ผู้เชื่อรายนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการทหาร แต่หลังจากที่ถูกย้ายไปยังรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งเพื่อเข้ารับกิจการงานของพรรค เขาก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นการต่อสู้ เล่ห์กล และความเหี้ยมโหดซึ่งมีอยู่ทั่วไปภายในพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งทิ้งให้เขาน่าเวทนาและซึมเศร้า พอดีกับที่เขากำลังรู้สึกสับสนอย่างที่สุดอยู่นั้น เขายอมรับองค์พระเยซูเจ้าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา และต่อมาเขาได้ยินข่าวประเสริฐแห่งยุคสุดท้ายของพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ และเห็นว่า พระวจนะทั้งหมดของพระองค์คือความจริง เขารู้สึกว่าได้รับการบำรุงเลี้ยงภายในดวงจิตของเขา และตั้งใจแน่วแน่ที่จะแบ่งปันและเป็นพยานให้ข่าวประเสริฐแห่งยุคสุดท้ายของพระเจ้า เขาต้องประหลาดใจที่ว่า เมื่อบรรดาพี่น้องชายหญิงในองค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งครั้งหนึ่งได้ปรากฏว่าเป็นคริสตชนผู้เปี่ยมศรัทธาเหลือเกิน ได้ยินข่าวที่ช่างวิเศษเกี่ยวกับการทรงกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาก็แสดงอีกด้านหนึ่งของตัวพวกเขาเองทันที พวกเขาเหล่านั้นปล่อยเหล่าสุนัขให้เข้าไปหาเขา พวกเขาขว้างปัสสาวะและอุจจาระใส่เขา พวกเขาต่อยและเตะเขา และถึงขั้นแจ้งตำรวจให้รับรู้เรื่องของเขา พวกเขากลับกลายเป็นว่าไม่ต่างไปจากพวกฟาริสีซึ่งได้กดขี่องค์พระเยซูเจ้าในวันของพระองค์ เขาได้รับสำนึกอย่างแท้จริงเกี่ยวกับว่า การที่พระเจ้าทรงช่วยมวลมนุษย์ให้รอดนั้นเป็นการลำบากยากเย็นเพียงใด ในเวลาที่เขาแบ่งปันข่าวประเสริฐและคำพยานเกี่ยวกับพระเจ้าของเขา และในขณะที่เผชิญหน้ากับความยากลำบากทุกอย่าง เพลงสรรเสริญที่ชื่อ "การก้าวหน้าไปตามเส้นทางแห่งการรักพระเจ้า" ดังขึ้นในหูของเขาอยู่เสมอ เพลงสรรเสริญนี้ดลใจอย่างลึกซึ้งสำหรับดวงจิตของเขาอยู่เสมอ