของโยบมากยิ่งกว่าตอนต้นของท่าน และท่านมีแกะ 14,000 ตัว อูฐ 6,000 ตัว วัวผู้ 1,000 คู่ และลาตัวเมีย 1,000 ตัว

โยบ 42:17 และโยบก็สิ้นชีวิตเป็นคนแก่หง่อมทีเดียว

พระเจ้าทอดพระเนตรบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่วด้วยความเชิดชู ในขณะที่พวกโง่เขลาถูกพระเจ้าทอดพระเนตรอย่างต่ำต้อย

ในโยบ 42:7-9 นั้น พระเจ้าตรัสว่าโยบคือผู้รับใช้ของพระองค์ การที่พระองค์ทรงใช้คำว่า "ผู้รับใช้" เพื่ออ้างถึงโยบนั้นแสดงให้เห็นความสำคัญของโยบในพระทัยของพระองค์ ถึงแม้ว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงเรียกโยบด้วยบางอย่างที่น่านับถือมากกว่า แต่การแต่งตั้งนี้ก็ไม่ได้มีผลต่อความสำคัญของโยบภายในพระทัยของพระเจ้า "ผู้รับใช้" ในที่นี้คือชื่อเล่นที่พระเจ้าทรงมีต่อโยบ การที่พระเจ้าทรงอ้างอิงถึง "โยบผู้รับใช้ของเรา" หลายครั้ง แสดงให้เห็นว่าพระองค์พึงพอพระทัยกับโยบเพียงใด และถึงแม้ว่าพระเจ้าไม่ได้ตรัสถึงความหมายเบื้องหลังคำว่า "ผู้รับใช้" แต่การที่พระเจ้าทรงกำหนดนิยามคำว่า "ผู้รับใช้" ก็สามารถมองเห็นได้จากพระวจนะของพระองค์ในบทตอนจากข้อพระคัมภีร์นี้ พระเจ้าได้ตรัสกับเอลีฟัสชาวเทมานในตอนแรกว่า "เราโกรธเจ้าและสหายทั้งสองของเจ้า เพราะเจ้าทั้งหลายไม่ได้พูดถึงเราอย่างถูกต้อง เหมือนโยบผู้รับใช้ของเราได้พูด" พระวจนะเหล่านี้เป็นครั้งแรกที่พระเจ้าได้ตรัสบอกกับผู้คนอย่างเปิดเผยว่าพระองค์ได้ทรงยอมรับทั้งหมดที่โยบได้พูดและทำลงไปหลังจากการทดสอบของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเขา และเป็นครั้งแรกที่พระองค์ได้ทรงยืนยันอย่างเปิดเผยถึงความถูกต้องแม่นยำและความถูกต้องของทั้งหมดที่โยบได้ทำและได้พูดไป พระเจ้าทรงกริ้วเอลีฟัสและคนอื่นๆ เนื่องจากการสนทนาที่ไม่ถูกต้องและไร้สาระของพวกเขา เพราะพวกเขาไม่สามารถมองเห็นการทรงปรากฏของพระเจ้าหรือได้ยินพระวจนะที่พระองค์ตรัสในชีวิตของพวกเขาเหมือนกับโยบ กระนั้นโยบก็มีความรู้ที่ถูกต้องแม่นยำเช่นนั้นเกี่ยวกับพระเจ้า ในขณะที่พวกเขาทำได้เพียงแค่เดาอย่างมืดบอดเกี่ยวกับพระเจ้า ฝ่าฝืนน้ำพระทัยของพระเจ้าและทดสอบความอดทนของพระองค์ในทั้งหมดที่พวกเขาทำ ดังนั้น ในเวลาเดียวกันกับที่ทรงยอมรับทั้งหมดที่โยบได้ทำและได้พูดไปนั้น พระเจ้าก็พิโรธต่อคนอื่นๆ มากยิ่งขึ้น เพราะพระองค์ไม่เพียงแค่ไม่ทรงสามารถมองเห็นความเป็นจริงใดๆ เกี่ยวกับความยำเกรงพระเจ้าในตัวพวกเขาเท่านั้น แต่ยังไม่ทรงได้ยินสิ่งใดเกี่ยวกับความยำเกรงพระเจ้าในสิ่งที่พวกเขาพูดด้วย และดังนั้นต่อมาพระเจ้าจึงได้ทรงทำข้อเรียกร้องกับพวกเขาดังต่อไปนี้ "เพราะฉะนั้นจงเอาวัวผู้ 7 ตัว และแกะผู้ 7 ตัว ไปหาโยบผู้รับใช้ของเรา และถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวสำหรับพวกเจ้า แล้วโยบผู้รับใช้ของเราจะอธิษฐานเพื่อพวกเจ้า เพราะเราจะรับคำอธิษฐานของเขา เราจะไม่ทำแก่เจ้าตามความโง่ของเจ้า" ในบทตอนนี้พระเจ้ากำลังตรัสบอกเอลีฟัสและคนอื่นๆ ให้ทำบางสิ่งบางอย่างที่จะไถ่บาปของพวกเขา เพราะความโง่ของพวกเขาเป็นบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้า และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้ทำเครื่องบูชาเผาทั้งตัวเพื่อแก้ไขความผิดของพวกเขา เครื่องบูชาเผาทั้งตัวมักจะถูกถวายแด่พระเจ้า แต่สิ่งที่ผิดปกติเกี่ยวกับเครื่องบูชาเผาทั้งตัวเหล่านี้ก็คือว่าพวกมันได้ถูกถวายให้แก่โยบ โยบเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าเพราะเขาเป็นคำพยานต่อพระเจ้าในระหว่างการทดสอบของเขา ในขณะเดียวกัน เพื่อนเหล่านี้ของโยบได้ถูกเปิดโปงในช่วงระหว่างเวลาแห่งการทดสอบของเขา เนื่องจากความโง่ของพวกเขา พวกเขาจึงถูกพระเจ้าทรงกล่าวโทษ และพวกเขาได้ยั่วยุพระพิโรธของพระเจ้า และควรจะถูกพระเจ้าลงโทษ—เป็นการลงโทษด้วยการทำเครื่องบูชาเผาทั้งตัวต่อหน้าโยบ—ซึ่งหลังจากนั้นโยบได้อธิษฐานให้พวกเขาพ้นจากการลงโทษและพระพิโรธของพระเจ้าที่มีต่อพวกเขา เจตนารมณ์ของพระเจ้าคือเพื่อนำความอับอายมาให้พวกเขา เพราะพวกเขาไม่ใช่ผู้คนที่ยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว และพวกเขาได้เคยกล่าวโทษความซื่อสัตย์ของโยบ ในแง่หนึ่ง พระเจ้ากำลังตรัสบอกพวกเขาว่าพระองค์ไม่ทรงยอมรับการกระทำของพวกเขา แต่ทรงยอมรับและทรงปีติยินดีอย่างยิ่งในตัวโยบ ในอีกแง่หนึ่ง พระเจ้ากำลังตรัสบอกพวกเขาว่าการที่พระเจ้าทรงยอมรับนั้นเป็นการยกระดับมนุษย์เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ว่ามนุษย์นั้นถูกพระเจ้าเกลียดชังเพราะความโง่ของเขา และทำให้พระเจ้าทรงขุ่นเคืองก็เพราะการนั้น และต่ำต้อยและชั่วช้าในสายพระเนตรของพระเจ้า เหล่านี้คือการกำหนดนิยามที่พระเจ้าทรงมอบให้แก่ผู้คนสองชนิด การกำหนดนิยามเหล่านั้นคือท่าทีของพระเจ้าที่ทรงมีต่อผู้คนสองชนิดเหล่านี้ และเป็นการคิดคำนวณคุณค่าและตำแหน่งของผู้คนสองชนิดนี้ของพระเจ้า ถึงแม้ว่าพระเจ้าทรงเรียกโยบว่าผู้รับใช้ของพระองค์ ในสายพระเนตรของพระเจ้านั้นผู้รับใช้คนนี้เป็นที่รัก และได้รับมอบสิทธิอำนาจที่จะอธิษฐานเพื่อคนอื่นๆ และให้อภัยพวกเขาในความผิดพลาดของพวกเขา ผู้รับใช้คนนี้สามารถพูดคุยกับพระเจ้าโดยตรงและมาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้าโดยตรงได้ และสถานะของเขาสูงกว่าและมีเกียรติมากกว่าของคนอื่นๆ นี่คือความหมายที่แท้จริงของคำว่า "ผู้รับใช้" ที่พระเจ้าได้ตรัสไป โยบได้รับเกียรติพิเศษนี้เนื่องจากการที่เขามีความยำเกรงพระเจ้าและการหลบเลี่ยงความชั่ว และเหตุผลที่ทำให้คนอื่นๆ ไม่ถูกพระเจ้าทรงเรียกว่าผู้รับใช้ก็เพราะพวกเขาไม่ยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว สองท่าทีเหล่านี้ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดของพระเจ้าคือท่าทีของพระองค์ที่ทรงมีต่อผู้คนสองชนิด กล่าวคือ บรรดาผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่วนั้นได้รับการยอมรับจากพระเจ้าและถูกมองว่าเป็นคนมีค่าในสายพระเนตรของพระองค์ ในขณะที่พวกที่โง่เขลาไม่ยำเกรงพระเจ้า ไม่สามารถหลบเลี่ยงความชั่วได้ และไร้ความสามารถที่จะรับความโปรดปรานของพระเจ้าได้ พวกเขามักจะถูกพระเจ้าเกลียดชังและกล่าวโทษ และเป็นคนต่ำต้อยในสายพระเนตรของพระเจ้า

พระเจ้าประทานสิทธิอำนาจแก่โยบ

โยบได้อธิษฐานให้เพื่อนๆ ของเขา และหลังจากนั้น พระเจ้าก็ไม่ได้ทรงจัดการกับพวกเขาให้สาสมกับความโง่ของพวกเขาเนื่องจากคำอธิษฐานของโยบ—พระองค์ไม่ทรงลงโทษพวกเขาหรือใช้การลงทัณฑ์อันสาสมใดๆ กับพวกเขา เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? มันเป็นเพราะคำอธิษฐานที่โยบผู้รับใช้ของพระเจ้าได้ขอให้พวกเขานั้นได้ไปถึงพระกรรณของพระเจ้าแล้ว พระเจ้าทรงให้อภัยพวกเขาเพราะพระองค์ได้ทรงรับคำอธิษฐานของโยบ ดังนั้น พวกเรามองเห็นสิ่งใดในการนี้? เมื่อพระเจ้าทรงอวยพรใครบางคน พระองค์ทรงมอบรางวัลมากมายแก่พวกเขา และไม่ใช่แค่รางวัลทางวัตถุ กล่าวคือ พระเจ้ายังทรงมอบสิทธิอำนาจให้พวกเขา ให้สิทธิ์แก่พวกเขาในการอธิษฐานเพื่อคนอื่น และพระเจ้าทรงลืมและมองข้ามการล่วงละเมิดของผู้คนเหล่านั้นเพราะพระองค์ทรงได้ยินคำอธิษฐานเหล่านี้ นี่คือสิทธิอำนาจที่แท้จริงที่พระเจ้าได้ทรงมอบแก่โยบ พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ทรงนำความอับอายมาสู่ผู้คนที่โง่เขลาเหล่านี้โดยผ่านทางคำอธิษฐานของโยบที่ให้ระงับการกล่าวโทษพวกเขา—ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการลงโทษพิเศษของพระองค์สำหรับเอลีฟัสและคนอื่นๆ

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 2

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger