พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การรู้จักพระเจ้า | บทตัดตอน 113

วันที่ 27 เดือน 05 ปี 2021

โยนาห์ 3 แล้วพระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงโยนาห์เป็นครั้งที่สองว่า "จงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์นครใหญ่ และจงประกาศข่าวแก่เมืองนั้นตามที่เราบอกเจ้า" ดังนั้น โยนาห์จึงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์ ตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ นีนะเวห์เป็นนครใหญ่โตมโหฬาร ถ้าจะเดินข้ามเมืองก็กินเวลาสามวัน โยนาห์ตั้งต้นเดินเข้าไปในเมืองได้ระยะทางเดินวันหนึ่ง และท่านก็ร้องประกาศว่า "อีกสี่สิบวัน นีนะเวห์จะถูกทำลาย" คนนีนะเวห์ได้เชื่อพระเจ้า พวกเขาได้ประกาศให้อดอาหาร และได้สวมผ้ากระสอบ ตั้งแต่ผู้ใหญ่ที่สุดจนถึงผู้น้อยที่สุด เมื่อข่าวนี้ลือไปถึงกษัตริย์แห่งนีนะเวห์ พระองค์ทรงลุกขึ้นจากพระที่นั่ง และเปลื้องฉลองพระองค์ออก แล้วทรงสวมผ้ากระสอบแทน และประทับบนกองขี้เถ้า พระองค์ทรงออกพระราชกฤษฎีกา ประกาศไปทั่วนครนีนะเวห์ว่า "โดยอำนาจกษัตริย์และขุนนางทั้งหลาย คนหรือสัตว์เลี้ยงไม่ว่าขนาดใหญ่หรือขนาดกลาง อย่าลิ้มรสสิ่งใด อย่ากินอาหาร และอย่าดื่มน้ำ ให้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงนุ่งห่มผ้ากระสอบ ให้ร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างจริงจัง เออ ให้ทุกคนหันกลับจากการประพฤติชั่ว และเลิกการทารุณซึ่งมือพวกเขาทำ ใครจะรู้ได้? พระเจ้าอาจจะทรงหันและเปลี่ยนพระทัย พระองค์อาจจะทรงหันจากพระพิโรธอันรุนแรง เพื่อเราจะไม่พินาศ" เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรการกระทำของพวกเขาที่ได้หันจากการประพฤติชั่ว พระเจ้าก็เปลี่ยนพระทัยเรื่องความหายนะที่พระองค์ตรัสว่าจะนำมาสู่พวกเขา พระองค์ไม่ทรงลงโทษเขา

พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นการกลับใจที่จริงใจลึกภายในหัวใจของชาวนีนะเวห์

หลังจากที่ได้ยินถ้อยแถลงของพระเจ้า กษัตริย์เมืองนีนะเวห์และไพร่ฟ้าประชาชนของพระองค์ได้ลงมือกระทำหลายสิ่งหลายอย่าง การกระทำเหล่านี้และพฤติกรรมของพวกเขามีธรรมชาติอย่างไร? กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เนื้อแท้ของการประพฤติของพวกเขาทั้งหมดทั้งปวงเป็นอย่างไร? เหตุใดพวกเขาจึงทำอย่างที่พวกเขาได้ทำลงไป? ในสายพระเนตรของพระเจ้า พวกเขาได้กลับใจอย่างจริงใจ ไม่เพียงเพราะพวกเขาได้ร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างจริงใจและสารภาพบาปของพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระองค์เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกเขาได้เลิกการประพฤติที่ชั่วร้ายของพวกเขาด้วย พวกเขาได้กระทำในหนทางนี้เพราะหลังจากที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าแล้ว พวกเขารู้สึกกลัวอย่างเหลือเชื่อ และเชื่อว่าพระองค์จะทรงทำอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ ด้วยการอดอาหาร สวมใส่ผ้ากระสอบ และนั่งบนกองขี้เถ้า พวกเขาปรารถนาที่จะแสดงความเต็มใจของพวกเขาที่จะปฏิรูปวิถีของพวกเขาและระงับจากความชั่วร้าย และพวกเขาได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าเพื่อที่จะระงับพระโทสะของพระองค์ อ้อนวอนให้พระองค์ถอนการตัดสินพระทัยของพระองค์และมหันตภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขา หากพวกเราตรวจสอบพฤติกรรมทั้งหมดของพวกเขา พวกเราจะสามารถมองเห็นได้ว่าพวกเขาเข้าใจแล้วว่าการกระทำชั่วร้ายก่อนหน้าของพวกเขาเป็นที่น่าชิงชังสำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้า และพวกเราสามารถมองเห็นได้เช่นกันว่าพวกเขาเข้าใจเหตุผลว่าทำไมพระองค์จึงจะทรงทำลายพวกเขาในไม่ช้า นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาทุกคนจึงปรารถนาที่จะกลับใจอย่างสมบูรณ์ หันเหออกจากการประพฤติชั่วของพวกเขา และเลิกการทารุณซึ่งมือพวกเขาทำ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทันทีที่พวกเขาได้มาตระหนักรู้ถึงถ้อยแถลงของพระยาห์เวห์พระเจ้า พวกเขาทุกๆ คนรู้สึกกลัวในหัวใจของพวกเขา พวกเขาหยุดการประพฤติชั่วร้ายของพวกเขา และไม่กระทำการเหล่านั้นที่เป็นที่น่าชิงชังอย่างยิ่งสำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าอีกต่อไป นอกจากนั้น พวกเขาได้วอนขอต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าให้ประทานอภัยบาปในอดีตของพวกเขา และไม่ทรงปฏิบัติต่อพวกเขาตามการกระทำในอดีตของพวกเขา พวกเขาเต็มใจที่จะไม่ทำความชั่วร้ายอีกครั้ง และเต็มใจที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของพระยาห์เวห์พระเจ้าถ้าเพียงแต่การทำเช่นนั้นจะไม่ทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงกราดเกรี้ยวอีกได้ การกลับใจของพวกเขาจริงใจและถี่ถ้วน มันมาจากส่วนลึกภายในหัวใจของพวกเขา และไม่ได้เสแสร้งและไม่ได้เป็นแค่เรื่องชั่วครู่ชั่วยาม

ทันทีที่ผู้คนทั้งหมดของเมืองนีนะเวห์ตั้งแต่กษัตริย์ไปจนถึงสามัญชนได้เรียนรู้ว่าพระยาห์เวห์พระเจ้ากริ้วพวกเขา พระเจ้าทรงสามารถมองเห็นทุกๆ การกระทำหลังจากนั้นของพวกเขาและการประพฤติของพวกเขาทั้งหมดทั้งปวงได้อย่างกระจ่างชัดเจน รวมทั้งทุกๆ การตัดสินใจและตัวเลือกที่พวกเขาเลือก พระทัยของพระเจ้าก็ได้เปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมของพวกเขา พระเจ้าทรงมีกรอบความคิดในชั่วขณะนั้นอย่างไร? พระคัมภีร์สามารถตอบคำถามนั้นกับเจ้าได้ ในคัมภีร์ได้มีการบันทึกพระวจนะต่อไปนี้ ความว่า "เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรการกระทำของพวกเขาที่ได้หันจากการประพฤติชั่ว พระเจ้าก็เปลี่ยนพระทัยเรื่องความหายนะที่พระองค์ตรัสว่าจะนำมาสู่พวกเขา พระองค์ไม่ทรงลงโทษเขา" ถึงแม้ว่าพระเจ้าได้เปลี่ยนพระทัยของพระองค์ กรอบความคิดของพระองค์ก็ไม่มีสิ่งใดที่ซับซ้อน พระองค์เพียงทรงเปลี่ยนจากการแสดงพระโทสะของพระองค์เป็นการทำให้พระโทสะของพระองค์สงบลง จากนั้นก็ตัดสินพระทัยที่จะไม่นำมหันตภัยมาสู่เมืองนีนะเวห์ เหตุผลว่าทำไมการตัดสินพระทัยของพระเจ้า—ที่จะละเว้นชาวนีนะเวห์จากมหันตภัย—นั้นรวดเร็วยิ่งนักก็เป็นเพราะว่า พระเจ้าทรงสังเกตเห็นหัวใจของทุกผู้คนในเมืองนีนะเวห์ พระองค์ทรงเห็นสิ่งที่พวกเขามีอยู่ลึกภายในหัวใจของพวกเขา นั่นคือ การกลับใจอย่างจริงใจของพวกเขาและการสารภาพบาปของพวกเขา การเชื่อในพระองค์อย่างจริงใจของพวกเขา สำนึกรับรู้ที่ลึกซึ้งของพวกเขาว่าการกระทำชั่วร้ายของพวกเขาได้ทำให้พระอุปนิสัยของพระองค์เดือดดาลอย่างไร และส่งผลให้เกิดความกลัวการลงโทษที่ใกล้จะเกิดขึ้นจากพระยาห์เวห์พระเจ้า ในขณะเดียวกัน พระยาห์เวห์พระเจ้ายังทรงได้ยินการอธิษฐานของพวกเขา ซึ่งมาจากส่วนลึกภายในหัวใจของพวกเขา วอนขอพระองค์ไม่ให้กริ้วพวกเขาอีกต่อไป เพื่อให้พวกเขาอาจหลีกเลี่ยงมหันตภัยนี้ได้ เมื่อพระเจ้าทรงสังเกตเห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดเหล่านี้ พระโทสะของพระองค์ก็ได้เลือนหายไปทีละเล็กละน้อย ไม่ว่าพระโทสะของพระองค์เมื่อก่อนหน้าจะมีมากเพียงใด พระทัยของพระองค์ก็ได้เกิดความประทับใจเมื่อพระองค์ทรงเห็นการกลับใจอย่างจริงใจลึกภายในหัวใจของผู้คนเหล่านี้ และดังนั้น พระองค์จึงไม่ทรงสามารถทนนำมหันตภัยมาสู่พวกเขาได้ และพระองค์ทรงหยุดกริ้วพวกเขา แทนที่จะเป็นเช่นนั้น พระองค์ทรงยื่นความปรานีและการทนยอมรับของพระองค์ให้แก่พวกเขาต่อไปและทรงนำและจัดเตรียมให้แก่พวกเขาต่อไปแทน

—พระวจนะฯ เล่ม 2 ว่าด้วยการรู้จักพระเจ้า, พระเจ้าพระองค์เอง พระผู้ทรงเอกลักษณ์ 2

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger