พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การเข้าสู่ชีวิต | บทตัดตอน 382

วันที่ 22 เดือน 08 ปี 2021

ผู้คนสามารถประพฤติดีได้ แต่นั่นไม่จำเป็นต้องหมายความว่า พวกเขาครองความจริง การมีศรัทธาแก่กล้าเพียงสามารถทำให้พวกเขายึดปฏิบัติตามคำสอนและติดตามกฎเกณฑ์ทั้งหลายเท่านั้น พวกที่ปราศจากความจริงไม่มีหนทางในการแก้ปัญหาที่เป็นแก่นสาร และคำสอนก็ไม่สามารถเข้ามาประจำที่แทนความจริงได้ ผู้คนที่ได้รับประสบการณ์กับการเปลี่ยนแปลงหนึ่งในอุปนิสัยของพวกเขานั้นแตกต่างไป กล่าวคือ พวกเขาได้เข้าใจความจริงแล้ว พวกเขากำลังหยั่งรู้ประเด็นปัญหาทั้งหมด พวกเขารู้วิธีที่จะกระทำการโดยสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเจ้า วิธีที่จะกระทำการโดยสอดคล้องกับหลักธรรมความจริง และวิธีที่จะกระทำการเพื่อทำให้พระเจ้าพึงพอพระทัย และพวกเขาเข้าใจธรรมชาติของความเสื่อมทรามที่พวกเขาจัดแสดง เมื่อแนวคิดและมโนคติที่หลงผิดของพวกเขาเองได้รับการเปิดเผย พวกเขาสามารถหยั่งรู้และละทิ้งเนื้อหนังได้ นี่คือวิธีที่การเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยได้รับการแสดงออก สิ่งหลักเกี่ยวกับผู้คนที่ได้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยแล้วก็คือว่า พวกเขาได้มาเข้าใจความจริงอย่างชัดเจนแล้ว และเมื่อดำเนินการสิ่งทั้งหลาย พวกเขานำความจริงไปปฏิบัติด้วยความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นและพวกเขาไม่จัดแสดงความเสื่อมทรามบ่อยครั้งอย่างที่เป็นมา โดยทั่วไป บรรดาผู้ที่อุปนิสัยของพวกเขาได้แปลงสภาพไปแล้วนั้นดูเหมือนจะมีเหตุผลและหยั่งรู้เป็นพิเศษ และเนื่องจากการเข้าใจความจริงของพวกเขา พวกเขาไม่แสดงความชอบคิดว่าตนเองชอบธรรมเสมอหรือความโอหังมากอย่างแต่ก่อน พวกเขาสามารถมองทะลุและหยั่งรู้ความเสื่อมทรามมากมายที่ถูกเปิดเผยไปแล้ว ดังนั้นในตัวพวกเขาจึงไม่เกิดความโอหัง พวกเขาสามารถมีการจับความเข้าใจที่ผ่านการประเมินรอบคอบแล้วเกี่ยวกับสิ่งซึ่งเป็นที่ทางของมนุษย์ เกี่ยวกับวิธีประพฤติตนอย่างสมเหตุสมผล เกี่ยวกับวิธีรับผิดชอบต่อหน้าที่ เกี่ยวกับสิ่งที่จะพูดและสิ่งที่จะไม่พูด และเกี่ยวกับสิ่งที่จะพูดและสิ่งที่จะทำกับผู้คนแบบใด นี่คือเหตุผลที่กล่าวกันว่าผู้คนเช่นนี้ค่อนข้างมีเหตุผล บรรดาผู้ที่ได้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยของพวกเขานั้นใช้ชีวิตตามสภาพเหมือนของมนุษย์อย่างแท้จริง และพวกเขาครองความจริง พวกเขาสามารถพูดและมองเห็นสิ่งทั้งหลายโดยสอดคล้องกับความจริงอยู่เสมอ และพวกเขามีหลักธรรมในทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำ พวกเขาไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบุคคล เรื่อง หรือสิ่งของ และพวกเขาทั้งหมดมีทัศนะของพวกเขาเองและสามารถค้ำจุนความจริงหลักธรรมได้ อุปนิสัยของพวกเขาค่อนข้างมั่นคง พวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมา และไม่สำคัญว่ารูปการณ์แวดล้อมของพวกเขาเป็นอย่างไร พวกเขาก็เข้าใจวิธีทำหน้าที่ของพวกเขาอย่างถูกต้องเหมาะสมและวิธีที่จะประพฤติตนให้พระเจ้าพึงพอพระทัย อันที่จริงแล้ว บรรดาผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยไม่มุ่งความสนใจไปที่สิ่งซึ่งจะทำเพื่อให้ตัวพวกเขาเองดูดีในระดับผิวเผิน—พวกเขาได้รับความชัดเจนภายในเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำเพื่อให้พระเจ้าพึงพอพระทัย เพราะฉะนั้น จากภายนอกแล้ว พวกเขาอาจไม่ดูเหมือนว่ามีใจกระตือรือร้นมากนักหรือได้ทำสิ่งใดที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำนั้นมีความหมาย มีคุณค่า และให้ผลลัพธ์ที่สัมพันธ์กับชีวิตจริง บรรดาผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยนั้นครองความจริงมากมายอย่างแน่นอน—และการนี้สามารถยืนยันได้โดยมุมมองเกี่ยวกับสิ่งทั้งหลายของพวกเขาและการกระทำอันมีหลักธรรมของพวกเขา พวกที่ไม่ครองความจริงนั้นยังไม่ได้สัมฤทธิ์การเปลี่ยนแปลงอันใดในอุปนิสัยอย่างแน่นอน การเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งในอุปนิสัยมิใช่หมายถึงการมีสภาวะความเป็นมนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่และมีประสบการณ์ช่ำชอง โดยหลักแล้ว มันอ้างอิงถึงในกรณีตัวอย่างที่พิษซาตานบางอย่างภายในธรรมชาติของบุคคลเปลี่ยนแปลงไปโดยเป็นผลมาจากการบรรลุความรู้เกี่ยวกับพระเจ้าและความเข้าใจความจริง นั่นกล่าวได้ว่า พิษซาตานเหล่านั้นได้ถูกชำระให้สะอาดแล้ว และความจริงซึ่งพระเจ้าทรงแสดงออกมานั้นหยั่งรากภายในผู้คนเช่นนั้น กลายเป็นชีวิตของพวกเขา และกลายเป็นรากฐานแท้จริงแห่งการดำรงอยู่ของพวกเขา เมื่อนั้นเท่านั้น พวกเขาจึงจะกลายเป็นผู้คนใหม่ และเช่นนั้นเอง จึงได้รับประสบการณ์กับการแปลงสภาพของอุปนิสัย การแปลงสภาพอย่างหนึ่งในอุปนิสัยมิใช่หมายความว่า อุปนิสัยภายนอกทั้งหลายของผู้คนนั้นสุภาพอ่อนโยนขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ มิใช่หมายความว่าพวกเขาเคยโอหัง แต่มาบัดนี้สามารถสัมพันธ์สนิทได้อย่างมีเหตุมีผล หรือว่าพวกเขาเคยไม่ฟังใครเลย แต่มาบัดนี้สามารถรับฟังผู้อื่นได้ การเปลี่ยนแปลงภายนอกเช่นนั้นไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นการแปลงสภาพในอุปนิสัย ก็แน่อยู่ว่า การแปลงสภาพทั้งหลายในอุปนิสัยนั้นย่อมรวมไปถึงสภาวะและการแสดงออกทั้งหลายดังกล่าว แต่ส่วนผสมผสานที่สำคัญยิ่งยวดก็คือ การที่ชีวิตของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วภายใน ความจริงที่พระเจ้าทรงแสดงออกมานั้นกลายมาเป็นชีวิตแท้จริงของพวกเขา พิษซาตานทั้งหลายภายในได้ถูกกำจัดทิ้งไป และมุมมองทั้งหลายของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างครบบริบูรณ์ และไม่มีมุมมองใดเลยที่อยู่ในแนวเดียวกับมุมมองของทางโลก ผู้คนเหล่านี้สามารถมองเห็นกลอุบายและสารพัดพิษของพญานาคใหญ่สีแดงอย่างชัดเจนว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร พวกเขาได้จับความเข้าใจแก่นสารแท้จริงของชีวิตแล้ว ด้วยเหตุนั้น ค่านิยมแห่งชีวิตของพวกเขาจึงได้เปลี่ยนแปลงไป—และนี่คือการแปลงสภาพชนิดที่เป็นรากฐานที่สุดและเป็นแก่นแท้แห่งการเปลี่ยนแปลงหนึ่งในอุปนิสัย

—พระวจนะฯ เล่ม 3 บทเสวนาโดยพระคริสต์แห่งยุคสุดท้าย, ภาคที่สาม

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger