พระวจนะของพระเจ้าประจำวัน: การพิพากษาในยุคสุดท้าย | บทตัดตอน 81

วันที่ 05 เดือน 05 ปี 2021

พระเจ้าไม่ทรงกระทำซ้ำพระราชกิจในยุคใด เนื่องจากยุคสุดท้ายได้มาถึงแล้ว พระองค์จะทรงพระราชกิจที่พระองค์ทรงกระทำในยุคสุดท้ายและจะทรงเปิดเผยพระอุปนิสัยทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นของพระองค์ในยุคสุดท้าย ในการกล่าวถึงยุคสุดท้าย การนี้หมายถึงยุคที่แยกต่างหากยุคหนึ่ง ซึ่งเป็นยุคที่พระเยซูตรัสว่าพวกเจ้าจะเผชิญกับความวิบัติ และเผชิญกับแผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และภัยพิบัติทั้งหลายอย่างแน่นอน ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่านี่คือยุคใหม่ และไม่ใช่ยุคพระคุณแบบเก่าอีกต่อไป หากแม้นว่าเป็นเช่นที่ผู้คนกล่าวว่า พระเจ้าทรงไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดไป พระอุปนิสัยของพระองค์คือทรงมีความสงสารและความรักอยู่เสมอ ว่าพระองค์ทรงรักมนุษย์เสมือนพระองค์เอง และพระองค์ทรงมอบความรอดให้มนุษย์ทุกคนและไม่มีวันทรงเกลียดชังมนุษย์ พระราชกิจของพระองค์จะสามารถมาถึงบทอวสานได้บ้างไหม? เมื่อพระเยซูเสด็จมาและทรงถูกตอกตรึงกับกางเขน โดยทรงพลีอุทิศพระองค์เองเพื่อคนบาปทั้งหมด และทรงถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาบนแท่นบูชา พระองค์ได้ทรงทำให้พระราชกิจแห่งการไถ่ครบบริบูรณ์แล้ว และได้ทรงนำพายุคพระคุณมาถึงบทอวสานแล้ว ดังนั้น จะมีประโยชน์อะไรในการทำซ้ำพระราชกิจของยุคนั้นในยุคสุดท้าย? การทำสิ่งเดียวกันนั้นจะไม่เป็นการปฏิเสธพระราชกิจของพระเยซูหรอกหรือ? หากพระเจ้ามิได้ทรงพระราชกิจแห่งการตรึงกางเขนเมื่อพระองค์เสด็จมาในช่วงระยะนี้ แต่ยังคงมีความรักและความสงสารอยู่ เช่นนั้นแล้วพระองค์จะทรงมีความสามารถที่จะนำพายุคนั้นไปถึงบทอวสานได้กระนั้นหรือ? พระเจ้าซึ่งมีความรักและความสงสารจะมีความสามารถนำพายุคนั้นไปถึงบทอวสานกระนั้นหรือ? ในพระราชกิจสุดท้ายแห่งการสรุปปิดตัวยุคนั้น พระอุปนิสัยของพระเจ้าคือหนึ่งในการตีสอนและการพิพากษา ซึ่งพระองค์ทรงใช้เพื่อเปิดเผยทั้งหมดที่ไม่ชอบธรรม เพื่อพิพากษาผู้คนทั้งหมดอย่างเปิดเผย และเพื่อทำให้บรรดาผู้ที่รักพระองค์ด้วยหัวใจที่จริงใจได้รับความเพียบพร้อม มีเพียงพระอุปนิสัยเช่นนี้เท่านั้นที่สามารถนำพายุคนั้นไปถึงบทอวสานได้ ยุคสุดท้ายได้มาถึงแล้ว ทุกสรรพสิ่งในการทรงสร้างจะถูกแยกไปตามประเภทของพวกมัน และถูกแบ่งออกเป็นจำพวกต่างๆ ตามธรรมชาติของพวกมัน นี่คือชั่วขณะที่พระเจ้าทรงเปิดเผยบทอวสานของมนุษยชาติและบั้นปลายของพวกเขา หากผู้คนมิได้ก้าวผ่านการตีสอนและการพิพากษาแล้วไซร้ ก็จะไม่มีหนทางที่จะตีแผ่ความไม่เชื่อฟังและความไม่ชอบธรรมของพวกเขา มีเพียงโดยผ่านทางการตีสอนและการพิพากษาเท่านั้นที่จะสามารถเปิดเผยบทอวสานของสรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวงได้ มนุษย์จะแสดงให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาเฉพาะเมื่อเขาได้รับการตีสอนและการพิพากษาเท่านั้น คนชั่วจะถูกนำไปอยู่กับคนชั่ว คนดีอยู่กับคนดี และมนุษยชาติทั้งปวงจะถูกแยกออกไปตามประเภทของพวกเขา บทอวสานของสรรพสิ่งทรงสร้างทั้งปวงจะได้รับการเปิดเผยโดยผ่านทางการตีสอนและการพิพากษา เพื่อที่คนชั่วอาจจะได้รับการลงโทษและคนดีได้รับบำเหน็จรางวัล และผู้คนทั้งปวงกลับกลายมาอยู่ภายใต้แดนครอบครองของพระเจ้า พระราชกิจทั้งหมดนี้จะต้องสัมฤทธิ์ผลโดยผ่านทางการตีสอนและการพิพากษาที่ชอบธรรม เนื่องจากความเสื่อมทรามของมนุษย์ได้มาถึงจุดสูงสุดของมัน และความไม่เชื่อฟังของพวกเขากลับกลายเป็นร้ายแรงอย่างเหลือเกิน จึงมีเพียงพระอุปนิสัยอันชอบธรรมของพระเจ้า พระอุปนิสัยซึ่งประกอบด้วยการตีสอนและการพิพากษาเป็นหลัก และถูกเปิดเผยในระหว่างยุคสุดท้ายเท่านั้น ที่สามารถแปลงสภาพและทำให้มนุษย์ครบบริบูรณ์อย่างเต็มเปี่ยมได้ มีเพียงพระอุปนิสัยนี้เท่านั้นที่สามารถเปิดโปงคนชั่ว และด้วยเหตุนี้จึงลงโทษพวกไม่ชอบธรรมทั้งหมดอย่างรุนแรง ดังนั้น พระอุปนิสัยเช่นนี้ซึมซับไปด้วยนัยสำคัญของยุคนั้น และการเปิดเผยและการแสดงออกถึงพระอุปนิสัยของพระองค์ถูกทำให้สำแดงชัดแจ้งเพื่อประโยชน์ของพระราชกิจของยุคใหม่แต่ละยุค มิใช่ว่าพระเจ้าทรงเปิดเผยพระอุปนิสัยของพระองค์โดยตามความชอบพระทัยเองและโดยไม่มีนัยสำคัญ หากแม้นว่าในการเปิดเผยบทอวสานของมนุษย์ในระหว่างยุคสุดท้ายนั้น พระเจ้ายังคงจะทรงประทานความสงสารและความรักอันไม่สิ้นสุดให้แก่มนุษย์และยังคงมีความรักต่อเขาอยู่ต่อไป โดยไม่ทรงนำมนุษย์ไปสู่การพิพากษาที่ชอบธรรม แต่ตรงกันข้ามกลับทรงแสดงให้เขาเห็นการยอมผ่อนปรน ความอดทน และการให้อภัย และยกโทษให้มนุษย์ไม่ว่าบาปของเขาจะมหันต์เพียงใด โดยไม่มีการพิพากษาอันชอบธรรมแม้แต่นิดเดียว กล่าวคือ เช่นนั้นแล้ว เมื่อใดเล่าที่การบริหารจัดการทั้งหมดของพระเจ้าจะได้มาถึงการปิดตัวเสียที? เมื่อใดที่พระอุปนิสัยเช่นนี้จะสามารถนำทางผู้คนไปสู่บั้นปลายที่เหมาะสมของมวลมนุษย์? ดูตัวอย่างของผู้พิพากษาคนหนึ่งที่มีความรักอยู่เสมอ ผู้พิพากษาที่มีใบหน้าดูใจดีและมีหัวใจอ่อนโยน เขารักผู้คนโดยไม่คำนึงถึงอาชญากรรมที่พวกเขาอาจได้กระทำมา และเขามีความรักและความอดกลั้นกับพวกเขาไม่ว่าพวกเขาอาจจะเป็นใคร ในกรณีนั้น เมื่อใดเขาจึงจะสามารถไปถึงการตัดสินที่ยุติธรรมได้เสียที? ในระหว่างยุคสุดท้าย มีเพียงการพิพากษาอันชอบธรรมเท่านั้นที่สามารถแยกมนุษย์ไปตามประเภทของพวกเขาและนำพามนุษย์ไปสู่อาณาจักรใหม่ได้ ในหนทางนี้ ทั่วทั้งยุคนั้นถูกนำพาไปถึงบทอวสานโดยผ่านทางพระอุปนิสัยอันชอบธรรมในการพิพากษาและการตีสอนของพระเจ้า

—พระวจนะฯ เล่ม 1 การทรงปรากฏและพระราชกิจของพระเจ้า, นิมิตแห่งพระราชกิจของพระเจ้า (3)

การพิพากษาวาระสิ้นสุดอันชอบธรรมของพระเจ้านั้นแยกประเภทมนุษย์

Verse 1

ในพระราชกิจพระเจ้างานสุดท้าย ของการปิดยุคจบไปนั้น พระอุปนิสัยพระเจ้ามีไว้ตีสอน เพื่อเผยทุกสิ่งที่ไม่ชอบธรรม และพิพากษาผู้คนทั้งหมดให้เห็นกัน ทำให้ผู้รักพระองค์อย่างแท้จริงนั้น เพียบพร้อม พระอุปนิสัยเช่นนี้สามารถปิดยุคลง

Verse 2

ยุคสุดท้ายมาปรากฏที่นี่ ทุกสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง จะถูกแยกตามธรรมชาติ และประเภทของสิ่งนั้น นี่คือช่วงเวลาที่พระเจ้าทรงแสดง ชะตากรรมและบั้นปลายมนุษย์ หากไม่พิพากษาการไม่เชื่อฟัง และความไม่ชอบธรรมของผู้คน จะไม่ถูกเปิดโปงให้เห็นกัน

Chorus

โดยการพิพากษา การตีสอน เพียงเท่านั้น ชะตากรรมของสิ่งทรงสร้างจะถูกเผย ตัวตนแท้จริงของคนจะเผยออกมา คนชั่วไปอยู่กับคนชั่ว คนดีไปอยู่กับคนดี คนชั่วจะได้รับการลงทัณฑ์ คนดีจะได้รับรางวัลตอบแทน ผู้คนจะได้รับการแบ่งแยกกัน ตามประเภทตน ยอมอยู่ในแดนครอบครองของพระเจ้า

Verse 3

ความเสื่อมทรามของมวลมนุษย์ ได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ความไม่เชื่อฟังของมนุษย์นั้น ช่างร้ายแรง มีเพียงพระอุปนิสัยอันชอบธรรม ประกอบด้วย การตีสอน การพิพากษา ที่จะเปลี่ยนคน และทำให้ครบถ้วนบริบูรณ์ เปิดโปงคนชั่วร้ายลงโทษผู้ไม่ชอบธรรม

Verse 4

พระอุปนิสัยเช่นนี้ถูกแทรกซึมด้วยนัยสำคัญของยุคนั้น พระเจ้าทรงเปิดเผยพระอุปนิสัยเพื่อพระราชกิจของยุคใหม่แต่ละยุค ไม่ได้ทรงเปิดเผยตามพระทัย หรือไม่มีนัยสำคัญ

Chorus

โดยการพิพากษา การตีสอน เพียงเท่านั้น ชะตากรรมของสิ่งทรงสร้างจะถูกเผย ตัวตนแท้จริงของคนจะเผยออกมา คนชั่วไปอยู่กับคนชั่ว คนดีไปอยู่กับคนดี คนชั่วจะได้รับการลงทัณฑ์ คนดีจะได้รับรางวัลตอบแทน ผู้คนจะได้รับการแบ่งแยกกัน ตามประเภทตน ยอมอยู่ในแดนครอบครองของพระเจ้า

Verse 5

หากแม้นในช่วงยุคสุดท้าย เมื่อชะตากรรมมนุษย์ถูกเผยออกมา พระเจ้ายังคงมอบความรัก ความเมตตาไม่มีสิ้นสุด ไม่ทรงพิพากษาผู้ใด แต่กลับทรงอดทน ทรงยอมให้อภัย ไม่ว่าความรุนแรงของบาปที่คนก่อนั้น จะมากเพียงใด แล้วเมื่อใดที่แผนการบริหารจัดการ ของพระองค์จะสิ้นสุดลง และเหล่ามวลมนุษย์ ได้พบกับชะตากรรมที่เหมาะสม

Chorus

โดยการพิพากษา การตีสอน เพียงเท่านั้น ชะตากรรมของสิ่งทรงสร้างจะถูกเผย ตัวตนแท้จริงของคนจะเผยออกมา คนชั่วไปอยู่กับคนชั่ว คนดีไปอยู่กับคนดี คนชั่วจะได้รับการลงทัณฑ์ คนดีจะได้รับรางวัลตอบแทน ผู้คนจะได้รับการแบ่งแยกกัน ตามประเภทตน ยอมอยู่ในแดนครอบครองของพระเจ้า

Outro

การพิพากษาที่ชอบธรรม คือทางเดียวเท่านั้นที่จะแยกประเภทมนุษย์ และนำพวกเขาไปสู่อาณาจักรใหม่ พระอุปนิสัยอันชอบธรรมของพระเจ้า จะนำยุคนี้ทั้งปวง ไปยังที่ปลายทาง

จาก ติดตามพระเมษโปดกและขับร้องบทเพลงใหม่ๆ

ดูเพิ่ม

ปี 2022 โรคระบาดร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว การกันดารอาหาร และสงครามยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน พระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรเบื้องหลังภัยพิบัติเหล่านี้? เข้าร่วมการเทศนาออนไลน์แล้วจะบอกคำตอบให้แก่คุณ

Leave a Reply

แบ่งปัน

ยกเลิก

ติดต่อเราผ่าน Messenger