พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเข้าสู่ชีวิต | บทตัดตอน 573

วันที่ 15 เดือน 08 ปี 2021

ไม่สำคัญว่าเจ้าทำสิ่งใด ก่อนอื่นเจ้าควรเข้าใจว่าเหตุใดเจ้ากำลังทำการนั้นอยู่ เป็นเจตนาใดที่ชี้นำเจ้าให้ทำสิ่งนี้ ในการที่เจ้าทำสิ่งนี้มีนัยสำคัญใด ธรรมชาติของเรื่องนี้คือสิ่งใด และสิ่งที่เจ้ากำลังทำเป็นสิ่งด้านบวกหรือสิ่งด้านลบ เจ้าต้องมีความเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดเหล่านี้ นี่ค่อนข้างจำเป็นเพื่อที่จะสามารถกระทำการด้วยหลักการได้ หากเจ้ากำลังทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าให้ลุล่วง เช่นนั้นแล้วเจ้าก็ควรไตร่ตรองว่า ฉันควรทำการนี้อย่างไร? ฉันควรปฏิบัติหน้าที่ของฉันให้ลุล่วงด้วยดีอย่างไร เพื่อที่ฉันจะไม่เพียงแค่กำลังทำการนั้นอย่างพอเป็นพิธี? เจ้าควรเข้าใกล้พระเจ้าในเรื่องนี้ การเข้าใกล้พระเจ้าหมายความถึงการแสวงหาความจริงในเรื่องนี้ การแสวงหาหนทางที่จะปฏิบัติ การแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า และการแสวงหาวิธีที่จะทำให้พระเจ้าพึงพอพระทัย นี่คือวิธีที่จะเข้าใกล้พระเจ้าในทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำ นี่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาหรือการกระทำภายนอก นั่นทำไปเพื่อจุดประสงค์ของการปฏิบัติโดยสอดคล้องกับความจริงหลังจากการแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า หากเจ้าพูดเสมอว่า "ขอบคุณพระเจ้า" ในเมื่อเจ้ายังไม่ได้ทำสิ่งใดเลย แต่แล้วเมื่อเจ้ากำลังทำบางสิ่งบางอย่าง เจ้าทำการนั้นต่อไปในหนทางที่เจ้าต้องการ เช่นนั้นแล้วคำขอบคุณแบบนี้ก็เป็นแค่การกระทำการภายนอก เมื่อปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าให้ลุล่วงหรือทำงานกับบางสิ่งบางอย่าง เจ้าควรคิดเสมอว่า ฉันควรปฏิบัติหน้าที่นี้ให้ลุล่วงอย่างไร? สิ่งใดคือน้ำพระทัยของพระเจ้า? นั่นเป็นเรื่องสำหรับเจ้าที่จะเข้าใกล้พระเจ้าโดยผ่านทางสิ่งที่เจ้าทำ และในการทำเช่นนั้น ก็แสวงหาหลักธรรมและความจริงเบื้องหลังการกระทำของเจ้าตลอดจนน้ำพระทัยของพระเจ้า และไม่ไถลห่างจากพระเจ้าในสิ่งใดก็ตามที่เจ้าทำ มีเพียงบุคคลเช่นนั้นเท่านั้นที่เชื่อในพระเจ้าอย่างแท้จริง ทุกวันนี้ เมื่อใดก็ตามที่ผู้คนประสบพบเจอสิ่งทั้งหลาย โดยไม่คำนึงว่าสถานการณ์จริงเป็นอย่างไร พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถทำสิ่งนี้และสิ่งนั้นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีพระเจ้าในหัวใจของพวกเขา และพวกเขาทำไปตามเจตจำนงของพวกเขาเอง โดยไม่คำนึงว่าครรลองของการกระทำของพวกเขาเหมาะสมหรือไม่ หรือว่าเป็นไปโดยสอดคล้องกับความจริงหรือไม่ พวกเขาได้แต่ทำต่อไปอย่างดื้อรั้น และกระทำการตามเจตนาส่วนตัวของพวกเขา โดยปกติแล้วอาจดูเหมือนว่าพระเจ้าทรงอยู่ในหัวใจของพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาทำสิ่งทั้งหลาย พระเจ้าก็ไม่ได้ทรงอยู่ในหัวใจของพวกเขา ผู้คนบางคนกล่าวว่า "ฉันไม่สามารถเข้าไปใกล้ชิดพระเจ้าในสิ่งทั้งหลายที่ฉันทำได้ ในอดีต ฉันเคยชินกับการปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา และฉันก็ได้พยายามที่จะเข้าไปใกล้ชิดพระเจ้า แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลตามที่หวัง ฉันไม่สามารถเข้าใกล้ชิดพระองค์ได้" ผู้คนเช่นนั้นไม่มีพระเจ้าในหัวใจของพวกเขา พวกเขามีแต่ตัวเองในหัวใจของพวกเขาเท่านั้น และพวกเขาเพียงไม่สามารถนำความจริงไปปฏิบัติในสิ่งใดๆ ที่พวกเขาทำ การไม่กระทำการโดยสอดคล้องกับความจริงหมายถึงการทำสิ่งทั้งหลายตามเจตจำนงของพวกเขาเอง และการทำสิ่งทั้งหลายตามเจตจำนงของพวกเขาเองหมายถึงการผละจากพระเจ้า กล่าวคือ พวกเขาไม่มีพระเจ้าในหัวใจของพวกเขา แนวคิดมนุษย์ทั้งหลายมักจะดูดีและถูกต้องต่อผู้คน และแนวคิดเหล่านั้นดูเหมือนเป็นราวกับว่าจะไม่ล่วงละเมิดความจริงมากนัก ผู้คนรู้สึกว่าการทำสิ่งทั้งหลายในลักษณะเช่นนั้นจะเป็นการนำความจริงมาปฏิบัติ พวกเขารู้สึกว่าการทำสิ่งทั้งหลายด้วยหนทางนั้นจะเป็นการนบนอบต่อพระเจ้า โดยแท้จริงแล้ว พวกเขาไม่ได้กำลังแสวงหาพระเจ้าหรืออธิษฐานต่อพระเจ้าเกี่ยวกับการนี้อย่างแท้จริงเลย และพวกเขาก็ไม่ได้กำลังเพียรพยายามที่จะทำมันอย่างดี โดยสอดคล้องกับข้อพึงประสงค์ของพระเจ้า เพื่อทำให้สมดังน้ำพระทัยของพระองค์ พวกเขาไม่ได้ครองสภาวะแท้จริงนี้ อีกทั้งพวกเขาไม่มีความพึงปรารถนาเช่นนั้น นี่คือความผิดพลาดใหญ่หลวงที่สุดที่ผู้คนทำในการปฏิบัติของพวกเขา เจ้าเชื่อในพระเจ้า แต่เจ้าไม่เก็บรักษาพระเจ้าในหัวใจของเจ้า การนี้จะไม่เป็นบาปได้อย่างไร? เจ้าไม่ได้กำลังหลอกลวงตัวเองอยู่หรอกหรือ? ผลชนิดใดที่เจ้าสามารถเก็บเกี่ยวได้หากเจ้ายังเชื่อด้วยหนทางนั้นต่อไป? ยิ่งไปกว่านั้น จะสามารถสำแดงออกถึงนัยสำคัญของการเชื่อได้อย่างไร?

—พระวจนะฯ เล่ม 3 บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย, ภาคที่สาม

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger