พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 34

วันที่ 18 เดือน 02 ปี 2024

พระสัญญาของพระเจ้าต่ออับราฮัม (บทตอนที่คัดมา)

ปฐมกาล 22:16-18 พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราเองปฏิญาณว่า เพราะเจ้าทำอย่างนี้และไม่ได้หวงบุตรชายของเจ้า คือบุตรชายคนเดียวของเจ้า ดังนั้นเราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูทั้งหลายของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์ ประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า เพราะว่าเจ้าเชื่อฟังเรา

นี่คือเรื่องราวที่ครบสมบูรณ์เกี่ยวกับการอวยพรของพระเจ้าต่ออับราฮัม ถึงแม้ว่าจะรวบรัดแต่เนื้อหาของมันนั้นมั่งคั่ง กล่าวคือ มันประกอบด้วยเหตุผลและภูมิหลังของของขวัญที่พระเจ้าทรงให้ต่ออับราฮัม และสิ่งที่เป็นสิ่งที่พระองค์ได้ประทานให้อับราฮัม มันยังเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมยินดีและความตื่นเต้นที่พระเจ้าได้ดำรัสพระวจนะเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ตลอดจนความเร่งด่วนของการที่พระองค์ทรงถวิลหารอคอยที่จะได้รับบรรดาผู้ซึ่งสามารถรับฟังพระวจนะของพระองค์ได้ ในการนี้ พวกเรามองเห็นการทะนุถนอมและความอ่อนโอนของพระเจ้าที่ทรงมีต่อบรรดาผู้ที่เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์และปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ ดังนั้น พวกเรามองเห็นราคาที่พระองค์ทรงจ่ายเพื่อที่จะได้รับผู้คน และความเอาพระทัยใส่และพระดำริที่พระองค์ทรงใช้ในการได้รับพวกเขาด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น บทตอนนี้ ซึ่งบรรจุพระวจนะที่ว่า "เราเองปฏิญาณว่า" ให้สำนึกรับรู้ที่ทรงพลังแก่เราเกี่ยวกับความขมขื่นและความเจ็บปวดที่พระเจ้าทรงแบกรับและพระเจ้าพระองค์เดียวที่อยู่เบื้องหลังฉากของพระราชกิจแห่งแผนการบริหารจัดการของพระองค์นี้ มันเป็นบทตอนที่ปลุกความคิด และเป็นบทตอนที่มีนัยสำคัญพิเศษสำหรับบรรดาผู้ที่ตามมา และมีผลกระทบกว้างขวางต่อพวกเขา

มนุษย์ได้รับพระพรของพระเจ้าเนื่องจากความจริงใจและการเชื่อฟังของเขา

พระพรที่พระเจ้าทรงมอบให้กับอับราฮัมที่พวกเราได้อ่านกัน ณ ที่นี้ยิ่งใหญ่หรือไม่? มันยิ่งใหญ่เพียงใด? มีประโยคสำคัญอยู่ประโยคหนึ่ง ณ ที่นี้ นั่นคือ "ประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า เพราะว่าเจ้าเชื่อฟังเรา" ประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าอับราฮัมได้รับพระพรที่ไม่เคยได้ถูกมอบแก่ผู้ใดที่มาก่อนหรือภายหลังจากนั้น เมื่อพระเจ้าทรงขอ อับราฮัมก็ได้คืนบุตรชายเพียงคนเดียวของเขา—บุตรชายคนเดียวผู้เป็นที่รักของเขา—ให้แก่พระเจ้า (หมายเหตุ: ในที่นี้เราไม่สามารถใช้คำว่า "ถวาย" ได้ พวกเราควรกล่าวว่าเขาได้คืนบุตรชายของเขาแก่พระเจ้า) พระเจ้าไม่เพียงแต่ไม่ทรงอนุญาตให้อับราฮัมถวายอิสอัคเท่านั้น แต่พระองค์ยังได้ทรงอวยพรเขาด้วย พระองค์ได้ทรงอวยพรแก่อับราฮัมด้วยพระสัญญาใด? พระองค์ได้ทรงอวยพรเขาด้วยพระสัญญาที่จะเพิ่มทวีเชื้อสายของเขา และพวกเขาจะได้เพิ่มทวีขึ้นมากเท่าใด? ข้อพระคัมภีร์จัดเตรียมการบันทึกดังต่อไปนี้ "ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูทั้งหลายของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์ ประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้พรเพราะเชื้อสายของเจ้า" พระเจ้าได้ดำรัสเนื้อหาใดในพระวจนะเหล่านี้? กล่าวคือ อับราฮัมได้รับพระพรของพระเจ้าอย่างไร? เขาได้รับพระพรเหล่านั้นดังเช่นที่พระเจ้าตรัสไว้ในข้อพระคัมภีร์ว่า "เพราะว่าเจ้าเชื่อฟังเรา" กล่าวคือ เพราะอับราฮัมได้ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจ้า เพราะเขาได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าได้ตรัส ได้ขอ และได้บัญชา โดยไม่มีการร้องทุกข์คร่ำครวญเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงได้ทรงทำพระสัญญาเช่นนั้นกับเขา มีประโยคสำคัญประโยคหนึ่งในพระสัญญานี้ที่พูดถึงพระดำริของพระเจ้า ณ เวลานั้น พวกเจ้ามองเห็นมันแล้วหรือยัง? พวกเจ้าอาจจะไม่ได้ให้ความสนใจมากนักกับพระวจนะของพระเจ้าที่ว่า "เราเองปฏิญาณว่า" ความหมายของประโยคนี้ก็คือว่า เมื่อพระเจ้าได้ดำรัสพระวจนะเหล่านี้นั้น พระองค์กำลังทรงปฏิญาณด้วยพระองค์เอง ผู้คนปฏิญาณด้วยสิ่งใดเมื่อพวกเขาทำการสาบาน? พวกเขาปฏิญาณด้วยสวรรค์ ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พวกเขาทำการสาบานต่อพระเจ้าและปฏิญาณด้วยพระเจ้า ผู้คนอาจจะไม่มีความเข้าใจมากนักเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่พระเจ้าทรงปฏิญาณด้วยพระองค์เอง แต่พวกเจ้าจะสามารถเข้าใจได้เมื่อเราจัดเตรียมคำอธิบายที่ถูกต้องแก่พวกเจ้า เมื่อทรงเผชิญหน้ากับมนุษย์ผู้ซึ่งสามารถเพียงได้ยินพระวจนะของพระองค์เท่านั้นแต่ไม่เข้าใจพระทัยของพระองค์ พระเจ้าจึงทรงรู้สึกโดดเดี่ยวและสูญเสียอีกครั้ง พระเจ้าได้ทรงทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นธรรมชาติอย่างมากด้วยความสิ้นหวัง—และอาจกล่าวได้ว่าโดยไม่รู้พระองค์—นั่นคือ พระองค์วางพระหัตถ์ลงบนพระทัยของพระองค์และตรัสกับพระองค์เองเมื่อประทานพระสัญญานี้แก่อับราฮัม และจากชายคนนี้ที่ได้ยินพระเจ้าตรัสว่า "เราเองปฏิญาณว่า" เจ้าอาจคิดถึงตัวเจ้าเองโดยผ่านทางการกระทำของพระเจ้า เมื่อเจ้าวางมือของเจ้าไว้บนหัวใจของเจ้าแล้วพูดกับตัวเจ้าเอง เจ้ามีแนวคิดชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้ากำลังพูดหรือไม่? ท่าทีของเจ้าจริงใจหรือไม่? เจ้าพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยหัวใจของเจ้าหรือไม่? ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงมองเห็น ณ ที่นี้ว่า เมื่อพระเจ้าได้ตรัสกับอับราฮัมนั้น พระองค์ทรงจริงจังและจริงใจ ในขณะเดียวกันกับที่กำลังตรัสและทรงอวยพรอับราฮัมนั้น พระเจ้าก็กำลังตรัสกับพระองค์เองด้วย พระองค์กำลังตรัสบอกพระองค์เองว่า เราจะอวยพรอับราฮัม และทำให้ลูกหลานของเขามีจำนวนมากมายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าและมากมายเหมือนเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เพราะเขาเชื่อฟังคำพูดของเราและเขาคือคนที่เราเลือก เมื่อพระเจ้าได้ตรัสว่า "เราเองปฏิญาณว่า" พระเจ้าตั้งพระทัยแน่วแน่ว่าพระองค์จะทรงผลิตประชากรที่ได้รับเลือกสรรแห่งอิสราเอลในตัวอับราฮัม ซึ่งหลังจากนั้นพระองค์จะทรงนำทางผู้คนเหล่านี้ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ด้วยพระราชกิจของพระองค์ กล่าวคือ พระเจ้าจะทรงทำให้พงศ์พันธุ์ของอับราฮัมแบกรับพระราชกิจแห่งการบริหารจัดการของพระเจ้า และพระราชกิจของพระเจ้าและสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงแสดงออกไว้ก็จะเริ่มต้นด้วยอับราฮัมและจะดำเนินต่อเนื่องไปในพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความปรารถนาของพระเจ้าที่จะช่วยมนุษย์ให้รอดเป็นจริงขึ้นมา พวกเจ้าจะว่าอย่างไร นี่ไม่ใช่สิ่งที่ได้รับพรหรอกหรือ? สำหรับมนุษย์แล้วนั้น ไม่มีพรใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ อาจกล่าวได้ว่านี่คือสิ่งที่ได้รับพรมากที่สุด พระพรที่อับราฮัมได้รับไม่ใช่การเพิ่มทวีเชื้อสายของเขา แต่เป็นการสัมฤทธิ์ผลของพระเจ้าในการบริหารจัดการของพระองค์ พระบัญชาของพระองค์ และพระราชกิจของพระองค์ในพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม นี่หมายความว่าพระพรต่างๆ ที่อับราฮัมได้รับนั้นไม่ใช่ชั่วคราว แต่ดำเนินต่อเนื่องไปในขณะที่แผนการบริหารจัดการของพระเจ้าก้าวหน้าไป เมื่อพระเจ้าได้ตรัส เมื่อพระเจ้าได้ปฏิญาณด้วยพระองค์เอง พระเจ้าได้ทรงตั้งปณิธานไว้แล้ว กระบวนการแห่งปณิธานนี้เที่ยงแท้หรือไม่? มันจริงหรือไม่? พระเจ้าได้ตั้งพระทัยแน่วแน่ว่า จากเวลานั้นเป็นต้นไป ความเพียรพยายามของพระองค์ ราคาที่พระองค์ได้ทรงจ่ายไป สิ่งที่พระองค์ทรงมีและทรงเป็น ทุกสิ่งทุกอย่างของพระองค์ และแม้กระทั่งพระชนม์ชีพของพระองค์ จะถูกประทานให้แก่อับราฮัมและพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม และพระเจ้าได้ตั้งพระทัยแน่วแน่อีกด้วยว่า พระองค์จะทรงทำการสำแดงกิจการทั้งหลายของพระองค์ และทรงอนุญาตให้มนุษย์มองเห็นพระปรีชาญาณ สิทธิอำนาจ และฤทธานุภาพของพระองค์โดยเริ่มต้นจากผู้คนกลุ่มนี้

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระราชกิจของพระเจ้า พระอุปนิสัยของพระเจ้า และพระเจ้าพระองค์เอง 2

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger