พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 49

วันที่ 24 เดือน 02 ปี 2024

ในชีวิตประจำวันของโยบพวกเรามองเห็นความเพียบพร้อม ความเที่ยงธรรม ความยำเกรงพระเจ้าและการหลบเลี่ยงความชั่วของเขา

หากพวกเราจะสนทนากันถึงโยบ เช่นนั้นแล้วพวกเราต้องเริ่มด้วยการประเมินเขาที่ถูกดำรัสมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า นั่นคือ "ในแผ่นดินโลกไม่มีใครเหมือนเขา เป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่วร้าย"

พวกเรามาเรียนรู้เกี่ยวกับความดีพร้อมและความเที่ยงธรรมของโยบกันก่อนเถิด

ความเข้าใจของพวกเจ้าเกี่ยวกับคำว่า "ดีพร้อม" และ "เที่ยงธรรม" คือสิ่งใด? พวกเจ้าเชื่อว่าโยบไม่มีที่ติ ว่าเขามีเกียรติใช่หรือไม่? แน่นอนว่านี่คงจะเป็นการตีความตามตัวอักษรและการเข้าใจคำว่า "ดีพร้อม" และ "เที่ยงธรรม" แต่บริบทแห่งชีวิตจริงเป็นส่วนสำคัญต่อการเข้าใจโยบที่แท้จริง—คำพูด หนังสือ และทฤษฎีอย่างเดียวจะไม่ให้คำตอบใด พวกเราจะเริ่มด้วยการดูที่ชีวิตในบ้านของโยบ ว่าการประพฤติปกติของเขาเป็นอย่างไรในช่วงระหว่างชีวิตของเขา นี่จะบอกให้พวกเรารู้เกี่ยวกับหลักการและวัตถุประสงค์ในชีวิตของเขา ตลอดจนเกี่ยวกับบุคลิกภาพและการไล่ตามเสาะหาของเขา ตอนนี้ พวกเรามาอ่านพระวจนะสุดท้ายของโยบ 1:3 กันเถิด ความว่า "ดังนั้นชายผู้นี้จึงมั่งคั่งที่สุดในบรรดาชาวตะวันออก" สิ่งที่พระวจนะเหล่านี้กำลังกล่าวถึงก็คือว่า สถานะและตำแหน่งของโยบนั้นสูงส่งมาก และถึงแม้ว่าจะไม่มีการบอกให้พวกเรารู้ว่าเหตุผลที่ทำไมเขาจึงมั่งคั่งมากที่สุดในบรรดาชาวตะวันออกเป็นเพราะสินทรัพย์อันอุดมสมบูรณ์ของเขา หรือเพราะเขาเป็นคนดีพร้อมและเที่ยงธรรม และยำเกรงพระเจ้าในขณะที่หลบเลี่ยงความชั่วก็ตาม แต่โดยรวมแล้วพวกเรารู้ว่าสถานะและตำแหน่งของโยบมีค่ามาก ดังที่มีบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์นั้น ความประทับใจแรกที่ผู้คนมีต่อโยบก็คือว่าโยบเป็นคนดีพร้อม ว่าเขายำเกรงพระเจ้าและหลบเลี่ยงความชั่ว และว่าเขาครอบครองทรัพย์สมบัติที่มั่งคั่งและสถานะที่น่าเคารพนับถือ สำหรับการที่บุคคลธรรมคนหนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้นและภายใต้สภาวะเงื่อนไขเช่นนั้น อาหารของโยบ คุณภาพชีวิต และแง่มุมต่างๆ ในชีวิตส่วนตัวของเขาคงจะเป็นจุดมุ่งความสนใจของผู้คนส่วนมาก ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องอ่านข้อพระคัมภีร์ต่อไป ความว่า "บุตรของท่านเคยจัดงานเลี้ยงในบ้านของแต่ละคนตามวันกำหนดของตน พวกเขาจะเชิญน้องสาวทั้งสามคนมารับประทานและดื่มกับพวกเขาด้วย และเมื่องานเลี้ยงเวียนครบรอบแล้ว โยบจะทำพิธีชำระตัวเขาทั้งหลายให้บริสุทธิ์ และท่านจะตื่นแต่เช้ามืด ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวตามจำนวนของเขาทั้งหมด เพราะโยบกล่าวว่า 'บางทีลูกๆ ของข้าได้ทำบาปและแช่งพระเจ้าในใจ' โยบทำอย่างนี้เรื่อยมา" (โยบ 1:4-5) บทตอนนี้บอกให้พวกเรารู้สองสิ่ง นั่นคือ สิ่งแรกคือบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของโยบจัดงานเลี้ยงเป็นประจำ มีการรับประทานและการดื่มมากมาย สิ่งที่สองคือโยบได้ถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวบ่อยครั้ง เพราะเขามักเป็นห่วงบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของเขา โดยเกรงว่าพวกเขาจะทำบาป ว่าหัวใจของพวกเขาจะได้ประกาศตัดขาดกับพระเจ้าไปแล้ว ในเรื่องนี้ได้พรรณนาถึงชีวิตของผู้คนสองชนิดที่แตกต่างกัน ชนิดแรก บุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของโยบ ที่มักจะจัดงานเลี้ยงเนื่องจากความมั่งคั่งของพวกเขา ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ดื่มและรับประทานอาหารจนจุใจพวกเขา และสุขสำราญกับคุณภาพชีวิตชั้นสูงที่ทรัพย์สมบัติทางวัตถุได้นำพามาให้ ด้วยการดำรงชีวิตเช่นนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่พวกเขาคงจะทำบาปและทำให้พระเจ้าทรงขุ่นเคืองบ่อยครั้ง—แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ชำระตัวพวกเขาให้บริสุทธิ์หรือถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัว เช่นนั้นแล้วเจ้าจะเห็นว่าพระเจ้าไม่ทรงมีที่ในหัวใจของพวกเขา ว่าพวกเขาไม่ได้คิดใคร่ครวญถึงพระคุณของพระเจ้าเลย อีกทั้งไม่ยำเกรงว่าจะทำให้พระเจ้าทรงขุ่นเคือง นับประสาอะไรที่พวกเขาจะยำเกรงการประกาศตัดขาดกับพระเจ้าในหัวใจของพวกเขา แน่นอนว่าจุดมุ่งเน้นของเราไม่ใช่อยู่ที่ลูกๆ ของโยบ แต่อยู่ที่สิ่งที่โยบได้ทำเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ เช่นนั้น นี่คืออีกเรื่องหนึ่งที่ได้พรรณนาไว้ในบทตอนนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของโยบและเนื้อแท้ในสภาวะความเป็นมนุษย์ของเขา ในที่ซึ่งพระคัมภีร์พรรณนาถึงงานเลี้ยงของบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของโยบ ไม่มีการกล่าวถึงโยบ ในนั้นกล่าวแต่เพียงว่าบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของเขามักจะรับประทานและดื่มด้วยกัน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขาไม่ได้จัดงานเลี้ยง อีกทั้งเขาไม่ได้ร่วมกับบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของเขาในการรับประทานอย่างฟุ่มเฟือย ถึงแม้จะมั่งคั่งและครอบครองสินทรัพย์และผู้รับใช้มากมาย แต่ชีวิตของโยบก็ไม่ใช่ชีวิตที่หรูหรา เขาไม่ได้ถูกหลอกลวงด้วยสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตที่เหนือกว่าของเขา และเขาไม่ได้ให้ตัวเองมูมมามกับความชื่นชมยินดีของเนื้อหนังหรือลืมที่จะถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวเนื่องจากทรัพย์สมบัติของเขา นับประสาอะไรที่มันจะเป็นสาเหตุให้เขาค่อยๆ หลบเลี่ยงพระเจ้าในหัวใจของเขา เช่นนั้นแล้ว จึงเห็นเด่นชัดว่าโยบได้รับการบ่มวินัยในวิถีชีวิตของเขา ไม่โลภหรือสุรุ่ยสุร่ายอันเป็นผลจากพระพรที่พระเจ้าทรงให้แก่เขา และเขาไม่ได้ยึดติดกับคุณภาพของชีวิต แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เขาเป็นคนถ่อมใจและถ่อมตัว เขาไม่ได้รับมอบมาเพื่อการโอ้อวด และเขาระมัดระวังและเอาใจใส่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า เขามักจะคิดใคร่ครวญถึงพระคุณและพระพรของพระเจ้าบ่อยๆ และเกรงกลัวพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง ในชีวิตประจำวันของเขานั้น โยบมักจะลุกขึ้นแต่เช้าเพื่อถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวสำหรับบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของเขา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ โยบไม่เพียงแต่ยำเกรงพระเจ้าด้วยตัวเขาเองเท่านั้น แต่เขายังหวังด้วยว่าลูกๆ ของเขาก็คงจะยำเกรงพระเจ้าในทำนองเดียวกันและไม่ทำบาปต่อพระเจ้า ทรัพย์สมบัติทางวัตถุของโยบไม่มีที่ภายในหัวใจของเขา อีกทั้งมันไม่ได้แทนที่ตำแหน่งที่พระเจ้าทรงครอง การกระทำประจำวันของโยบล้วนเชื่อมโยงกับความยำเกรงพระเจ้าและการหลบเลี่ยงความชั่ว ไม่ว่าเพื่อประโยชน์ของเขาเองหรือเพื่อลูกๆ ของเขา ความยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่ปากของเขา แต่เป็นบางสิ่งบางอย่างที่เขานำมาสู่การกระทำและได้สะท้อนอยู่ในทุกๆ ส่วนในชีวิตประจำวันของเขา การประพฤติจริงนี้ของโยบแสดงให้พวกเราเห็นว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์ และครอบครองเนื้อแท้ที่รักความยุติธรรมและสิ่งต่างๆ ที่เป็นเชิงบวก การที่โยบมักจะได้ส่งและได้ชำระบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของเขาให้บริสุทธิ์นั้นหมายความว่าเขาไม่ได้ห้ามหรือเห็นชอบกับพฤติกรรมของลูกๆ ของเขา ในทางกลับกัน ในหัวใจของเขานั้นเขาผิดหวังกับพฤติกรรมของพวกลูกๆ และกล่าวโทษพวกลูกๆ เขาได้สรุปว่าพฤติกรรมของบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของเขานั้นไม่เป็นที่พอพระทัยของพระยาห์เวห์พระเจ้า และดังนั้นเขาจึงมักเรียกให้พวกลูกๆมาอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าและสารภาพบาปของพวกเขาบ่อยๆ การกระทำของโยบแสดงให้พวกเราเห็นสภาวะความเป็นมนุษย์อีกด้านหนึ่งของเขา ด้านที่เขาไม่มีวันเดินไปกับพวกที่มักทำบาปและทำให้พระเจ้าทรงขุ่นเคืองบ่อยๆ แต่กลับหลบเลี่ยงและหลีกเลี่ยงพวกเขาแทน ถึงแม้ว่าผู้คนเหล่านี้จะเป็นบุตรชายและบุตรสาวทั้งหลายของเขา แต่เขาก็ไม่ได้ละทิ้งหลักการแห่งการประพฤติของเขาเองเพราะพวกนั้นเป็นลูกหลานของเขาเอง อีกทั้งเขาไม่ได้ดื่มด่ำกับบาปของพวกลูกๆ เพราะอารมณ์ความรู้สึกของเขาเอง แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เขากระตุ้นให้พวกลูกๆ สารภาพและได้รับความอดกลั้นของพระยาห์เวห์พระเจ้า และเขาได้เตือนพวกลูกๆ ไม่ให้ละทิ้งพระเจ้าเพื่อเห็นแก่ความสุขสำราญอันละโมบของพวกเขาเอง หลักการแห่งวิธีที่โยบปฏิบัติต่อผู้อื่นนั้นไม่อาจแยกกันได้จากหลักการแห่งความยำเกรงพระเจ้าและการหลบเลี่ยงความชั่วของเขา เขารักสิ่งที่พระเจ้าทรงยอมรับ และเกลียดชังสิ่งที่พระเจ้าทรงขยะแขยง เขารักบรรดาผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าในหัวใจของพวกเขา และเกลียดชังบรรดาผู้ที่กระทำชั่วหรือทำบาปต่อพระเจ้า ความรักและความเกลียดชังเช่นนั้นถูกแสดงให้เห็นในชีวิตประจำวันของเขา และเป็นความเที่ยงธรรมยิ่งของโยบที่สายพระเนตรของพระเจ้ามองเห็น โดยธรรมชาติแล้วนั้น นี่ยังเป็นการแสดงออกและการดำรงชีวิตตามสภาวะความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงของโยบในความสัมพันธ์ของเขากับคนอื่นๆ ในชีวิตประจำวันของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องเรียนรู้

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 2

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger