พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเข้าสู่ชีวิต | บทตัดตอน 574

วันที่ 15 เดือน 08 ปี 2021

เมื่อเจ้าทำสิ่งเฉพาะหนึ่ง พระเจ้าไม่พึงพอพระทัยเป็นอันมาก เมื่อเจ้ากำลังจะทำสิ่งนั้น เจ้าได้อธิษฐานต่อพระองค์หรือไม่? เจ้าเคยได้ไตร่ตรองว่า "พระเจ้าจะทรงมองดูเรื่องนี้อย่างไรหากมันถูกนำไปอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์? พระองค์จะพอพระทัยหรือจะทรงโกรธเคืองหากพระองค์ทรงทราบเกี่ยวกับการนี้? พระองค์จะทรงรังเกียจสิ่งนั้นหรือไม่?" เจ้าไม่ได้เสาะแสวงสิ่งนั้น ใช่หรือไม่? ต่อให้ผู้อื่นได้เตือนความจำเจ้า เจ้าก็จะยังคงคิดว่าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และว่าสิ่งนั้นไม่ได้ขัดต่อหลักธรรมใดและไม่ได้เป็นบาป ผลก็คือ สิ่งนี้ที่เจ้าทำล่วงเกินพระอุปนิสัยของพระเจ้าและยั่วยุให้พระองค์กริ้วมากยิ่งนัก ถึงจุดที่ทำให้พระองค์ทรงดูหมิ่นเจ้า หากเจ้าได้แสวงหาและตรวจสอบ และได้เห็นเรื่องนี้อย่างชัดเจนก่อนกระทำการ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะรับมือกับมันไม่ได้หรือ? แม้ว่าบางครั้งผู้คนไม่อยู่ในสภาวะที่ดี แต่หากพวกเขาเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขากำลังวางแผนว่าจะทำมาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเพื่อการเจาะลึกและการแสวงหา พวกเขาจะไม่ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ใดๆ เมื่อทำการปฏิบัติความจริง เป็นการยากสำหรับผู้คนที่จะหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาด แต่หากเจ้ารู้วิธีทำสิ่งทั้งหลายโดยสอดคล้องกับความจริงเมื่อเจ้าทำสิ่งเหล่านั้น แต่ทว่าเจ้าไม่ดำเนินการโดยสอดคล้องกับความจริง เช่นนั้นแล้วปัญหาก็คือว่าเจ้าไม่มีความรักต่อความจริง อุปนิสัยของบุคคลหนึ่งที่ปราศจากความรักต่อความจริงจะไม่เปลี่ยนแปลง หากเจ้าไม่สามารถจับความเข้าใจในน้ำพระทัยของพระเจ้าได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และไม่รู้วิธีปฏิบัติ เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ควรสามัคคีธรรมกับผู้อื่น หากไม่มีผู้ใดรู้สึกว่าพวกเขาสามารถมองเห็นเรื่องราวได้อย่างชัดเจน เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ควรดำเนินการหาทางออกที่ดีพอสมควร อย่างไรก็ตาม หากในท้ายที่สุดเจ้าค้นพบว่าในการดำเนินการด้วยหนทางนี้ เจ้าได้ทำความผิดเล็กน้อย เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ควรแก้ไขสิ่งนั้นโดยเร็ว แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงถือว่าความผิดนี้เป็นบาป เนื่องเพราะเจ้าได้มีเจตนาที่ถูกต้องเมื่อนำเรื่องนี้ไปปฏิบัติ และเจ้าปฏิบัติโดยสอดคล้องกับความจริงและเพียงมองไม่เห็นสิ่งนั้นอย่างชัดเจน และการกระทำของเจ้าได้ส่งผลเป็นความผิดบางอย่าง เช่นนั้นแล้วนี่จึงเป็นรูปการณ์แวดล้อมที่บรรเทาโทษได้ อย่างไรก็ตาม ในทุกวันนี้ผู้คนมากมายเพียงพึ่งพาสองมือของพวกเขาเองในการทำงานและพึ่งพาจิตใจของตนเองในการทำสิ่งนี้และสิ่งนั้น และพวกเขาไม่ค่อยจะให้การพิจารณาใดๆ ต่อคำถามเหล่านี้ อาทิเช่น การปฏิบัติด้วยหนทางนี้สอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือไม่? พระเจ้าจะพอพระทัยหรือหากฉันได้ทำมันด้วยหนทางนี้? พระเจ้าจะไว้วางพระทัยในตัวฉันหรือหากฉันได้ทำมันด้วยหนทางนี้? ฉันจะนำความจริงมาปฏิบัติหรือหากฉันได้ทำมันด้วยหนทางนี้? หากพระเจ้าทรงได้ยินเรื่องนี้ พระองค์จะทรงมีความสามารถที่จะตรัสว่า "เจ้าได้ทำการนี้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้ว จงทำมันต่อไป" ได้หรือ? เจ้ามีความสามารถที่จะตรวจสอบทุกเรื่องที่เจ้าเผชิญอย่างรอบคอบระมัดระวังได้หรือ? เจ้าสามารถจริงจังและพิถีพิถันเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้แต่ละเรื่องได้หรือ? หรือเจ้ามีความสามารถที่จะไตร่ตรองว่าพระเจ้าทรงดูหมิ่นหนทางที่เจ้ากำลังทำสิ่งนั้นหรือไม่ ว่าคนอื่นทุกคนรู้สึกเกี่ยวกับวิธีการของเจ้าอย่างไร และว่าเจ้ากำลังทำสิ่งนั้นโดยอยู่บนพื้นฐานของเจตจำนงของเจ้าเองหรือเพื่อตอบสนองความอยากของเจ้าเองหรือไม่...? เจ้าต้องคิดให้รอบคอบมากขึ้นในการนี้และแสวงหามากขึ้น แล้วความผิดพลาดของเจ้าจะกลายเป็นเล็กลงเรื่อยๆ การทำสิ่งทั้งหลายในลักษณะนี้จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้าเป็นบุคคลหนึ่งที่แสวงหาความจริงอย่างจริงแท้ และว่าเจ้าเป็นคนที่เคารพพระเจ้า เนื่องเพราะเจ้ากำลังทำสิ่งทั้งหลายโดยสอดคล้องกับทิศทางที่ความจริงพึงประสงค์

หากการกระทำของผู้เชื่อคนหนึ่งไม่มีแนวคิดเดียวกับความจริง เช่นนั้นแล้วเขาก็เป็นเหมือนกับผู้ไม่เชื่อคนหนึ่ง นี่คือบุคคลชนิดที่ไม่มีพระเจ้าในหัวใจของเขา และเป็นผู้ที่ผละจากพระเจ้า และบุคคลเช่นนั้นเป็นเหมือนคนงานที่ถูกว่าจ้างในครอบครัวของพระเจ้าผู้ทำงานจิปาถะให้กับเจ้านายของเขา ได้รับค่าตอบแทนเล็กน้อยแล้วก็จากไป นี่คือบุคคลหนึ่งผู้ไม่เชื่อในพระเจ้าอย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้มีการพาดพิงถึงสิ่งที่เจ้าสามารถทำได้เพื่อได้รับการรับรองของพระเจ้า การรับรองจากพระเจ้าคือสิ่งแรกที่เจ้าควรตรึกตรองและทำงานเพื่อให้ได้มา นั่นควรเป็นหลักธรรมและวงเขตของการปฏิบัติของเจ้า เหตุผลที่เจ้าควรกำหนดว่าเจ้ากำลังทำสิ่งที่อยู่ในแนวเดียวกับความจริงหรือไม่คือว่า หากสิ่งนั้นลงรอยกับความจริงแล้วไซร้ เช่นนั้นแล้วสิ่งนั้นก็คล้อยตามน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าเจ้าควรประเมินวัดว่าเรื่องนั้นถูกหรือผิดหรือไม่ หรือสิ่งนั้นสอดคล้องกับรสนิยมของคนอื่นทุกคนหรือไม่ หรือสิ่งนั้นอยู่ในแนวเดียวกับความอยากของเจ้าเองหรือไม่ ตรงกันข้าม เจ้าควรกำหนดพิจารณาว่าสิ่งนั้นสอดคล้องกับความจริงหรือไม่ และสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ต่องานและประโยชน์ของคริสตจักรหรือไม่ หากเจ้าให้การพิจารณาต่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะอยู่ในแนวเดียวกับน้ำพระทัยของพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเจ้าทำสิ่งทั้งหลาย หากเจ้าไม่พิจารณาแง่มุมเหล่านี้ และเพียงพึ่งพาเจตจำนงของเจ้าเองเมื่อกระทำสิ่งทั้งหลาย เช่นนั้นแล้วก็รับประกันได้ว่าเจ้าจะทำสิ่งเหล่านั้นอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องเพราะเจตจำนงของมนุษย์ไม่ใช่ความจริงและแน่นอนว่าเข้ากันไม่ได้กับพระเจ้า หากเจ้าปรารถนาที่จะได้รับการรับรองจากพระเจ้า เช่นนั้นแล้วเจ้าต้องปฏิบัติไปตามความจริงมากกว่าปฏิบัติไปตามเจตจำนงของเจ้าเอง ผู้คนบางคนมีส่วนร่วมกับเรื่องส่วนบุคคลบางเรื่องเพื่อเห็นแก่การปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขาให้ลุล่วง จากนั้นบรรดาพี่น้องชายหญิงของพวกเขาก็มองเห็นการนี้ว่าไม่เหมาะสม และตำหนิพวกเขาเพราะการนั้น แต่ผู้คนเหล่านี้ไม่ยอมรับการติเตียน พวกเขาคิดว่าเนื่องเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน การเงิน หรือผู้คนของคริสตจักร ดังนั้นจึงไม่นับว่าเป็นการล่วงละเมิดวงเขตของความจริง และพระเจ้าไม่ควรทรงแทรกแซงในเรื่องนี้ สิ่งทั้งหลายบางอย่างอาจดูเหมือนว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลักธรรมหรือความจริงใดๆ อย่างไรก็ตามเมื่อมองดูสิ่งที่เจ้าได้ทำ เจ้าได้เห็นแก่ตัวยิ่งนักในการที่เจ้าไม่ให้การพิจารณาต่องานของครอบครัวของพระเจ้า หรือให้การพิจารณาว่าสิ่งที่เจ้าได้ทำจะมีผลกระทบต่องานของครอบครัวของพระเจ้าอย่างไร เจ้าเพียงพิจารณาแต่ประโยชน์ของเจ้าเอง การนี้เกี่ยวข้องกับความสมควรของเหล่าวิสุทธิชนไปแล้ว ตลอดจนประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาวะความเป็นมนุษย์ของบุคคลหนึ่ง แม้ว่าสิ่งที่เจ้าได้กำลังทำไม่ได้เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของคริสตจักร อีกทั้งไม่ได้เกี่ยวข้องกับความจริง การมีส่วนร่วมกับเรื่องส่วนบุคคลขณะที่ทำการกล่าวอ้างว่ากำลังปฏิบัติหน้าที่ของเจ้านั้น ไม่อยู่ในแนวเดียวกับความจริง โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เจ้ากำลังทำว่าเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็ก และไม่ว่าเจ้ากำลังทำไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าให้ลุล่วงในครอบครัวของพระเจ้าหรือไม่ หรือเพื่อเหตุผลส่วนบุคคลของเจ้าเอง เจ้าต้องพิจารณาว่าสิ่งที่เจ้ากำลังทำคล้อยตามน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือไม่ รวมทั้งเป็นบางสิ่งที่บุคคลหนึ่งควรทำกับสภาวะความเป็นมนุษย์หรือไม่ หากเจ้าแสวงหาความจริงในทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำแบบนั้น เช่นนั้นแล้วเจ้าก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เชื่อในพระเจ้าอย่างแท้จริง หากเจ้าปฏิบัติต่อทุกเรื่องและทุกความจริงในหนทางนี้อย่างเปี่ยมศรัทธา เช่นนั้นแล้วเจ้าก็จะมีความสามารถที่จะสัมฤทธิ์การเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยของเจ้า ผู้คนบางคนคิดว่าเมื่อพวกเขากำลังทำบางสิ่งที่เป็นการส่วนตัว พวกเขาก็สามารถเพิกเฉยความจริงได้ ทำไปตามใจปรารถนาได้ และทำด้วยหนทางใดก็ตามที่ทำให้พวกเขามีความสุขและในลักษณะใดก็ตามที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบ พวกเขาไม่ให้การพิจารณาแม้แต่น้อยว่านั่นอาจส่งผลกระทบต่อครอบครัวของพระเจ้าอย่างไร อีกทั้งพวกเขาไม่พิจารณาว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำเหมาะสมกับความประพฤติของวิสุทธิชนหรือไม่ ในที่สุด เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นเรื่องดังกล่าวแล้ว พวกเขาก็มืดมนภายในมากขึ้นและรู้สึกลำบากใจ แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด นี่มิใช่การลงทัณฑ์อันสมควรหรอกหรือ? หากเจ้าทำสิ่งทั้งหลายที่ไม่ได้รับการรับรองจากพระเจ้า เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ได้ล่วงเกินพระเจ้าแล้ว หากใครบางคนไม่รักความจริง และทำสิ่งทั้งหลายบนพื้นฐานของเจตจำนงของตนเองเป็นนิจศีล เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็จะล่วงเกินพระเจ้าเป็นนิจศีล โดยทั่วไปผู้คนเช่นนี้ไม่ได้รับการรับรองในสิ่งที่พวกเขาทำโดยพระเจ้า และหากว่าพวกเขาไม่กลับใจ เช่นนั้นแล้วการลงโทษก็จะอยู่ไม่ไกลเลย

—พระวจนะฯ เล่ม 3 บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย, ภาคที่สาม

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger